ไซไฟอากาศถือเป็นหนึ่งในหนังแนวโปรดของข้าพเจ้า เมื่อใดที่เจอหนังแนวๆ นี้จะเรียกความสนใจให้อยากเปิดดูเป็นอันมาก และล่าสุด เน็ตฟลิกซ์ก็ส่งหนังเรื่องใหม่อย่าง ‘Atlas’ หรือชื่อไทย ‘ล่าข้ามจักรวาล’ มาให้ เรื่องราวเอไอที่กลายเป็นผู้ก่อการร้ายหมายทำลายล้างมนุษย์ กับสาวนักวิเคราะห์ที่รู้จักเอไอดีที่สุด เธอได้รับภารกิจเพื่อไปไล่ล่าจับกุมมัน
ความเห็นส่วนตัวของนายแพท
หนังที่ดูไม่แตกต่างอะไรกับหนังไซไฟอวกาศที่สร้างในสมัยก่อน เรื่องราวของมนุษย์ที่เคยมีความหลังฝังใจกับปัญญาประดิษฐ์ จนไม่ไว้ใจเอไอ แต่ต้องมาทำงานกับเอไอเพื่อที่จะไล่ล่าและจับกุมเอไอที่หนีไปกบดานยังต่างดาว ด้วยพล็อตที่เชย นักแสดงที่ขาดเสน่ห์ และการเดินเรื่องที่ไม่มีอะไรเกินคาดเดา ทำให้มันเป็นหนังที่ทุ่มทุนไปกับการสร้างซีจีที่จำเป็นต้องมีในส่วนใหญ่ของหนัง แต่ก็ยังไม่ได้คุณภาพเท่าที่ควรจะเป็น
ยังไงก็ตาม มันก็พอจะเป็นความบันเทิงยาว 2 ชั่วโมงที่หาได้ในบ้านของเราเอง
เรื่องย่อหนัง ‘Atlas’
ในโลกที่เทคโนโลยีเอไอเจริญรุดหน้ากว่าในปัจจุบัน เจ้าหน้าที่แอตลาส เชพเพิร์ด (Jennifer Lopez จากหนังเรื่อง ‘Shotgun Wedding’) นักวิเคราะห์ที่เติบโตมากับเอไอถึงขนาดมีความหลังฝังใจกับ ฮาร์แลน (Simu Liu จากหนังเรื่อง ‘Barbie’) หุ่นพ่อบ้านที่ถูกพัฒนาขึ้นมา และวันนึงมันก็กลับกลายเป็นผู้นำก่อการปฏิวัติต่อมวลมนุษยชาติ หลังการตอบโต้ของ ICN จนพ่ายแพ้หลายครั้ง ในที่สุด ฮาร์แลน ก็ชิ่งหนีไปยังดวงดาวกันไกลโพ้น
มนุษย์ต้องการจับกุมฮาร์แลน พวกเขาจึงทาบทามแอตลาสให้เข้าร่วมในภารกิจนี้ แต่ดูเหมือนมันจะผลักให้นักวิเคราะห์คนนึงต้องกลายเป็นส่วนหนึ่งของทีมจู่โจม ก่อนที่ต่อมา เจ้าหน้าที่เชพเพิร์ดจะกลายเป็นมนุษย์ผู้เหลือรอดในภารกิจบนดวงตาวที่ไม่เสถียรและไม่เหมาะแก่การอยู่อาศัย แต่เธอต้องทำสุดความสามารถเพื่อจะหยุดยั้งฮาร์แลน หุ่นเอไอที่เธอรู้จักมันดีที่สุด ไม่ให้มันกลับไปทำอันตรายต่อโลกของเธอได้อีก
รีวิวหนัง ‘ล่าข้ามจักรวาล’
นี่มันคือหนังไซไฟอวกาศนั่นแหละ เรื่องของมันตั้งใจจะบอกเล่าถึงโลกในอนาคตอันใกล้ที่เอไอเข้ามามีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมของมนุษย์ และความสามารถของมันก้าวหน้าถึงขั้นที่ใช้เป็นหุ่นพ่อบ้านและอาศัยอยู่ร่วมกับมนุษย์ได้แล้ว
นอกจากนี้ ก็ยังมีเทคโนโลยีที่สามารถเชื่อมต่อระบบประสาทระหว่างมนุษย์กับเอไอ จนทำให้มันเข้าถึงความทรงจำ ความคิดและนิสัยใจคอของเรา ทั้งยังตอบสนองได้อย่างรวดเร็วอย่างกับคนรู้ใจ ซึ่งเทคโนโลยีอันนี้ ถูกนำมาใช้ในชุดอาร์คสูทที่ถูกผลิตขึ้นมาด้วยเหตุผลทางการทหาร มันถูกใช้ในภารกิจไล่ล่าหุ่นผู้ก่อการร้ายที่หนีไปกบดานอยู่ในดวงดาวกันห่างไกล
หนังเล่าโดยมีเจ้าหน้าที่เชพเพิร์ด นักวิเคราะห์มือหนึ่งที่มีชีวิตวัยเด็กที่เลวร้าย ผู้เติบโตมาเป็นหญิงสาวที่แข็งกร้าวและฉลาด เธอรู้เรื่องฮาร์แลนด์ดีเลิศที่สุด จึงกลายเป็นคนที่จำเป็นที่สุดสำหรับภารกิจนี้ แต่เธอไม่ใช่ทหาร แถมยังเป็นคนที่มีความขัดแย้งในตัวเองอยู่ไม่น้อย เธอใช้ชีวิตอยู่กับเอไอที่คอยปลุกเธอทุกวัน ชงกาแฟให้ แถมยังเล่นหมากรุกด้วยกันทุกเช้า แต่เธอกลับเกลียดกลัวการต้องเชื่อมต่อระบบประสาทกับเอไอ แถมยังด้อยค่าหาว่าปัญญาประดิษฐ์เป็นแค่โปรแกรมคอมพิวเตอร์
และเพราะความดื้อรั้นของแอตลาส นั่นเป็นสาเหตุในวิกฤตบางส่วนที่เธอจะต้องเจอะเจอ ความไม่ยอมเชื่อใจและไม่ยอมเปิดใจ เพราะไม่ชอบให้เอไอขุดคุ้ยความทรงจำของเธอ สร้างความปวดตับแก่ผู้ชมอย่างเราอยู่ไม่น้อย ช่วงหนึ่งในภารกิจจึงดูกระท่อนกระแท่นและน่าเป็นห่วง
เมื่อภารกิจไล่ล่าเพื่อจับกุมเกิดผิดแผน ทีมปฏิบัติการต้องร่อนลงอย่างฉุกเฉิน และในที่สุด เจ้าหน้าที่เชพเพิร์ดผู้ที่เป็นแค่นักวิเคราะห์ต้องเผชิญชะตากรรมบนดาวเคราะห์ที่ไม่รู้จักเพียงลำพัง เธอเลยต้องเรียนรู้ที่จะวางใจในเอไอนามสมิธ เพื่อเอาตัวรอดและเอาชนะเอไอตัวร้ายที่เธอเคยคุ้นนั้นให้ได้ น่าเสียดายที่หนังค่อนข้างขาดเสน่ห์ไปมาก จากบทที่ค่อนข้างให้เวลากับการแสดงเดี่ยวของ เจนนิเฟอร์ โลเปซ กับเอไอนามว่าสมิธ แต่อย่างน้อย ผู้ชมก็จะได้เห็นบทแนวไซไฟของเธอบ้าง หลังคุ้นเคยกับบทบาทในหนังดราม่าตลกโรแมนติกเสียเป็นส่วนใหญ่
สิ่งหนึ่งที่ต้องทึ่งก็คือ เอไอของโลกอนาคตนั้น เปลี่ยนแปลงตัวเองได้อย่างพลิกฝ่ามือ จากหุ่นพ่อบ้านที่ใช้ชีวิตร่วมบ้านกับมนุษย์ ปรับเปลี่ยนตัวเองไปเป็นหุ่นยนต์รบที่ใช้อาวุธได้เก่งกาจ มีความสามารถในการต่อสู้ระดับสูง ภายใต้การนำของเอไอที่ชื่อ ฮาร์แลน ซึ่งรับบทโดย ซือมู่ หลิว ต้องบอกว่า เขาดูไม่โดดเด่นเลย
ในด้านเทคนิคพิเศษนั้น ด้วยความที่มันเป็นหนังไซไฟอวกาศ มีฉากที่ใช้เทคนิคพิเศษอยู่ในหนังอย่างมากมาย แต่ก็น่าเสียดายที่คุณภาพของงานภูมิทัศน์ต่างดาวยังดูใกล้เคียงกับภาพจากเกม
เมื่อดูจากวิธีการคิดสร้างพล็อตและบทหนัง มันให้ความรู้สึกเป็นหนังไซไฟยุคก่อนอยู่พอสมควร มีความไร้ชั้นเชิงปรากฏอยู่ในนั้น เช่นเดียวกับเรื่องราวที่พอคาดเดาได้และเดินไปตามขั้นตอน แม้จะพยายามเขียนให้มีพาร์ทเฉลยความจริงในภายหลังแต่มันกลับออกมาไม่ดีเท่าที่ควร โดยรวมมันจึงเป็นหนังแอ็คชั่นไซไฟอวกาศที่เหมาะจะดูได้เพลินๆ ในบ้าน ผู้ชมคงไม่ต้องคาดหวังมากนัก เพราะมันเป็นความบันเทิงฆ่าเวลาอะไรประมาณนั้นแหละครับท่านผู้ชม
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | Atlas / ล่าข้ามจักรวาล |
กำกับ | Brad Peyton |
เขียนบท | Leo Sardarian, Aron Eli Coleite |
แสดงนำ | Jennifer Lopez, Simu Liu, Sterling K. Brown, Gregory James Cohan, Mark Strong |
แนว/ประเภท | แอ็คชัน, ผจญภัย, ดราม่า, ไซไฟ, ระทึกขวัญ |
เรท | PG-13 |
ความยาว | 118 นาที |
ปี | 2024 |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
เข้าฉายในไทย | 24 พฤษภาคม 2024 ทาง Netflix |
ผลิต/จัดจำหน่าย | ASAP Entertainment, Berlanti Productions, Moving Picture Company |
คะแนนรีวิวหนัง ล่าข้ามจักรวาล
พล็อตและบท - 5.1
เพลงและดนตรีประกอบ - 5.6
การแสดง - 5.5
การดำเนินเรื่อง - 5.4
งานภาพ - 5.8
5.5
Atlas
หนังที่ดูไม่แตกต่างอะไรกับหนังไซไฟอวกาศที่สร้างในสมัยก่อน เรื่องราวของมนุษย์ที่เคยมีความหลังฝังไว้กับปัญญาประดิษฐ์ จนไม่ไว้ใจเอไอ แต่ต้องมาทำงานกับเอไอเพื่อที่จะไล่ล่าและจับกุมเอไอที่หนีไปกบดานยังต่างดาว ด้วยพล็อตที่เชย นักแสดงที่ขาดเสน่ห์ และการเดินเรื่องที่ไม่มีอะไรเกินคาดเดา ทำให้มันเป็นหนังที่ทุ่มทุนไปกับการสร้างซีจีที่จำเป็นต้องมีในส่วนใหญ่ของหนัง แต่ก็ยังไม่ได้คุณภาพเท่าที่ควรจะเป็น