หลังจากอดทนรอมาสักพักใหญ่ ก็ได้เวลาที่รอคอย หนังไซไฟหัวใจระทึกที่เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่แสนน่ากลัวและร้ายกาจ มันเคยสร้างความระทึกขวัญมาหลายภาคแล้ว แต่ดูเหมือนจะมีแค่ภาคแรก (ในปี 1979) ที่ Ridley Scott กำกับฯ เขาจึงหยิบมันมาเล่าใหม่ในลักษณะไตรภาค และนี่คือภาคที่สอง ‘Alien: Covenant’
หลังจากเล่าเรื่องราวย้อนไปถึงเรื่องก่อนหน้าใน ‘Prometheus’ เพื่อสร้างความน่าสงสัยในที่มาที่ไปที่ยังแหว่งวิ่นอยู่ ในภาคที่สองนี้ก็ได้เวลาที่จะเปิดเผยบางสิ่งที่ปกปิดเอาไว้ในแฟนๆ เอเลี่ยนได้ร้องอ๋อ ตัวละครใหม่ๆ บนยานลำใหม่ที่ขนคนไปสร้างนิคมใหม่บนดาวดวงใหม่ คิดดู ก็น่าสนใจเหมือนกัน…
แล้วเอเลี่ยนจะโผล่มาจากไหนกันนะ
เรื่องย่อหนัง ‘Alien: Covenant’
หลังจากเหตุการณ์ในภาคแรกผ่านไปราว 10 ปี ดูเหมือนมนุษยชาติจะยังคงไม่ย่อท้อ แสวงหาดินแดนใหม่เพื่อตั้งรกราก ในที่สุดก็ใช้ยานลำเขื่องนาม ‘Covenant’ คนขนและเอ็มบริโอเพื่อไปยังดาวดวงใหม่ที่เฝ้าสำรวจมานาน แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อยานลำเลียงคนต้องลงจอดบนดาวที่ไม่มีใครรู้จัก และได้พบเจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิดที่นั่น
ลูกเรือที่นำโดย ออแรม (Billy Crudup) รองกัปตันอย่าง แดเนียลส์ (Katherine Waterston) และหุ่นแอนดรอยด์อย่าง วอลเตอร์ (Michael Fassbender) ต้องลงไปสำรวจดาวดวงนี้ ก่อนจะได้พบเจอว่าสิ่งที่อยู่บนดาวดวงนี้ บางสิ่งช่างน่าฉงน แต่บางสิ่งกลับช่างน่าสะพรึง เหล่าเอเลี่ยนที่เราเคยรู้จักกำลังจะมาก่อความสยดสยองให้เราได้ขนลุกกันอีกครั้ง
รีวิวหนัง ‘Alien: Covenant’
กลับไปทบทวนภาคเก่ามาบ้างนิดหน่อย เลยทำให้การต่อเรื่องราวในภาคก่อนกับภาคนี้ค่อนข้างไม่ติดขัด แต่ถ้าถามว่าต้องตามไปดูถึงภาคแรกในปี 1979 นั่นไหม อันนี้ก็แล้วแต่นะครับ ผมว่าดูภาคนี้ก่อนค่อยกลับไปตามดูก็ยังไม่เสียหายอะไร
แค่ควรจะดู ‘Prometheus’ มาก่อนเท่านั้นเอง
วนเวียนเล่าเรื่องเดิมๆ มีเซอร์ไพรซ์ แต่เดาทางไม่ยาก
ในภาคก่อนหน้านั้น เหมือน Ridley Scott จะบอกเล่าเรื่องที่เพิ่มเติมไปกว่าที่เคยได้รับรู้มาอย่างมาก สร้างปริศนาใหม่ พร้อมแง่มุมเชิงปรัชญาในเรื่องของผู้สร้างไว้อย่างน่าสนใจ จนทำให้หลายคนอยากจะติดตามต่อว่าสิ่งที่ยังถูกทิ้งไว้ไม่คลี่คลายนั้นจะถูกเปิดเผยออกมาเยี่ยงใด
แล้ว ‘Alien: Covenant’ ก็ออกมาสู่สายตาทุกคน ด้วยเรื่องราวที่ไม่ได้ต่างอะไรมากนักกับ ‘Alien’ (1979) ที่เล่าเรื่องยานลำหนึ่งที่มีอันต้องลืมภารกิจตัวเองกลางคันเพื่อหันมาสำรวจดาวระหว่างทางที่ส่งสัญญาณประหลาดมา และนั่นทำให้ลูกเรือได้พบกับเจ้าสิ่งมีชีวิตต่างดาวสุดสะพรึงเข้า ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้น การบอกเล่าสาเหตุของการแวะจอดที่ดาวใหม่จึงถูกขยายให้ดูแนบเนียนขึ้น มีเหตุผลสนับสนุนมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้แปลว่า
หนังจะไร้ตัวละครที่ตัดสินใจแบบเพี้ยนๆ ให้เรางุนงง
แม้ว่าเรื่องราวจะเดินผ่านไปจนถึงจุดเซอร์ไพรซ์ ในตัวอย่างก็บอกประมาณหนึ่ง ว่าพวกเขาจะได้พบกับยานประหลาดลำยักษ์ที่ประสบเหตุบางอย่างที่นั่น เรื่องราวที่ต่อเนื่องจาก ‘Prometheus’ ได้พอดิบพอดี
ทว่ามันกลับเล่าเรื่องแค่การหนีเอาตัวรอดของลูกเรือ
กับอีกปมหนึ่ง เรื่องความขัดแย้งกันทางความคิดของอีกเผ่าพันธุ์ ที่ผมพบว่ามันไม่ได้ถูกขยี้ออกมาน่าจดจำ สุดท้ายกลายช็อตเซอร์ไพรซ์ที่ทำเรื่องราวลงเอยในหนทางที่เดาได้ไม่ยาก น่าเสียดายความน่าเคลือบแคลงสงสัยในภาคแรกที่ไม่ได้ถูกคลี่คลายเท่าที่คาดหวังว่ามันควรจะเป็น เรายังไม่รู้เลยว่า เหตุใดผู้สร้างจึงตั้งใจจะทำลายเรา
แต่กลับไปใส่ถึงอีกประเด็นหนึ่งแทน
ระทึกขวัญชวนลุ้นเก่ง เพิ่มเลือด สมเป็นหนังเอเลี่ยน
สิ่งที่ภาคนี้ทดแทนเอาไว้ได้ดีกลับเป็นส่วนที่ ‘Prometheus’ ไม่ได้เป็น นั่นคือ ความเป็นหนังระทึกและสยองขวัญ หนังเดินเรื่องชักชวนให้ลุ้นตื่นเต้นไปกับการคาดเดาว่า ตัวละครจะได้เผชิญหน้ากับเหล่าเอเลี่ยนนั้นอย่างไร หรือพวกเขาจะรับมือหรือเสียชีวิตกันไปเท่าไหร่
‘เอเลี่ยน โคเวแนนท์’ กลายเป็นหนังที่บันเทิงมากถ้านับในมุมของการลุ้นระทึกใจเต้นตูมตาม
ไม่เท่านั้น นี่จะเป็นหนังเอเลี่ยนภาคแรกที่มีฉากโป๊เปลือยปรากฏอยู่ในหนัง อาจจะเป็นแค่ช่วงสั้นๆ แต่ก็ถือเป็นความแปลกใหม่อย่างหนึ่งเลยแหละ และในเมื่อหนังมีความเป็นหนังสยองขวัญ ภาคนี้จึงมีฉากรุนแรงระดับเลือดสาดมากขึ้นกว่าภาคก่อน เราจะได้เห็นเอเลี่ยนตัวที่คุ้นหน้าจากภาคเก่าๆ ที่จะกลับมามีกำเนิดให้เราได้เห็นกัน
ใครคาดหวังในด้านนี้ก็คงจะสมหวังมากกว่าภาคก่อนเป็นแน่แท้
เด่นด้านงานภาพมุมกว้าง เอเลี่ยนซีจีน่ากลัวกว่าเคย
อย่างไรก็ดี ภาคนี้ยังมีสิ่งที่น่าจดจำอยู่หลายอย่าง เริ่มกันตั้งแต่ฉากแรกที่ดีไซน์ฉากมาให้ดูเรียบง่าย แต่ดูอลังการอยู่ในที บทสนทนาที่น่าจะดีที่สุดในหนัง
ถัดมาเป็นฉากที่เผยให้เห็นถึงวิวทิวทัศน์ของสภาพภูมิประเทศบนดาวที่เราไม่รู้จัก พวกเขาออกแบบดาวดวงนั้น ว่ามีเทือกเขาสลับซับซ้อน ไร้ทุ่งกว้าง มีเพียงผืนน้ำตื้นๆ ที่พอจะลงจอดยานได้ การรับชมในแบบ IMAX ทำให้มันดูสวยงามยิ่งใหญ่ขึ้นได้จริงๆ
ตัวละครแอนดรอยด์อย่างวอลเตอร์ในเรื่องนี้ หน้าตาไม่ต่างอะไรกับเดวิดในภาคก่อน ซึ่งหนังใช้จุดนี้ให้เป็นประโยชน์ในการเล่าเรื่อง ทำให้ Michael Fassbender ได้แสดงบทบาทสไตล์สุขุมแต่แฝงไว้ด้วยความเยือกเย็นร้ายกาจได้ดี จนอาจมีแว้บนึงที่คิดว่า นี่มันหนังเกี่ยวกับเอเลี่ยนหรือหนังเกี่ยวกับแอนดรอยด์กันแน่
ส่วนใครที่ตั้งใจมาชมเอเลี่ยนที่ออกมาอย่างเต็มตา ก็จะได้พบกับเอเลี่ยนมากกว่าหนึ่งชนิด และได้พบกับจุดกำเนิดของเอเลี่ยนชนิดต่างๆ ในภาคนี้ แม้ว่าจะยังใช้คนในตอนถ่ายทำ แต่ด้วยเทคโนโลยีทำให้การเคลื่อนไหวของพวกมัน
ดูแนบเนียนและน่าสะพรึงกลัวมากขึ้นนั่นเอง
ชื่อภาพยนตร์: Alien: Covenant / เอเลี่ยน โคเวแนนท์
ผู้กำกับภาพยนตร์: Ridley Scott
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: John Logan, Dante Harper
นักแสดงนำ: Michael Fassbender, Katherine Waterston, Billy Crudup, Danny McBride, James Franco
ดนตรีประกอบ: Jed Kurzel
ความยาว: 122 นาที
แนว/ประเภท: Horror, Sci-Fi, Thriller
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/, MPAA/R
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 10 พฤษภาคม 2560
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Twentieth Century Fox Film Corporation, Brandywine Productions, Scott Free Productions
เอเลี่ยน โคเวแนนท์
Alien: Covenant - 7
7
Alien: Covenant
ภาคต่อภาคใหม่ในจักรวาลเอเลี่ยนจาก ผกก. Ridley Scott วนเวียนเล่าเรื่องเดิมๆ มีเซอร์ไพรซ์ แต่เดาทางไม่ยาก ระทึกขวัญชวนลุ้นเก่ง เพิ่มเลือด สมเป็นหนังเอเลี่ยน เด่นด้านงานภาพมุมกว้าง เอเลี่ยนซีจีน่ากลัวกว่าเคย
หนัง alien covenant ในภาคนี้ เป็นภาคต่อจากหนัง Prometheus ซึ่งถือว่าภาค covenant สามารถทำออกมาได้ดีมาก ตอบโจทย์และข้อสงสัยหลายๆเรื่องในหนังภาคเก่า โดยส่วนตัวถือว่าค่อนข้างประทับใจในการดูหนังเรื่องนี้
ซึ่งถ้าจะดูหนังให้สนุก เราควรดูหนังภาคเก่า Prometheus , เอเลี่ยน 1 , เอเลี่ยน 2 และหาข้อมูลเกี่ยวกับเอเลี่ยนแต่ละประเภท