รีวิวหนัง Resident Evil: Afterlife ผีชีวะ 4 สงครามแตกพันธุ์ไวรัส

ภาคนี้ ผู้กำกับฯ คนเดิม Paul Anderson กลับมานั่งหน้าที่เดิมอีกครั้ง หลังจากไปนั่งเขียนบทอย่างเดียว

นานโขอยู่ที่ผมไม่ได้เข้าชมหนังในโรงแบบ 3 มิติ ผมพบว่า หลังๆ หนังจากต่างประเทศมักเข้ามาฉายแบบ 3 มิติกันอย่างเป็นล่ำเป็นสันมากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะเผื่อไว้สำหรับการฉายแบบ 2 มิติแบบดั้งเดิมอยู่ก็ตาม

ที่ผมไม่ได้เข้าไปดูแบบ 3 มิติ เพราะหนังบางเรื่องไม่ได้ตั้งใจทำมาเพื่อเป็นหนัง 3 มิติอย่างแท้จริงบ้าง หรือทำมาก็ไม่ค่อยจะใช้คุณสมบัติแบบ 3 มิติได้อย่างได้น้ำได้เนื้อบ้าง หรือไม่ก็ไม่ได้เป็นหนังที่มีความจำเป็นต้องดูในแบบ 3 มิติแต่อย่างใด แต่วันนี้ ผมจะลองเข้าไปดูแบบ 3 มิติดูบ้าง และเรื่องที่ผมเข้าไปดูก็คือ ‘Resident Evil: Afterlife ผีชีวะ 4 สงครามแตกพันธุ์ไวรัส’

ยอมรับว่า ยังกั๊กๆ อยู่ ไม่อยากเข้าไปดูในโรงใหญ่ IMAX เพราะกลัวความสูง(ของจอ) และกลับซับ(จาง) ซึ่งจะพาลต้องไปดูรอบสองโดยไม่จำเป็น

ยอมรับกันตามตรงเลยว่า ผมไม่ใช่แฟนเกม (เพราะหนังเรื่องนี้สร้างมาจากเกม) ผมชอบดูหนัง (แต่เป็นคนขี้ลืม ผมลืมพล็อตหนังออกจะบ่อย) ผมดู Resident Evil มาทุกภาค (แต่ผมก็ยังจำที่มาที่ไปของ RE ในภาคปฐมบทไม่ได้เลยครับ) และก่อนจะเข้าไปดูภาคนี้ ก็ได้ทบทวนความจำเล็กน้อยกับบางส่วนของภาคที่แล้ว จากรายการบิ๊กซินีม่า ช่อง 7 เป็นเหมือนกับการเตรียมความพร้อมเล็กๆ น้อยๆ ก่อนไปดูหนัง


รีวิวหนัง ‘Resident Evil: Afterlife’

ในภาคนี้ ตัวชูโรงยังคงเป็น “อลิซ” (Milla Jovovich) อีกเช่นเคย หลังจากตอนจบของภาคที่แล้ว เธอค้นพบกองทัพโคลนของตัวเองในฐานทัพลับของ Umbrella องค์กรผีห่าซาตานผู้คลั่งไคล้ 8 เหลี่ยม เธอจึงพาพรรคพวกข้ามฟากแปซิฟิกมาถล่มอีกฝั่งให้ราบคาบ แต่ทุกอย่าง มันไม่ได้เป็นอย่างฝันเลย

ญี่ปุ่นในอีก 4 ปีถัดมา ก็ไม่พ้นผจญชะตากรรมโดนผีดิบครองเมือง ไม่พอ ผีดิบพวกนี้ยังมีการกลายพันธุ์เสียด้วย (มนุษย์เรา กว่าจะกลายพันธุ์นี้ใช้เวลาเป็นหมื่นๆ ปี ผีดิบกลายพันธุ์เร็วจังฮิ) การบุกรังโจรในแดนปลาดิบไม่ใช่เรื่องง่าย ด้วยเหตุนั้น กำลังพลเป็นแสนก็ดับสิ้นเหลือตัวต้นแบบเพียงหนึ่งเดียว ที่ถูกทำให้สิ้นความเทพ กลายเป็นมนุษย์ธรรมดาๆ เท่านั้น

ฉากแอ็คชั่นช่วงแรกมันสะเด่าถึงใจ เมื่อผสมกับความเป็น 3 มิติ มันจึงสะเด่าแบบสมจริงยิ่งกว่า

แต่หลังจากนั้น สาวเท่คนเดิม กลับไม่ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจอีกเลยเป็นเวลาหลายสิบนาที ด้วยฉากที่เหลือแทบจะไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน และลักลั่นเกินกว่าจะประทับใจ บทที่ดูอ่อนด้อย และการดำเนินเรื่องที่นิ่งสนิท ส่งผลต่อความรู้สึกระหว่างดู เสียงที่บอกมาก่อนไปดูบอกให้สนุกกับความเป็น 3 มิติเท่านั้น อย่างอื่นอย่าสนใจ แล้วจะสนุกกับหนัง เสียงนั้นกลับมาอีกครั้ง อืม.. ท่าจะจริง

ภาพจากหนัง ‘Resident Evil: Afterlife’

สำหรับคนไม่ได้เล่นเกม นี่คือหนังที่คนดูรู้สึกขาดที่มาที่ไปอยู่หลายอย่าง แม้ว่าแน่นอนว่า หนังจะต้องมีภาคต่อและอาจให้เหตุผลว่า จะอธิบายในภาคถัดๆ ไป แต่เรื่องบางเรื่อง บอกกันหน่อยก็อาจจะดีปล่อยให้ค้างคาไปอีกเป็นปีๆ กว่าจะมาเฉลย ตัวละครใหม่บางตัวที่ใส่เข้ามา แน่นอนว่า มันคงมีในเกม แต่ไม่มีการใส่ที่มาที่ไป อยู่ดีๆ ก็มา มาได้ไง กลายเป็นตัวละครที่หลายคนจดจำเสียด้วย แต่ภาคหน้าจะเล่าที่มาที่ไปหรือเปล่า ดูภาคนี้แล้วชักไม่แน่ใจ

สิ่งที่คนที่ดูภาคเก่าๆ มาก่อนได้กลับมา ก็คือ ตัวละครอย่าง “แคลร์ เรดฟิลด์” (Ali Larter) ซึ่งผมจำได้ติดตาเพราะเด่นมากในภาค ‘Resident Evil: Extinction’ ภาคนี้นับว่า ยังสวยและแลว่าจะสวยกว่าเดิมด้วยซ้ำ ขณะที่ผู้มาใหม่อย่าง “คริส เรดฟิลด์” (Wentworth Miller) กลายเป็นคู่พี่น้อง ที่มาช่วยเติมเต็มให้ช่วงเวลาของฉากแอ็คชั่นมันๆ ได้สำแดงในหนังได้เข้มข้นในช่วงหนึ่ง อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ “เค-มาร์ท” (Spencer Locke) สาวน้อยหน้าคมที่ผมชอบมาตั้งแต่ภาคก่อน ภาคนี้เธอยังอยู่นะครับ แถมหน้าเนียนกว่าภาคที่แล้วอีก นอกจากนี้ ยังมีคนเก่าๆ ในภาคก่อนกลับมาเซอร์ไพรส์ด้วย คิดว่าหลายคนอาจจะคิดถึงอยู่นะ อิอิ

หนังอาจจะมีส่วนผสมของหนังเรื่องอื่นๆ ผ่านเข้ามาบ้าง (ไม่บ้างอะ เยอะเลยล่ะ) ก็ให้เข้าใจว่า ทำมาเพื่อจุดประสงค์ของความหฤหรรษ์ทางด้าน 3 มิติ ต้องชมว่า เขาทำได้ดี นี่ขนาด Digital 3D ยังดูดีขนาดนี้ ถ้า IMAX 3D มันจะขนาดไหน แม้จะดำเนินเรื่องน่าเบื่อไปบ้าง หรือเนื้อเรื่องดูอ่อนด้อยไปบ้าง ในฐานะที่ตามดูสาวมิล่าโชว์ฉีกแข้งฉีกขามานาน ก็ต้องตามดูกันต่อไป อะไรที่น่าสนุกกว่า คงจะมีให้เห็นกันได้ใน Resident Evil ในภาค 5 (คาดว่า)แน่นอน

ภาคนี้ ผู้กำกับฯ คนเดิม Paul Anderson กลับมานั่งหน้าที่เดิมอีกครั้ง หลังจากไปนั่งเขียนบทอย่างเดียวอยู่ 2 ภาค

ตัวอย่างหนัง ‘Resident Evil: Afterlife 3D’ Trailer [HD]

ขอบ่นหน่อย สำหรับคนที่อุตส่าห์มีตังค์ซื้อตั๋วแพงๆ ไปดูหนังในโรงใหญ่ๆ หรูๆ หัดทำตัวให้หรูตามไลฟ์สไตล์ของตัวเองหน่อย มีมือถือใช้น่ะ ผมรู้ แต่กรุณาช่วยปิดและไม่ใช้งานระหว่างชมได้มั้ย “มันรบกวนคนอื่น” นะป้า!

หนังจบ อย่าเพิ่งลุกออกจากโรง เพราะ Closing Credit จะมีฉากที่คุณต้องดู ส่วนหลังจบเครดิตแล้ว ช่างมันเหอะ!


ชื่อภาพยนตร์: Resident Evil: Afterlife / ผีชีวะ 4 สงครามแตกพันธุ์ไวรัส
ผู้กำกับภาพยนตร์: Paul W.S. Anderson
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Paul W.S. Anderson
นักแสดงนำ: Milla Jovovich, Ali Larter, Wentworth Miller, Spencer Locke, Alex Williams, Shawn Roberts, Boris Kodjoe, Mike Epps
แนวภาพยนตร์: Action/Sci-fi/Horror
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 9 กันยายน 2553
ความยาว: 97 นาที
เรท: ไทย น15+, USA R

Exit mobile version