ในวันก่อนเก่า มันอาจเคยเป็นของเล่นของเหล่าเด็กผู้หญิง แต่มีความพิเศษกว่า ตุ๊กตาหญิงสาวที่สามารถแต่งกายในชุดอะไรก็ได้ที่อยากให้เป็น สำหรับผู้ชายที่เคยเป็นเด็กผู้ชายมาก่อน อาจจะได้แค่มองเห็นว่าโลกนี้มีของเล่นชิ้นนี้อยู่ แต่วันนี้ มนุษย์ทุกคนไม่ว่าจะเพศใดก็สามารถจะซึมซับและเข้าใจความเป็น ‘Barbie’ ได้แล้วด้วยการชมภาพยนตร์คนแสดงเรื่องนี้
จากของเล่นที่ปฏิวัติวงการจาก Mattel ที่เปิดให้ทุกคนสามารถแต่งตัวให้กับตุ๊กตาตามที่ใจปรารถนาได้ จากเดิมที่ค่ายไม่ค่อยมั่นใจนักกับบทบาทในแอนิเมชัน ‘Toy Story’ ภาคแรก ก่อนที่บาร์บี้จะได้รับบทบาทที่สำคัญขึ้นเรื่อยๆ ในภาคถัดๆ มา และได้มีแอนิเมชันเป็นของตนเอง ตอนนี้ เธอได้โอกาสโลดแล่นบนโลกเซลลูลอยด์ในแบบหนังคนแสดงแล้ว จากการร่วมมือกันของค่ายหนังอย่าง WB ที่ร่วมมือกันกับ Margot Robbie แห่ง LuckyChap Entertainment สร้างเรื่องราวและภาพจำของบาร์บี้ใหม่ โดยให้ Greta Gerwig ร่วมเขียนบทกับ Noah Baumbach
ทีแรกก็เตรียมจะให้อีกคนเล่น แต่สุดท้าย ก็กลายเป็นว่า มาร์โกต์ นั่นแหละที่สมควรจะเล่นเป็นบาร์บี้เอง
เรื่องย่อหนัง ‘Barbie’
ในโลกของบาร์บี้ที่เรียกว่า บาร์บี้แลนด์ มีตุ๊กตาบาร์บี้มากมายหลายตัว ทุกตัวชื่อเดียวกันหมด แต่หนังเรื่องนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับ บาร์บี้เวอร์ชันพิมพ์นิยม (Margot Robbie จากหนังเรื่อง ‘Babylon’ และ ‘The Suicide Squad’) เธอเป็นสาวสวยผิวขาวผมบลอนด์ที่มีชีวิตอย่างสมบูรณ์แบบในโลกที่ผู้หญิงสามารถทำอะไรได้ทุกอย่าง เป็นได้ทุกอย่างที่พวกเธอต้องการ
และในโลกใบนั้น ก็มีเคนอยู่หลายเคน ทุกเคนหลงรักบาร์บี้ แต่มีอยู่เคนหนึ่ง (Ryan Gosling จากหนังเรื่อง ‘Drive’, ‘La La Land’ และ ‘First Man’) ที่หลงใหลในบาร์บี้พิมพ์นิยมนี้อย่างสุดใจ เขามอบความรักให้อย่างเต็มเปี่ยมแต่ก็ไม่เคยได้รับรักกลับมาเลยสักครั้ง แต่ว่าในวันหนึ่ง บาร์บี้ก็พบความผิดปกติขึ้นกับตัวเอง จนเมื่อได้ไปปรึกษาเวิร์ดบาร์บี้เพื่อหาทางรักษา จึงได้รู้ว่าเธอต้องเดินทางไปยังโลกจริงเพื่อแก้ไขให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม
รีวิวหนัง ‘บาร์บี้’
ในโลกของบาร์บี้แลนด์โลกสีชมพูสดใสของเธอนั้น เธอเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ เธอสามารถนอนหลับอยู่ในบ้านที่เปิดให้แสงส่องเข้ามาอย่างเต็มที่ ดื่มกาแฟที่ไม่ต้องมีกาแฟ อาบน้ำจากฝักบัวที่ไม่ต้องมีน้ำ แต่แล้วจู่ ๆ เธอก็กลับคิดและพูดเรื่อง “ความตาย” ขึ้นมา แถมยังมีอาการเท้าแบนขึ้นมาอีก ความผิดปกตินี้เอง ที่ทำให้บาร์บี้ต้องชิ่งออกจากบาร์บี้แลนด์สู่ดินแดนโลกจริง
ในยุคที่ผู้ชายเป็นใหญ่อย่างเต็มขั้น ผู้หญิงต้องเป็นแม่บ้าน ทำงานบ้านทุกอย่าง ทั้งยังต้องเลี้ยงลูก ดูแลสามี ไม่พอยังต้องดูแลตัวเองให้สวยเพื่อผูกมัดใจสามีอีก ความอัดอั้นตันใจนั้นเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดของเล่นที่เป็นตุ๊กตาผู้หญิงที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วขึ้นมา โดยที่ทุกคนที่เป็นเจ้าของมันสามารถแต่งองค์ทรงเครื่องได้ตามใจ แถมก็เหมือนรุ่นต่อๆ มาก็จะเพิ่มให้มีสีผิวที่หลากหลาย และอื่นๆ อีกด้วย
มันเป็นหนังแนวผจญภัยที่ใส่ความแฟนตาซีเข้าไป แล้วเขียนให้ตัวเอกได้เรียนรู้เข้าใจความจริง เหมือนจะเป็น Coming-of-age ในแบบผู้ใหญ่หน่อยๆ ด้วยนะ สิ่งที่รู้สึกชื่นชอบในหนังเรื่องนี้ ก็คือ มันสร้างโลกของบาร์บี้ให้มีตัวตนขึ้นมา ทั้ง Greta Gerwig/เกรตา เกอร์วิก (ผู้มีเครดิตผู้กำกับจากหนัง ‘Lady Bird’ และ ‘Little Women’) และ Noah Baumbach/โนอาห์ บามบาค (ผู้เขียนบทหนัง ‘Marriage Story’ และ ‘Frances Ha’) ได้ช่วยสร้างโลกสมมติขึ้นมาให้เป็นโลกที่ผู้หญิงเป็นใหญ่ และผู้ชายต่างไร้ตัวตน ทำให้โลกตุ๊กตานั้นมีสีสันที่ชมพูเป็นสีหลัก ของเหลวไม่มีจริงในโลกนั้น แม้แต่ทะเลก็ต้องไม่ต้องมีน้ำทะเล ล้อไปกับการเล่นตุ๊กตาของเด็กผู้หญิงที่พวกเธอสมมติได้ว่าทุกอย่างเกิดขึ้นจริง
คอนฟลิกต์เริ่มเกิดขึ้นเมื่อมีบางสิ่งแปลกประหลาดเกิดขึ้นกับบาร์บี้ตัวนึง คำแนะนำของผู้ล่วงรู้บอกให้บาร์บี้ออกเดินทางสู่โลกจริง โดยที่มีเคนผู้หลงรักเธอหัวปักหัวปำแอบเดินทางไปด้วย และได้พบเจอกับโลกที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง โลกที่เป็นขั้วตรงข้าม โลกที่ผู้ชายเป็นใหญ่ (แม้จะจางลงบ้างแล้วก็ตามทีเถอะ) และทำให้สองตุ๊กตาต่างเพศกันได้เรียนรู้สิ่งแปลกใหม่ในเส้นทางที่แตกต่างกัน
จากนั้น หนังก็จิกกัดและแซะปิตาธิปไตยอย่างสนุกมือ ในสไตล์ที่ทั้งรู้สึกชวนหัวและโจ่งแจ้ง บางส่วนที่อ้างอิงหนังดังในอดีต บ้างหยิบเอาป็อปคัลเจอร์มาเล่นมุก แน่นอนว่า มันต้องเป็นประเด็นหนักแน่ๆ แต่หนังก็เล่าออกมาได้หลากหลายท่ามกลางความสดใสของสีสันความแฟนตาซีของโลกตุ๊กตา และก็ไม่เท่านั้น เพราะมันยังลามไปถึงเรื่องการเมือง ที่คล้ายมาได้ตรงเวลาพอดิบพอดีกับการเมืองบ้านเราเลยนะเนี่ย งานนี้ ชายแท้ มีร้อน ๆ หนาว ๆ กันบ้างล่ะ
และเหนือสิ่งใด หนังก็ไม่ได้มุ่งเน้นแต่เรื่องจิกกัดสังคมปิตาธิปไตยเท่านั้น แม้แต่ในโลกของบาร์บี้เอง ก็ยังจิกกัดเรื่องความสมบูรณ์แบบ สนใจแต่เรื่อง Beauty Standard (ก่อนขยายขอบเขตให้หลากหลายขึ้นในปัจจุบัน) แถมบทหนังยังเสาะแสวงหามุมมองที่ไปไกลกว่านั้นอย่างการรับรู้คุณค่าของตัวเองให้กับผู้ชมด้วย
ไม่ว่าจะเป็นคนเพศไหน ทุกคนน่าจะอยากเห็นสังคมที่ทุกเพศต่างได้รับความสำคัญที่เท่าเทียม คงไม่มีใครอยากได้สังคมที่ชายเป็นใหญ่หรือหญิงเป็นใหญ่เป็นแน่
Taglines: She’s everything. He’s just Ken.
ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้ ถือว่ามีอยู่หลายส่วนเช่นกัน นอกเหนือจากการสร้างบาร์บี้แลนด์แดนสีชมพูได้น่ารักน่าเอ็นดูแล้ว นักแสดงทั้งตัวหลักและสมทบต่างทำหน้าที่ส่งเสริมกันได้เป็นอย่างดี ผสมผสานการเล่าในแบบละครเวที/ละครเพลง จนไม่อาจปฏิเสธว่า มันเป็นหนังที่นำแง่มุมความคิดที่จริงจังของความเท่าเทียมทางเพศ มาปะทะกับโลกแฟนตาซีสีสันสดใส
กลายเป็นหนังที่ย่อยงาย รสชาติแปลกและแตกต่างไปจากที่เคย
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | Barbie / บาร์บี้ |
กำกับ | Greta Gerwig |
เขียนบท | Greta Gerwig, Noah Baumbach |
แสดงนำ | Margot Robbie, Ryan Gosling, Emma Mackey, Ariana Greenblatt, Kingsley Ben-Adir, Dua Lipa, Helen Mirren, Simu Liu |
แนว/ประเภท | ผจญภัย, คอเมดี้, แฟนตาซี, โรแมนติก |
เรท | PG-13 |
ความยาว | 114 นาที |
ปี | 2023 |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
เข้าฉายในไทย | 20 กรกฎาคม 2023 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | Warner Bros., Heyday Films, LuckyChap Entertainment |
คะแนนหนัง บาร์บี้
พล็อตและบท - 7.9
การแสดง - 7.9
การดำเนินเรื่อง - 7.7
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.9
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 8
7.9
Barbiie
เรื่องราวของบาร์บี้และเคนที่อยู่ในบาร์บี้แลนด์ และได้ออกมาเผชิญโลกปิตาธิปไตย ก่อนจะเล่าเรื่องให้ไกลไปกว่านั้น ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้ก็ถือว่ามีอยู่หลายส่วนเช่นกัน นอกเหนือจากการสร้างบาร์บี้แลนด์แดนสีชมพูได้น่ารักน่าเอ็นดูแล้ว นักแสดงทั้งตัวหลักและสมทบต่างทำหน้าที่ส่งเสริมกันได้เป็นอย่างดี ผสมผสานการเล่าในแบบละครเวที/ละครเพลง จนไม่อาจปฏิเสธว่า มันเป็นหนังที่นำแง่มุมความคิดที่จริงจังของความเท่าเทียมทางเพศ มาปะทะกับโลกแฟนตาซีสีสันสดใส กลายเป็นหนังที่ย่อยงาย รสชาติแปลกและแตกต่างไปจากที่เคย