ถ้าคนเราเกิดมาพร้อมหน้าที่บางอย่างที่มีต่อโลกใบนี้ เราอาจต้องใช้เวลาและประสบการณ์ค้นหาหน้าที่อันนั้นอยู่สักพักก่อนจะได้คำตอบกับตัวเอง แต่ถ้าหน้าที่อันนั้นคือ ภารกิจที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนถึงเบื้องหลังของมัน คุณอาจได้แต่สงสัย ตั้งคำถามแต่ไม่เคยได้คำตอบ จนวันหนึ่งที่วี่แววของคำตอบเริ่มปรากฏขึ้น คุณจะกระโจนเข้าไปหามันมั้ย?
เดินเข้าโรงหนังไปชมภาพยนตร์ไซไฟเรื่องใหม่ ‘Oblivion อุบัติการณ์โลกลืม’ มาวันนี้ เลยได้พบกับหนังอีกเรื่องที่ไม่เร่งเร้าแต่ค่อนข้างโอเคกับมันมาก
หากคุณเคยชม ‘Tron Legacy’ มาแล้ว นี่คือผลงานการกำกับฯ ของผู้ชายคนเดียวกัน Joseph Kosinski ที่คราวนี้เขาเล่นหมดทุกบทบาท ทั้งผู้กำกับฯ ผู้อำนวยการสร้าง และผู้เขียนบท อีกครั้งมันยังสร้างขึ้นมาจากหนังสือภาพของเขาเองอีกด้วย
รีวิวหนัง ‘Oblivion’
มันคือเรื่องราวของโลกมนุษย์ในอนาคตที่ถูกกลุ่มที่เรียกว่า Scavs เข้ามารุกราน เกิดสงครามครั้งใหญ่ที่มนุษย์ชนะมันแต่โลกกลายเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยกัมมันตรังสีและเศษซากของสิ่งก่อสร้าง จนต้องหันไปอยู่กันเหนือเมฆ แต่ก็มีมนุษย์ไม่มากนักบนนั้นเพราะส่วนใหญ่หนีอพยพไปอยู่ดวงจันทร์ไททันกันหมดแล้ว แจ็ค ฮาร์เปอร์ (Tom Cruise) ผู้มีหน้าที่ซ่อมยานโดรนที่เป็นยานรบสมรรถนะสูงขนาดย่อม ทำงานพร้อมกับวิคก้า (Andrea Riseborough) สาวสวยที่เป็นทั้งคู่หูในการทำงานและคู่ใจของแจ็ค
ภารกิจของพวกเขาใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ถ้าไม่เกิดบางสิ่งบางอย่างขึ้นบนพื้นโลกเสียก่อน…
เขาลงมาบนพื้นโลกเพื่อซ่อมแซมยานโดรนที่เสียเพราะพวก Scavs ทำให้เขาได้พบกับมนุษย์ผู้หญิงอีกคน เธอคือ จูเลีย (Olga Kurylenko จาก Quantum of Solace) เธออยู่ในแคปซูลที่แจ็คไปเจอเข้า เขาช่วยชีวิตเธอไว้พร้อมๆ กับเค้าลางบางอย่างที่เขาสงสัยมาตลอด มันเริ่มแจ่มชัดขึ้น เมื่อเขานำเธอกลับมายังที่พัก เรื่องทุกอย่างก็เริ่มขยายวงขึ้น
เพราะมันไม่ได้มีแค่เขา เธอและเธอ มันยังมีสิ่งมีชีวิตเบื้องล่างที่คอยจะจับตัวเขาไปอีกด้วย ทั้งหมดยังมีปริศนาบางอย่างที่รอให้เขาพิสูจน์อยู่
สิ่งหนึ่งที่เขาสงสัยมาตลอด ก็คือ เขาเคยเป็นใครในอดีต ทำไมภาพบางอย่างโผล่มาในความคิดของเขาตลอดเวลา อีกทั้งยังพบว่ามีมนุษย์อยู่เบื้องล่างที่บอกว่า เขากำลังถูกหลอก สิ่งที่เขาพูดถึงนั้นมันคืออะไรกันแน่และมันเชื่อถือได้มากแค่ไหน อ่านจากเนื้อเรื่องย่อที่ผมว่ามา ก็คงพอจะรู้ว่าเราจะได้พบกับอะไรที่หนังตัวอย่างไม่ได้เล่าไว้เป็นแน่แท้ แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
คนเราทุกคนย่อมเกิดมาพร้อมๆ กับภารกิจ ภารกิจที่เราอาจถูกมอบหมายจากใครสักคนที่มีอำนาจเหนือเรา เราอาจต้องทำแม้ไม่ได้เต็มใจ หรือไม่รู้เหตุผลของภารกิจนั้นสักนิด แต่ภารกิจบางอย่าง เราจะรู้ในใจของเราเองโดยไม่จำเป็นต้องให้ใครมาบอก เราอาจจะได้ยินบ่อยหน่อยกับคำถามๆ นี้ “ภารกิจของคุณคืออะไร?”
‘อุบัติการณ์โลกลืม’ อาจจะดูว่าเป็นหนังไซไฟ แต่ดูจะไม่เน้นฉากแอ็คชั่นมากนัก มันเป็นส่วนผสมของหนังแอ็คชั่นผจญภัยกับหนังดราม่าเรื่องความรัก ผ่านการดำเนินเรื่องที่ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป แต่ด้วยองค์ประกอบด้านภาพ (ซีจี, มุมกล้อง) งานออกแบบ (ทั้งเสื้อผ้า, ยานพาหนะ และสถานที่อยู่อาศัย) และดนตรีประกอบที่เพราะมาก เหมือนกับมันอบอวลอยู่ในหนังตลอดเวลา ส่วนผสมทั้งหมดประกอบกันเข้าทำให้มันกลายเป็นหนังที่ดูเนือยๆ แต่ตรึงเราให้สนใจความเป็นไปของเรื่องราวที่ค่อยเปิดเผยออกมาทีละเปลาะๆ จนในที่สุด ผู้ชมก็จะเข้าใจว่าอะไรคืออะไร ทุกอย่างมีเหตุผลรองรับพอให้เชื่อ แม้สุดท้าย ผู้ชมอาจพบว่าบางอย่างก็ยังไม่เม้กเซ้นส์มากพอก็ตามที
จะว่าไปแล้ว ‘อุบัติการณ์โลกลืม’ ก็อาจไม่ใช่หนังที่สุดยอดอะไรมากมายขนาดนั้น เนื้อเรื่องก็ดูจะคล้ายกับเรื่องนั้นเรื่องนี้เอามาผสมรวมกัน แต่ด้วยองค์ประกอบที่ค่อนข้างดีในหลายๆ ส่วน ก็สร้างให้มันเป็นหนังที่น่าชมเรื่องหนึ่งได้แม้มันจะไม่ได้สมบูรณ์เลิศเลอเพอร์เฟ็กต์มากนัก อาจจะไม่มีแอ็คชั่นมันหวือหวาแต่คุมโทนได้ตลอดรอดฝั่ง มีพระเอกสุดหล่อไม่พอ ยังมีนางเอกเป็นสาวสวยถึงสองคน แล้วคุณก็อาจเลือกไม่ถูกเลยว่าจะชอบสาวคนไหนดี
อ่อ… แล้วก็อย่าลืมล่ะ ว่าภารกิจของคุณคืออะไร?
ชื่อภาพยนตร์: Oblivion / อุบัติการณ์โลกลืม
ผู้กำกับภาพยนตร์: Joseph Kosinski
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Joseph Kosinski (screenplay), Karl Gajdusek (screenplay), Michael Arndt (screenplay), Joseph Kosinski (comic book), Arvid Nelson (comic book)
นักแสดงนำ: Tom Cruise, Morgan Freeman, Andrea Riseborough, Olga Kurylenko
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Sci-Fi
เรท: ไทย/ , USA/PG-13
ความยาว: 126 นาที
ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Universal Pictures, Chernin Entertainment, Ironhead Studios
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 11 เมษายน 2556
อุบัติการณ์โลกลืม
Oblivion - 7
7
Oblivion
‘อุบัติการณ์โลกลืม’ มันเป็นส่วนผสมของหนังแอคชั่นผจญภัยกับหนังดราม่าเรื่องความรัก ผ่านการดำเนินเรื่องที่ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป แต่ด้วยองค์ประกอบด้านภาพ งานออกแบบ และดนตรีประกอบที่เพราะมาก หนังอาจดูเนือยๆ แต่ตรึงเราให้สนใจได้จนจบแม้ว่าจะไม่ถึงกับเม้กเซ้นส์มากนักก็ตาม
1 คอมเมนต์