มีหนังญี่ปุ่นเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจกำลังจะเข้าฉายบ้านเราในช่วงหลังสงกรานต์ ที่น่าสนใจก็คือ มันเป็นหนังมีคอนเซ็ปต์ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในสถานที่ที่เดียว คือ ม้านั่งตัวที่หลงเหลืออยู่หลังสวนริมแม่น้ำได้หายไป โดยมีหลายตัวละครที่วนเวียนมานั่งบนมัน ทำให้ได้เจอกับนักแสดงคุ้นหน้ามากมายในหนังเรื่องเดียว ขอเชิญทุกคนมารู้จักกับ ‘At The Bench’ หรือชื่อไทยสุดน่ารักและครีเอต ‘ใครมั่งน้า…ที่ม้านั่ง’ กันครับ
คิดเห็นเช่นไรกับหนัง ‘ม้านั่ง’ เรื่องนี้?
ม้านั่งที่เหลือเพียงตัวเดียวในสวนที่ถูกรื้อถอน แม้มันเดียวดายที่ยังมีเหล่ามนุษย์ที่ผูกพันและอาลัยมัน หนังญี่ปุ่นที่ช่างสรรหาคอนเซ็ปต์มาบอกเล่า แถมยังได้พาเอานักแสดงชื่อดังที่เราชื่นชอบมาเล่นในเรื่องเดียวกัน บทสนทนาที่หลั่งไหลราวกับสายน้ำ พาคนดูอ่านซับอย่างแทบไม่มีโอกาสได้เงยมองหน้านักแสดง มันดูเหมือนไม่มีบทที่ตายตัว แต่พวกเขากลับเล่นกันได้อย่างไหลลื่น ใส่สาระแทรกไว้ในนั้นได้อย่างกลมกลืน พาขำและเหวอได้อย่างร้ายกาจ
แถมยังมีความเบียวที่หาที่ไหนไม่ได้นอกจากในหนังญี่ปุ่น
เรื่องย่อหนัง ‘At The Bench’
ม้านั่งตัวเดียวที่เหลืออยู่กลางพื้นที่ริมน้ำที่เคยเป็นสวน ตอนนี้มันกลายเป็นสถานที่สำหรับคนที่มีความผูกพันกับที่นี่ พวกเขาจะเวียนหน้ากันแวะมานั่งและพูดคุยสนทนากัน
มีทั้งเพื่อนสนิทวัยเด็กที่ไม่ค่อยได้เจอกันมาพักใหญ่ แม้จะดูเคอะเขินแต่มันกลับมีความหมาย มีทั้งคู่รักที่คบกันมานานแต่ระหองระแหงกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มีทั้งพนักงานเมืองที่กำลังวางแผนจะรื้อถอนมันออกไป อ่อ แล้วก็ยังมีคู่พี่น้องที่ออกโรงโต้เถียงกันอื้ออึงอีกนะ พวกเขาต่างพากันมาสนทนาที่นี่ บนม้านั่งน้อย ๆ ตัวนี้ที่เหลืออยู่เพียงตัวเดียว
รีวิวหนัง ‘วันนั้นของมาร์กาเร็ต’
หนังเรื่องนี้ เป็นฝีมือการกำกับครั้งแรกของ โยชิยูกิ โอคุยามะ เขาคือหนึ่งในช่างภาพระดับแถวหน้าของญี่ปุ่น ที่ร่วมมือกับทีมโปรดักชันเดียวกับผู้สร้าง ‘Perfect Days’ ไม่รู้เพราะเหตุนี้หรือเปล่า มันจึงออกเป็นหนังคอนเซปต์ แต่แตกต่างตรงที่เรื่องนั้นพาไปชมห้องน้ำหลายที่ แต่เรื่องนี้ เล่าเรื่องจุดเดียวจุดเดิมคือมานั่งเดียวดาย
นี่มันหนังรวมนักแสดงแถวหน้าของญี่ปุ่นนี่นา
หน้าหนังอาจไม่ชักชวนเท่าไหร่ แต่มันคืองานรวมทัพนักแสดงแถวหน้าของญี่ปุ่นมากหน้าในหนังเรื่องเดียว ความจริงแล้ว หนังถูกแบ่งออกเป็นตอนย่อย และแต่ละตอนก็จะมีตัวละคร 2-3 ตัวที่มานั่งบนม้านั่งตัวนั้น ไม่ว่าจะเป็น ซึสึ ฮิโรเสะ ที่เราเจอกันมาหลายเรื่องอย่างเช่น ‘Our Little Sister’ และ ‘The Third Murder’ มาเรื่องนี้ เธอได้บทคู่กับ ไทกะ นาคาโนะ จากหนังญี่ปุ่นเรื่องเยี่ยม ‘Under the Open Sky’ สองคนบนม้านั่งตัวเดียวกัน
คนถัดมาก็คือ ยูกิโนะ คิชิอิ จากหนัง ‘Small’ และ ‘Slow But Steady’, อามาเนะ โอคายามะ คนที่ให้เสียงพากย์ในหนังแอนิเมชันคนรักดนตรีแจ๊ส ‘Blue Giant’ และ โยชิโยชิ อาราคาวะ จากหนังเรื่อง ‘Cloud’ สามคนนี้เล่นร่วมกันในตอนที่สอง
พอมาถึงตอนที่สาม ก็เป็นทีของสองนักแสดงหญิงขวัญใจใครหลายคนอย่าง นานะ โมริ จากหนัง ‘April, Come She Will’ ที่มาเล่นเป็นพี่น้องของ มิโอะ อิมาดะ นางเอกคนสวยจากหนัง ‘Tokyo Revengers’ และ ‘My Happy Marriage’ นั่นยังไงล่ะครับ
ตอนถัดมา เราก็จะได้พบกับ สึโยชิ คุซานางิ จากหนัง ‘Midnight Swan’ ที่มี ริโฮะ โยชิโอกะ จากหนัง ‘Haken Anime’ กับ ริวโนะสุเกะ คามิกิ จากหนังสัตว์ประหลาดยักษ์ ‘Godzilla Minus One’ มาเล่นด้วยกัน
1 ม้านั่ง 5 เรื่องราว ที่ชวนประทับใจ
อาจเป็นการตั้งโจทย์ขึ้นมาว่า ถ้าหนังจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นบนโลเกชันเดียว คือ ม้านั่งริมแม่น้ำในโตเกียวที่เหลือเพียงตัวเดียว บนพื้นที่ที่เคยเป็นสวนสาธารณะและถูกรื้อถอนไป เพื่อรอก่อสร้างสิ่งใหม่มาแทนที่ มันจะถูกเล่ายังไงให้คนสนใจเข้ามาดูและรู้สึกชื่นชอบ และผลสรุปก็ออกมาว่า ผู้กำกับจะให้ตัวหนังถ่ายทอดเรื่องราวผ่านห้าเรื่องราวแห่งความรักและครอบครัว ด้วยนักแสดงมีชื่อและมากฝีมือที่พร้อมทุ่มสุดตัวเพื่อสร้างอบอุ่นและป่วนฮาไปด้วยกัน และมันก็ออกมาเข้าทีเลยเชียว
การที่เลือกเล่าเป็นตอนๆ ก็นับว่า น่าสนใจดี เพราะมันจะพาผู้ชมไปเจอกับตัวละครที่หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันมานั่งที่นี่ แถมยังได้เรื่องราวหลากหลายอีกต่างหาก มันเริ่มต้นด้วยเรื่องเพื่อนสมัยเด็ก 2 คน ที่กลับมาเจอกันอีกครั้งหลังท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเย็น กับบทสนทนาที่ดูสบาย ๆ แต่กลับทำให้ความรู้สึกบางอย่างก่อตัว บทสนทนาที่เปลี่ยนจากเรื่องนั้นไปเรื่องโน้นอย่างไหลลื่น บอกใบ้เราว่า นักแสดงน่าจะได้รับบรีฟจากผู้กำกับ เข้าฉากไปด้นสดเอาเอง และพวกเขาแสดงได้เป็นธรรมชาติมาก ๆ
แต่ละตอนก็จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันไป แตกต่างสุดก็คงเป็นคู่พี่น้องที่ทะเลาะกันอย่างโหวกเหวกไม่อายใคร บางตอนก็เบียวสุดขีดตามแบบฉบับของหนังญี่ปุ่น ซึ่งก็พาขำได้ไม่หยุดเลย แต่ทุกตอนก็จะเจอบทสรุปของตนเอง ด้วยเคมีและความสามารถของนักแสดง รวมทั้งความสามารถในการกำกับด้วยแหละ
สิ่งที่อาจจะสร้างปัญหาให้กับการดูก็มีอยู่บ้าง อย่างการที่ตัวละครพูดคุยกันไม่หยุด ทำให้คนดูต้องอ่านซับยาวที่ขึ้นมาใหม่ตลอด อาจพาตาล้าไปได้เหมือนกัน แต่อีกนั่นแหละ ถ้าเรื่องนี้จะทำพากย์ไทย ก็คงยากที่จะได้อรรถรสเทียบเท่ากับการรับชมแบบเสียงญี่ปุ่น
สุดท้ายแล้ว เราได้อะไรจากหนังเรื่องนี้บ้างนะ ม้านั่งที่เหลืออยู่เพียงตัวเดียวท่ามกลางสวนสาธารณะที่ถูกรื้อถอนไป ถูกพูดถึง เปรียบเปรย ราวกับเป็นคนสำคัญในชีวิตของพวกเขา ซึ่งต่างคนต่างก็มองมันในมุมของตนเอง จากบทสนทที่เหมือนจะไร้สาระ แต่บางจุดมันกลับจับใจอย่างบอกไม่ถูก และบางทีมันอาจบอกเล่าความเป็นไปของชีวิต ที่ทุกสิ่งมีจุดเริ่ม จุดเปลี่ยนแปลง และจุดจบ และสำหรับเราที่ชีวิตมันยังไม่จบ เราก็ต้องไปต่อสิช่ายมะ
หลังดูภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่องนี้จบ ก็ตั้งตารอผลงานใหม่ของ โยชิยูกิ โอคุยามะ กันได้เลย เฉพาะมันคือ ‘5 Centimeters Per Second’ ฉบับคนแสดง ที่สร้างจากอนิเมะเรื่องดังของ มาโคโตะ ชินไค นั่นเอง
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | At the Bench / ใครมั่งน้า .. ที่ม้านั่ง / アット・ザ・ベンチ |
กำกับ | Yoshiyuki Okayama |
เขียนบท | |
แสดงนำ | Yoshiyoshi Arakawa, Suzu Hirose, Mio Imada, Ryunosuke Kamiki, Yukino Kishii, Tsuyoshi Kusanagi, Nana Mori, Taiga Nakano, Amane Okayama |
แนว/ประเภท | ดราม่า |
เรท | |
ความยาว | 86 นาที |
ปี | 2024 |
สัญชาติ | ญี่ปุ่น |
เข้าฉายในไทย | 17 เมษายน 2025 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | มงคล ภาพยนตร์, สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชันแนล |
คะแนนรีวิวหนัง ใครมั่งน้า .. ที่ม้านั่ง
พล็อตและบท - 7.5
การดำเนินเรื่อง - 8
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.5
การแสดง - 8
งานถ่ายภาพ - 8
7.8
At the Bench
ม้านั่งที่เหลือเพียงตัวเดียวในสวนที่ถูกรื้อถอน แม้มันเดียวดายที่ยังมีเหล่ามนุษย์ที่ผูกพันและอาลัยมัน หนังญี่ปุ่นที่ช่างสรรหาคอนเซ็ปต์มาบอกเล่า แถมยังได้พาเอานักแสดงชื่อดังที่เราชื่นชอบมาเล่นในเรื่องเดียวกัน บทสนทนาที่หลั่งไหลราวกับสายน้ำ พาคนดูอ่านซับอย่างแทบไม่มีโอกาสได้เงยมองหน้านักแสดง มันดูเหมือนไม่มีบทที่ตายตัว แต่พวกเขากลับเล่นกันได้อย่างไหลลื่น ใส่สาระแทรกไว้ในนั้นได้อย่างกลมกลืน พาขำและเหวอได้อย่างร้ายกาจ แถมยังมีความเบียวที่หาที่ไหนไม่ได้นอกจากในหนังญี่ปุ่น