ไม่ว่าใคร น่าจะเคยผ่านตากับหนังเอเลี่ยนที่เล่าเรื่องมนุษย์ที่ต้องอยู่อย่างเงียบเชียบที่สุด เพราะผู้มาเยือนนั้นโหดเหี้ยมเหลือหลาย ทั้งมีประสาทการได้ยินอันเป็นสุดยอด มันถูกเล่าไปแล้ว 2 ภาคด้วยกัน ก่อนที่สตูดิโอจะหันไปเล่าเรื่องก่อนหน้า หรือที่เราเรียกว่า prequel และครั้งนี้มันมีชื่อว่า ‘ดินแดนไร้เสียง: วันที่หนึ่ง‘ หรือ ‘A Quiet Place: Day One‘ นั่นเอง
ความเห็นส่วนตัวของนายแพท
ก่อนจะไปต่อในภาคสามของดินแดนไร้เสียง ค่ายหนังพาคนกลับไปพบกับเหตุการณ์วันแรกที่เอเลี่ยนหูไวบุกจู่โจมทำลายล้างมนุษย์โลก พาไปติดตามการเอาตัวรอดของสามตัวละครนำในเมืองใหญ่แสนอึกทึกอย่างนิวยอร์ก หญิงสาวที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ชายแปลกหน้าที่เธอบังเอิญได้เจอ และน้องแมวจอมแย่งซีน ทั้งสามต้องพยายามหลบออกไปจากเกาะเมือง หนังหยิบเอาหัวใจเข้ามาใส่ในบทหนัง พาให้เจอกับความเอื้อเฟื้อต่อกันของคนแปลกหน้า บอกเล่าความทรงจำและความผูกพันที่ยังหลงเหลืออยู่ท่ามกลางสถานการณ์ความเป็นความตาย
ไม่ว่ายังไง น้องแมวในเรื่องน่ารักที่สุดในโลก!
เรื่องย่อหนัง ‘A Quiet Place: Day One’
หนังมันย้อนไปเล่าถึงวันแรกที่โลกถูกจู่โจมโดยเหล่าเอเลี่ยน โดยพื้นที่ที่ถูกบอกเล่าเป็นเมืองนิวยอร์กที่แสนอึกทึก และมีจุดศูนย์กลางของเรื่องที่ ซามิร่า หรือ แซม (ลูพิตา ญองอ จากหนัง ‘Black Panther: Wakanda Forever’) หญิงสาวผิวดำคนหนึ่งที่ต้องเผชิญกับภัยร้ายนี้กับแมวตัวหนึ่งที่เธอตั้งชื่อให้ว่า โฟรโด
ระหว่างดิ้นรนหาทางเอาตัวรอด แซมก็เจอกับชายอีกคน เอริก (โจเซฟ ควินน์ จากซีรีส์ ‘Stranger Things’) ที่ร่วมผจญภัยในนิวยอร์กไปด้วยกัน และหนทางที่พอจะนึกออกได้ก็คือการหลบหนีออกจากเมือง แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายในเมื่อศัตรูคือเอเลี่ยนที่เกรี้ยวกราด ว่องไว และประสบสัมผัสทางการได้ยินนั้นเป็นเลิศ
รีวิวหนัง ‘ดินแดนไร้เสียง: วันที่หนึ่ง’
หนังเรื่องใหม่จาก ไมเคิล ซาร์โนสกี ผู้กำกับหนังดีอย่าง ‘Pig’ ที่ขยับมาสร้างอะไรที่สเกลใหญ่กว่าเดิม ทั้งยังใหญ่กว่าภาคแรกของ ‘ดินแดนไร้เสียง’ ไปพอสมควร มันคือภาค prequel ที่ย้อนกลับไปเล่าถึงวันแรกที่โลกต้องเผชิญหน้ากับภัยร้ายจากเอเลี่ยนที่จู่โจมเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์กที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คน และมีเสียงดังอึกทึกอยู่เป็นปกติ แต่เมืองนี้กำลังจะเงียบเพราะเอเลี่ยนขายาวที่เคลื่อนไหวว่องไว พละกำลังมากล้น แม้มองไม่เห็นแต่ประสาทการรับเสียงนั้นดีเยี่ยม ถ้ามนุษย์ต้องการจะรอดก็ต้องเงียบที่สุด
วันนั้น ก็เป็นวันธรรมดาวันหนึ่ง ไม่น่าจะมีอะไรแตกต่างไปจากวันก่อนหน้า แต่มันกลับแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อมีพวกมันมาเยือน ทั้งเมืองเริ่มต้นด้วยเสียงกรีดร้อง มนุษย์ที่วิ่งหนีลนลาน ก่อนถูกฉีกร่างและตายคาที่ คนที่ยังรอดอยู่เริ่มเรียนรู้ที่จะอยู่อย่างเงียบเชียบ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ ‘ดินแดนไร้เสียง’
บทหนังโฟกัสไปที่ แซม หญิงสาวที่เป็นโรคมะเร็งร้ายระยะสุดท้ายที่รักษาตัวอยู่ใน รพ. แห่งหนึ่ง เธอมีแมวข้างกายตัวหนึ่ง และเมื่อเธอต้องเจอกับโลกที่เลวร้ายลงอย่างฉับพลัน แม้รู้ตัวว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน แต่เธอก็ยังดิ้นรนไม่ยอมแพ้ต่อบรรดาเอเลี่ยนตัวร้าย ไม่มีอะไรในตัวที่จะต่อกรกับพวกมันได้เลย มีแต่ต้องเอาตัวรอดและหนีตายในทุกวินาทีเท่านั้น
และด้วยการที่หนังมันเล่าถึงตัวละครนำที่เป็นมะเร็งร้ายนี่แหละ ที่นำพาแง่มุมดราม่าชวนอินให้กับผู้ชม นอกเหนือจากความระทึกยามต้องรับมือกับสิ่งที่เหนือกว่า แล้วยังต้องรับมือกับภายในจิตใจด้วย แต่หนังก็ไม่ได้พาให้คนดูรู้สึกเคร่งเครียดตลอดเรื่อง เพราะมันยังมีตัวละครที่พาให้ใจเบา เพราะมันใส่แมวชื่อโฟรโดเข้ามาเป็นตัวละครสำคัญที่เดินทางและผจญภัยไปพร้อมกับแซมด้วย
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ภาคนี้มันแตกต่างออกไป คือ มันใช้โลเกชันในเมืองใหญ่ในวันที่เพิ่งรู้จักเอเลี่ยนเป็นครั้งแรก ซึ่งแตกต่างจากภาคก่อนหน้าที่จะเล่าถึงคนที่อยู่ห่างไกลและคนพวกนั้น แม้จะหวาดกลัว แต่ก็รู้แล้วว่าจะรับมือกับเหล่าเอเลี่ยนยังไง
แม้ว่าแว้บแรกที่เห็น นายแพทอาจรู้สึกว่า นี่คือทางของหนังที่คล้ายกับเด็กทารกในภาคก่อนหน้า แต่มันกลับต่างออกไป โฟรโดในเรื่องดูนิ่งกว่าแมวทั่วไปเอามากๆ เชื่อว่าคนดูทั้งหลายน่าจะมองเห็น จนไม่อาจปฏิเสธตัวเองได้ว่า พร้อมจะเชียร์ทุกวินาทีให้แมวตัวนี้รอดไปจนสุดทาง ใช่แล้ว มันคือตัวขโมยซีนของหนังเลยแหละ
ทั้ง ลูปิตา ญองอ และ โจเซฟ ควินน์ ในบทของมนุษย์กรุงนิวยอร์กที่ต่างไม่รู้จักกัน แต่ต่างก็ต้องมาหนีตายร่วมกับเจ้าแมว ทำให้เราได้มองเห็นมิตรภาพที่เกิดขึ้นในยามทุกข์ยาก คนแปลกหน้าที่ยินดีจะเอื้อเฟื้อต่อกัน อีกด้าน หนังมันก็เล่าไปถึงแง่มุมของคนที่ผูกพันอยู่กับความทรงจำอันเกี่ยวโยงกับบุคคลและสถานที่ ซึ่งทั้งหมดนี้ คงพาให้คนดูรู้สึกอินได้ไม่ยากเย็น
Taglines: Hear how it all began.
เป็นหนังที่ใส่หัวใจเข้าไปในเนื้อหา แทนที่จะเน้นความระทึกขวัญในหนังแนวเอาตัวรอด+หนังไซไฟสัตว์ประหลาด แต่เขาใส่ความดราม่าเพิ่มเข้าไปในหนังของมนุษย์ตัวเล็กที่ยังมองหาบางสิ่งมาเติมเต็ม ถ้าจะมีคนเสียน้ำตาให้กับหนังเรื่องนี้ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก และถ้ามีคนเลือกไปดูหนังเรื่องนี้เพราะมีแมวก็คงจะไม่แปลกอีกเช่นกัน และต้องบอกกันตามตรงว่า
เป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่นายแพทชื่นชอบในฉากจบ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | A Quiet Place: Day One / ดินแดนไร้เสียง: วันที่หนึ่ง |
กำกับ | Michael Sarnoski |
เขียนบท | Michael Sarnoski |
แสดงนำ | Joseph Quinn, Lupita Nyong’o, Alex Wolff, Djimon Hounsou |
แนว/ประเภท | ดราม่า, สยองขวัญ, ไซไฟ, ระทึกขวัญ |
เรท | PG-13 |
ความยาว | 100 นาที |
ปี | 2024 |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
เข้าฉายในไทย | 27 มิถุนายน 2024 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | Paramount Pictures, Platinum Dunes, Sunday Night |
คะแนนหนัง ดินแดนไร้เสียง: วันที่หนึ่ง
พล็อตและบท - 8
การดำเนินเรื่อง - 8.4
การแสดง - 8.4
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 8
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.7
8.1
A Quiet Place: Day One
ก่อนจะไปต่อในภาคสามของดินแดนไร้เสียง ค่ายหนังพาคนกลับไปพบกับเหตุการณ์วันแรกที่เอเลี่ยนหูไวบุกจู่โจมทำลายล้างมนุษย์โลก พาไปติดตามการเอาตัวรอดของสามตัวละครนำในเมืองใหญ่แสนอึกทึกอย่างนิวยอร์ก หญิงสาวที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ชายแปลกหน้าที่เธอบังเอิญได้เจอ และน้องแมวจอมแย่งซีน ทั้งสามต้องพยายามหลบออกไปจากเกาะเมือง หนังหยิบเอาหัวใจเข้ามาใส่ในบทหนัง พาให้เจอกับความเอื้อเฟื้อต่อกันของคนแปลกหน้า บอกเล่าความทรงจำและความผูกพันที่ยังหลงเหลืออยู่ท่ามกลางสถานการณ์ความเป็นความตาย