ลองนึกภาพดู วาฬทุกตัวสื่อสารกันด้วยเสียงที่มีคลื่นความถี่ตรงกัน พวกมันสามารถเรียงหากันได้ รวมฝูงกันได้ แต่ถ้ามีสักตัวที่เสียงร้องของมันมีคลื่นความถี่ที่แตกต่างจากใครเขา จะร้องเรียกสักเท่าไหร่คงไม่มีวาฬตัวไหนได้ยิน มันคงเป็นวาฬที่แสนเหงาที่สุดในโลก และถ้ามองกลับมายังมนุษย์ คนที่ไม่มีใครเข้าใจ ไม่มีคนสนใจรับฟัง พวกเขาก็คงไม่ต่างจากวาฬตัวนั้น วันนี้ เราจึงได้มาเจอกับหนังญี่ปุ่นชื่อ ’52 Hertz หรือชื่อไทย ’52 เฮิรตซ์ คลื่นเสียงที่ไม่มีใครได้ยิน’
ความเห็นส่วนตัวของนายแพท
มันคือหนังญี่ปุ่นแนวดราม่าที่สร้างจากหนังสือนิยาย เล่าเรื่องราวชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่พบเจอแต่เรื่องเศร้าจนต้องหนีมาอยู่อย่างส่วนตัวที่บ้านเก่าในเมืองชายทะเล จนได้พบกับเด็กคนหนึ่งที่มองว่าเหมือนตัวเอง หนังเปรียบชีวิตแสนเหงาของคนกลุ่มหนึ่งว่าเป็นวาฬที่ส่งเสียงในความถี่ที่ไม่มีวาฬตัวไหนได้ยิน นำพาชีวิตขมๆ ของคนโดดเดี่ยวมาให้คนดูได้เรียนรู้จัก แม้จะไม่ถึงกับขยี้จนสุดทาง แต่ก็ไม่ปรานีพวกเขาสักเท่าใดนัก
จนรู้สึกว่า มันให้เวลากับสิ่งดีดีในชีวิตของวาฬทั้งหลายน้อยเหลือเกิน น้อยจนไม่แน่ใจว่าจะช่วยจุดประกายความหวังให้กับวาฬเหล่านี้ได้
เรื่องย่อหนัง ’52 Hertz’
ชีวิตก่อนหน้าของคิโกะ มิชิมะ (ฮานะ ซุงิซากิ จากหนังเรื่อง ‘Her Love Boils Bathwater’) มีแต่ความยากลำบาก ถูกแม่ตบหน้าหลังดูแลพ่อเลี้ยงที่ป่วยติดเตียงได้ไม่ดีพอก่อนที่พ่อจะตายจากไป เธอเป็นหญิงสาวผมสั้นที่เพิ่งย้ายจากโตเกียวมาอยู่อาศัยในบ้านหลังเก่าของคุณยายในเมืองแถบชายทะเลอย่างโออิตะ เธอพกพาความเปลี่ยวเหงาติดตัวมาด้วย ก่อนจะได้พบกับเด็กผมยาวคนหนึ่งที่พูดไม่ได้ ทั้งยังมีแผลตามตัว แม่ของเด็กคนนั้นเรียกเขาว่า มูชิ (Kuwana Tori)
ไม่มีใครรู้ทำไมคิโกะจึงย้ายตัวเองมาอยู่ที่นี่คนเดียว แต่ในช่วงหนึ่งของชีวิต เธอเคยได้รู้จักกับ อันโกะ โอคาดะ (จุน ชิซง จากหนังเรื่อง ‘คู่หูสามเหลี่ยมล่าปีศาจ’) เพื่อนคนที่ช่วยชีวิตเธอไว้ในวันเก่า และทำให้เธอได้มีความสุขครั้งใหม่ ว่าแต่มันเกิดอะไรขึ้น เธอจึงได้ย้ายมาอยู่ตัวคนเดียวในบ้านของยายหลังนี้
รีวิวหนัง ’52 เฮิร์ตซ์ คลื่นเสียงที่ไม่มีใครได้ยิน’
หนังญี่ปุ่นเรื่องนี้ เป็นผลงานการกำกับของ อิซุรุ นารุชิมะ คนที่เคยกำกับเรื่องก่อนหน้า ‘Father of the Milky Way Railroad’ ที่เราประทับใจกันมาแล้ว สำหรับเรื่องนี้ เป็นการดัดแปลงมาจากนวนิยายเรื่อง ’52 Hertz no Kujira-tachi’ ของ โซโนโกะ มาจิดะ (ที่ก็มีฉบับแปลไทยในชื่อเดียวกันกับหนังให้ซื้ออ่านกันแล้วด้วยนะ)
บอกเล่าเรื่องราวของคนกลุ่มหนึ่ง ที่มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันด้วยคอนเซปต์ของวาฬ ที่บางตัวจะมีเสียงร้องความถี่ 52 เฮิร์ตช์ ซึ่งวาฬตัวอื่นจะไม่ได้ยิน เป็นเสียงร้องที่แสนโดดเดี่ยว ทำให้มันต้องเดินทางกลางมหาสมุทรอย่างเปลี่ยวเหงา ไม่ต่างอะไรกับบางตัวละครในหนังและนิยายเรื่องนี้
อันที่จริง มันก็ยากพอสมควรในการจะเขียนอะไรลงไป เพราะมันง่ายที่จะไปโดนจุดสำคัญของเรื่องเล่าที่ถูกบอกเล่าในหนังเรื่องนี้
หลายคนอาจเคยอ่านนิยายมาก่อน ตัวหนังสือเปิดให้เราใช้จินตนาการของผู้อ่านเติมต่อเป็นภาพได้อย่างเต็มที่ และยังบรรยายความรู้สึกนึกคิดได้ละเอียดลออกว่า แถมหนังที่ถูกจำกัดให้เล่าจบภายใน 2 ชั่วโมงเศษก็ยังต้องลดทอนรายละเอียดบางส่วนไปด้วย จึงอาจจะพาผู้ชมดำดิ่งได้ไม่เท่ากับการอ่าน แต่เราจะไม่เปรียบเทียบตรงนั้นเพราะยังไม่ได้อ่านเวอร์ชันนิยายนั่นเอง
หนังมันเล่าถึงหลายชีวิตที่เปลี่ยวเหงาเพราะไม่มีใครได้ยินพวกเขา บางคนอาจค้นพบแล้วว่าตัวเองเป็นใคร แต่ในสังคมที่ไม่เปิดรับ ทำให้เขาต้องหลบซ่อนตัวตนที่แท้จริงตลอดมา หลบซ่อนแม้กระทั่งความรู้สึกรัก ขณะที่บางคน บางคนอาจมีชีวิตอยู่กับการทำเพื่อคนอื่นแต่กลับไม่ได้รับความเห็นใจแถมยังถูกทำร้าย จนไม่อาจมีความสุขในชีวิต เพราะไม่เคยหาความสุขให้กับตัวเอง
แต่การย้ายมาอยู่ในบ้านหลังนี้ที่คิโกะได้สร้างระเบียงชมทะเลเอาไว้ นำพาให้เธอได้พบกับเด็กคนหนึ่งที่เขาทั้งพูดไม่ได้ ทั้งมีแผลตามตัว เมื่อเธอได้รู้จักชีวิตของเขามากขึ้น ได้รู้ว่าเขาถูกทำร้ายและผลักไส มองเห็นว่าเขาก็เป็นวาฬ 52 เฮิร์ตช์ไม่ต่างจากเธอ จึงอยากจะได้ยินเสียงของเขา และมุ่งหวังจะปกป้องเขาด้วยตัวเธอเอง
มันควรจะเป็นหนังที่อบอุ่น ด้วยมีตัวละครที่พร้อมยื่นมือมาโอบอุ้มคนที่เปลี่ยวเหงาและโดดเดี่ยว ทว่า ในความเป็นจริง มันก็เป็นหนังที่ชวนเจ็บปวด เมื่อมองว่าคนที่โอบอุ้มกันและกัน ล้วนแล้วแต่เป็นวาฬที่ไม่มีใครยิน
หนังมันพาเราย้อนกลับไปในวันวานของคิโกะ พาไปกับอัน ชายหนุ่มที่ช่วยชีวิตเธอไว้และได้ยินเสียงวาฬอย่างเธอ ทว่า เขาก็เป็นวาฬอีกตัวที่กำลังปิดซ่อนตัวตนจากคนอื่น แม้กระทั่งเธอ เขาก็ไม่อาจเปิดเผยมัน โลกของหนังจึงมีแต่ความเศร้าซึม มีแต่ตัวละครที่มุ่งหมายฆ่าตัวตาย จนแทบมองไม่เห็นสิ่งที่เรียกว่า ‘โอบอุ้ม’ และ ‘อบอุ่น’
แม้ว่าเริ่มต้นมันจะเล่าเร็วไปหน่อย แต่หนังมันก็ค่อยๆ เปิดเผยหลายเหตุการณ์ที่เราไม่คาดคิดออกมาเรื่อยๆ ดาร์กแล้วดาร์กอีกไม่รู้หยุดหย่อน แม้จะไม่ได้ขยี้อารมณ์จนสุด แต่ก็รู้สึกว่า อยากให้หนังปรานีกับตัวละครให้มากกว่านี้อีกสักหน่อย และให้เวลากับการโอบอุ้มตัวละครมากกว่านี้อีกหน่อยจังเลย
โดยรวมแล้ว มันเป็นหนังดราม่าขมๆ ที่ตั้งใจจะพาคนดูให้มองเห็นชีวิตของคนที่อยู่ในโลกเหงา พร้อมกับเยียวยาหัวใจของผู้คนที่แตกสลายให้กลับมาดำเนินชีวิตและมีความสุขได้ใหม่อีกครั้ง
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | 52 Hertz / 52 เฮิรตซ์ คลื่นเสียงที่ไม่มีใครได้ยิน / 52ヘルツのクジラたち |
กำกับ | Izuru Narushima |
เขียนบท | Sonoko Machida (novel), Yukari Tatsui |
แสดงนำ | Hana Sugisaki, Jun Shison, Hio Miyazawa, Nanase Nishino, Karin Ono |
แนว/ประเภท | ดราม่า |
เรท | |
ความยาว | 135 นาที |
ปี | 202ภ |
สัญชาติ | ญี่ปุ่น |
เข้าฉายในไทย | 20 มิถุนายน 2024 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | Gaga Corporation, ฉายแสง แอด.เวนเจอร์ |