ช่วงนี้ มีหนังเรื่องหนึ่งที่เป็นเจ้าของรางวัลปาล์มทองคำปีล่าสุด เป็นหนังฝรั่งเศสที่เต็งหนึ่งเข้าชิงรางวัลออสการ์นำหญิง ทั้งยังกวาดคะแนนรีวิวมะเขือสดไปถึง 96% อีก กลายเป็นหนังเรื่องเยี่ยมที่คอหนังตั้งตาอยากจะได้ดูในโรงภาพยนตร์ ใช่แล้ว เรื่องนั้นคือ ‘Anatomy of a Fall’ หรือชื่อไทย ‘เขาบอกว่าเธอฆ่า’ นั่นแหละ และก็ได้เวลาที่หนังเรื่องนี้จะเข้าโรงฉายกันแล้วล่ะครับ
ความเห็นส่วนตัวของนายแพท
ผลงานการกำกับของ ฌุสตีน ทริเยต์ เธอคือ ผู้กำกับหญิงคนที่สามที่คว้ารางวัลปาล์มทองคำมาครอง หนังดราม่าระทึกขวัญที่มีความยาวถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง และครึ่งหนึ่งเล่าเรื่องในห้องพิจารคดีของศาล แต่กลับกลายเป็นหนังที่ตรึงเราไว้กับเรื่องราวได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ ช่วงว่าความเป็นช่วงที่เราตื่นตัวสุดๆ เมื่อการโต้แย้งกันไปมาในห้องแคบๆ นั้น ลากดึงเอาปัญหาความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ออกมาเปิดเผยอย่างหมดเปลือก ตอบทุกประเด็นที่ทำให้เราได้เห็นว่า เป็นเพียงคนนอก ไม่อาจจะตัดสินอะไรคนอื่นได้หรอก
ทั้งแคสต์เล่นกันได้ดีเอามากๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งน้องหมา ที่พาอึ้งว่าเขากำกับมันยังไงถึงได้เล่นได้เหมือนขนาดนั้น หนังเรื่องนี้ ดีจริงสมมงและควรได้ออสการ์โดยเฉพาะในสาขานำหญิง
เรื่องย่อหนัง ‘Anatomy of a Fall’
ตัวหนังเล่าเรื่องของ แซนดรา (Sandra Hüller จากหนังเรื่อง ‘Toni Erdmann’) นักเขียนหญิงชาวเยอรมัน กับ แซมมวล (Samuel Theis) สามีชาวฝรั่งเศส และ แดเนียล (Milo Machado Graner จากหนังเรื่อง ‘Stuck Together’) ลูกชายวัย 11 ขวบที่มีปัญหาด้านการมองเห็น เขาจึงมักจะไปไหนมาไหนกับเจ้าสนูปเป็นประจำ ทั้งครอบครัวย้ายเข้ามาอยู่อาศัยในเมืองเล็กๆ ห่างไกลผู้คน แถบเทือกเขาแอลป์ เมืองที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสูง และหิมะอันขาวโพลน
แต่แล้ววันหนึ่ง แดเนียลที่เพิ่งกลับมาจากเดินเล่นกับสนูปก็พบร่างของแซมมวลพ่อของตน ที่นอนเสียชีวิตจมกองเลือดไม่ไกลจากตัวบ้านมากนัก ตำรวจเองก็ไม่แน่ใจว่า นี่เป็นการฆ่าตัวตายหรือเป็นฆาตกรรมกันแน่ อะไรหลายๆ อย่างดูไม่เข้ารูปเข้ารอย แต่เมื่อพิจารณาจากหลักฐานแล้ว ตำรวจลงความเห็นว่าเป็นการตายอย่างมีเงื่อนงำ และแซนดรากลายเป็นผู้ต้องสงสัย
ในที่สุด แซนดราก็ต้องเข้าไปอยู่ในการพิจารณาคดีของศาลที่อาจลากดึงเอาชีวิตคู่ที่เคยถูกปกปิดไว้
รีวิวหนัง ‘เขาบอกว่าเธอฆ่า’
เป็นภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถูกจับตามองมากที่สุดบนเวทีออสการ์ก็ว่าได้ เห็นว่า ล่าสุดกวาด 5 รางวัลใหญ่จาก European Film Academy รวมถึงหนังยอดเยี่ยม แถมยังได้เข้าชิง 4 รางวัลใหญ่บนเวทีลูกโลกทองคำอีกต่างหาก มันคือหนังที่ว่าด้วยเรื่องการตายอย่างเป็นปริศนาของชายผู้หนึ่ง ซึ่งเป็นสามีของนักเขียนหญิง และเป็นพ่อของเด็กชายวัยสิบเอ็ดขวบที่แม้ไม่ถึงกับมองไม่เห็น แต่อุบัติเหตุในวันเก่าก็ทำให้ความสัมพันธ์ของผู้เป็นพ่อแม่สั่นคลอนมาจนทุกวันนี้
เอาเข้าจริง มันเป็นหนังที่ค่อนข้างมีรายละเอียดเยอะ ไม่ใช่เรื่องความซับซ้อนซ่อนเงื่อนแบบหนังตามหาว่าใครคือฆาตกร หากแต่หนังเล่าถึงรายละเอียดอันมากมายของความสัมพันธ์ในครอบครัว
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนมีผลต่อความสัมพันธ์ของทุกสมาชิกในครอบครัวทั้งสิ้น กลายเป็นสิ่งเปราะบางที่ทุกคนต่างก็มีความคิดและวิธีรับมือแตกต่างกัน และหนังเรื่องนี้ก็สะท้อนมุมหนึ่งให้เราได้มองเห็น
หนังเริ่มต้นด้วยการสร้างความสงสัย เมื่อเกิดเหตุขึ้น ร่างของแซมมวลผู้เป็นสามีร่วงหล่นลงมาจากห้องใต้หลังคา นอนไร้วิญญาณจมกองเลือดท่ามกลางหิมะขาวโพลน สิ่งที่เป็นไปได้มีเพียงสองอย่าง หนึ่งคือฆ่าตัวตาย ซึ่งมีคำถามตามมาว่าเพราะอะไร สองคือฆาตกรรม ซึ่งก็มีคำถามตามมาอีกเช่นกันว่า ใครล่ะที่เป็นคนฆ่า และดูเหมือนแซนดราผู้เป็นภรรยาจะถูกมองเป็นผู้ต้องสงสัย
เรื่องราวครึ่งแรกอาจไม่ชวนเร่งเร้ามากนัก บทสนทนาที่มากมายอาจพาง่วงนิดหน่อย แต่เมื่อมันกลายเป็นหนัง Courtroom Drama อย่างเต็มตัว ทุกอย่างที่เกิดในห้องนั้น กลับทำให้หนังดูน่าตื่นเต้นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
หนังทำให้เราได้เห็นวิธีการพิจารณาคดี การว่าความในศาลของฝรั่งเศส (ที่อาจตรงกับความเป็นจริงหรือไม่ตรงไปบ้างก็ได้) ที่ดูแตกต่างออกไปจากหนังอเมริกาหรือแม้แต่ศาลในไทย ช่วงเวลานี้ที่หนังเล่าพาให้เราได้มองเห็นรายละเอียดของความสัมพันธ์ในครอบครัวเดียวได้มากมายอย่างไม่น่าเชื่อ มันพาไปสำรวจทุกมุมมองที่อาจเกิดขึ้น ทุกไดอะล็อกกลายเป็นเรื่องที่มีประเด็นได้ทั้งหมด จนมันเปลี่ยนให้รู้สึกตื่นขึ้นมาได้ทันที
เราไม่อาจตัดสินใจอะไรในความสัมพันธ์ของคนอื่นได้เพียงมองจากภายนอกได้เลย หลายครั้งมันเปราะบางจนเหมือนเส้นด้ายที่พร้อมจะขาดผึงได้ทันที
ในชั้นศาล ต้องมีสักตัวละครหนึ่งที่เชื่อว่าแซนดราคือคนฆ่าสามี และมีอีกฝ่ายที่หักล้างความคิดนั้น สองขั้วมาบรรจบ ลากดึงเอาความจริงที่ถูกเก็บไว้ให้คนทั้งห้องได้รับรู้ เผยประเด็นของชีวิตคู่ที่โงนเงน เล่าถึงความเจ็บปวดของสามี และสิ่งที่ลูกต้องเผชิญ พาร์ทของการไต่สวนทำออกได้มาสนุก น่าติดตาม ออกรสออกชาติ ทำให้เราต้องรู้สึกกลับไปกลับมาว่าที่จริงแล้วแซนดราผู้เป็นภรรยา เธอใช่ฆาตกรจริงๆ หรือไม่
ถ้าจะพูดถึงเรื่องการแสดง ก็คงต้องบอกว่า เป็นแคสต์ที่ยอดเยี่ยมมาก ทุกตัวทำได้ดี ไม่เว้นแม้แต่เจ้าสุนัขที่เล่นเป็นสนูป มีฉากที่น่าสะเทือนใจยิ่งแต่มันก็ทำได้เยี่ยมเกินคาด จนสงสัยว่า เขากำกับหมาได้ยังไงกัน ทำไมมันแสดงได้สมจริงขนาดนั้น แต่ถ้าถามถึงพาร์ทคน นายแพทชื่นชอบการแสดงของ Sandra Hüller ที่ต้องเล่นในหลายอารมณ์จนคิดว่าเธอน่าจะคว้ารางวัลใหญ่มาครองได้ในท้ายที่สุด
สำหรับเรื่องนี้ คงจะบอกกับเราได้ว่า ภายใต้ภาพลักษณ์ของครอบครัวที่คล้ายจะดูดี มันมีความไม่สมบูรณ์แบบอยู่ด้วยเสมอ เราไม่อาจตัดสินใครได้ เพราะมันมีหลากประเด็นหลายแง่มุมที่เราไม่รู้อยู่เสมอ ผมชอบที่หลังรอบสื่อมี Q&A ที่ทำให้เราเข้าใจหลายสิ่งเกี่ยวกับหนัง ทั้งยังเปิดให้คนในโรง(ที่เหลืออยู่)โหวตกันด้วยว่า คุณเลือกอยู่ฝั่งไหน แน่นอน ไม่มีการตัดสินว่าใครถูกใครผิดเช่นกัน
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | Anatomy of a Fall / เขาบอกว่าเธอฆ่า |
กำกับ | Justine Triet |
เขียนบท | Justine Triet, Arthur Harari |
แสดงนำ | Sandra Hüller, Swann Arlaud, Milo Machado Graner, Antoine Reinartz, Samuel Theis |
แนว/ประเภท | อาชญากรรม, ดราม่า, ระทึกขวัญ |
เรท | R |
ความยาว | 151 นาที |
ปี | 2023 |
สัญชาติ | ฝรั่งเศส |
เข้าฉายในไทย | 14 ธันวาคม 2023 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | Les Films Pelléas, Les Films de Pierre, France 2 Cinéma, Auvergne Rhône-Alpes Cinéma, Canal+ |
คะแนนรีวิวหนัง เขาบอกว่าเธอฆ่า
พล็อตและบท - 9
การแสดง - 9.5
การดำเนินเรื่อง - 8
เพลงและดนตรีประกอบ - 8
งานภาพ โปรดักชั่น และเทคนิคพิเศษ - 8.5
8.6
Anatomy of a Fall
ผลงานการกำกับของ ฌุสตีน ทริเยต์ เธอคือ ผู้กำกับหญิงคนที่สามที่คว้ารางวัลปาล์มทองคำมาครอง หนังดราม่าระทึกขวัญที่มีความยาวถึง 2 ชั่วโมงครึ่ง และครึ่งหนึ่งเล่าเรื่องในห้องพิจารคดีของศาล แต่กลับกลายเป็นหนังที่ตรึงเราไว้กับเรื่องราวได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ ช่วงว่าความเป็นช่วงที่เราตื่นตัวสุดๆ เมื่อการโต้แย้งกันไปมาในห้องแคบๆ นั้น ลากดึงเอาปัญหาความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ออกมาเปิดเผยอย่างหมดเปลือก ตอบทุกประเด็นที่ทำให้เราได้เห็นว่า เป็นเพียงคนนอก ไม่อาจจะตัดสินอะไรคนอื่นได้หรอก ทั้งแคสต์เล่นกันได้ดีเอามากๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งน้องหมา ที่พาอึ้งว่าเขากำกับมันยังไงถึงได้เล่นได้เหมือนขนาดนั้น หนังเรื่องนี้ ดีจริงสมมงและควรได้ออสการ์โดยเฉพาะในสาขานำหญิง