จากภาคแรก หนังล่าขุมทรัพย์ที่ไม่ชวนให้ผมอยากเดินเข้าไปดูในโรงเลยสักนิด จนได้มาดูจริงๆ ที่บ้านตัวเอง ก็เลยมาได้คิดว่า ทำไมเราถึงไม่ได้ดูหนังหนุกๆ แบบนี้ในโรงฟะเนี่ย นั่นคือ ปฐมบทของ National Treasure หรือในชื่อไทยว่า ‘ปฎิบัติการเดือดล่าขุมทรัพย์สุดขอบโลก’ มาภาคนี้ เขาตั้งชื่อว่า ‘National Treasure : Book of Secrets’ หรือจะเรียกกันสั้นๆ ว่า ‘National Treasure 2’ ก็คงจะไม่เป็นไร หลังจากประทับใจในภาคแรก เลยถูกผลักดันให้อยากดูภาคสองจนได้
เบน เกทส์ (Nicolas Cage) กลับมาอีกครั้งกับบทบาทเดิม หลังจากประสบความสำเร็จกับการไขปริศนามหาสมบัติในภาคแรก เขากับพ่อก็ออกบรรยายและจัดนิทรรศการต่างๆ ขณะที่ ไรลี่ย์ โพล (Justin Bartha) ก็หยิบเรื่องราวมาเขียนหนังสือ แต่ดูท่าจะขายไม่ค่อยดี จนแตกกลายเป็นหลายมุขในเรื่อง
แต่แล้วก็มีตัวร้ายตัวใหม่เกิดขึ้นจนได้ มิทช์ วิลคินสัน (Ed Harris) ลุกมากล่าวหาว่าบรรพบุรุษของเบนคือ ผู้บงการสังหารอดีตประธานาธิบดีลินคอล์น จนทำให้เบนต้องลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของบรรพบุรุษของตัวเอง นั่นคือ
การตามล่าหาขุมทรัพย์!
(เอาเหอะ อาจจะดูงงๆ ว่ามันจะเกี่ยวกันยังไง พอดีไม่อยากเล่าละเอียดมากนัก)
หลังจากหนังได้เปิดเผยให้เห็นขุมทรัพย์ขนาดมหึมา คราวนี้ หนังกำลังจะเปิดเผยให้เห็นถึงนครทองคำที่ถูกซ่อนไว้มานาน การค้นหาปริศนาต้องบุกบั่นไปทั่วไม่ว่าจะเป็น ทำเนียบขาว พระราชวังบักกิงแฮม แม้กระทั่งการลักพาตัวประธานาธิบดี มีเพื่อนอย่าง ไรลีย์ โพล มีภรรยาอย่าง อบิเกล เชส (Diane Kruger) พ่ออย่าง แพทริก เกทส์ (Jon Voight) คอยให้ความช่วยเหลือ
แต่แตกต่างกันที่ตัวร้ายในภาคนี้ ไม่ได้มาเพื่อขัดขวาง และตามล่าปริศนาควบคู่ไปกับเบน ซึ่งทำให้หนังดำเนินเรื่องไปด้วยความตื่นเต้น และสนุกสนานกับการลุ้นเป็นอันมาก หากภาคนี้ มิทช์ เข้ามาเพื่อคอยเก็บตกความสำเร็จในการไขปริศนาของเบนเท่านั้น
แค่นี้ความสนุกก็ลดลง(จากภาคก่อน)ไปพอสมควรแล้ว…
วิธีการในการไขปริศนาอาจจะยากขึ้น แต่อุปสรรคที่ผ่อนลง ทำให้อาการ “ลุ้น” ก็ถดถอยลงไปด้วย ภาคนี้ มีตัวละครใหม่อีกตัว อย่าง เอมิลี่ แอปเปิลตัน (Helen Mirren) แม่ของเบน หรือพูดอีกแบบก็คือ อดีตภรรยาของแพทริกนั่นเอง เอมิลี่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาโบราณ เธอเข้ามาเติมสีสันให้ตัวเรื่องมากขึ้น เพราะเธอเป็นไม้เบื่อไม้เมากับแพทริกนั่นเอง
6 สหายข้างต้นร่วมกันไขปริศนามาจนถึงด่านสุดท้าย ที่ดูไม่มีอะไรยากอีกแล้ว เหลือเพียงฉากผจญภัย และเอฟเฟกต์ที่น่าสนุกตื่นเต้นทีเดียว
ในช่วงครึ่งแรก เรียกได้ว่า มีบทพูดเยอะมากพอดู จนผมอ่านซับไม่ทัน เพราะต้องทั้งอ่านและทำความเข้าใจเนื้อหาไปพร้อมๆ กันด้วย ใครจะไปดูก็เตรียมตัวในการอ่านซับนิดนึงนะครับ ไม่งั้น อาจมีรอบสองตามมา หุหุ
สาวๆ ในเรื่อง เด่นสุดคงไม่มีใครเกิน อบิเกล เชส ที่แสดงโดย Diane Kruger ที่สวยโดนใจดี (แม้แก้มจะตอบๆ ไปนิด) ที่ติดใจอีกคนก็คงเป็นสาวที่มาคุยกับไรลี่ย์ ในวันที่เขาไปนั่งขายหนังสือ แม้หน้าจะมีกระเยอะไปนิด แต่สวยดีอะ อิอิ
โดยรวม ก็คงเป็นหนังผจญภัยล่าขุมทรัพย์ ที่สนุกใช้ได้ มีมุขตลกแทรกอยู่เป็นระยะ สับหว่างกับช่วงเวลาของการไขปริศนา สุดท้ายก็ยังทิ้งปริศนาไว้ให้คนดูนั่งรอการไขในภาคใหม่
…อย่าง “ปริศนาหน้า 47” นั่นไง
ภาพยนตร์เรื่อง: National Treasure: Book of Secrets / National Treasure 2 / ปฏิบัติการณ์เดือด ล่าบันทึกลับสุดขอบโลก
ผู้กำกับภาพยนตร์: Jon Turteltaub
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Marianne Wibberley, Cormac Wibberley
นักแสดงนำ: Nicolas Cage, Diane Kruger, Justin Bartha
ความยาว: 124 นาที
ปี: 2007
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Family, Mystery, Thriller
อัตราส่วนภาพ: 2.39: 1
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
เรท: ไทย/, MPAA/PG
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย:
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Walt Disney Pictures, Jerry Bruckheimer Films, Junction Entertainment
เสียดายอย่างมากกกก ที่เข้าไปดูเรื่องนี้ด้วยความเหนื่อย หลับไป 3 งีบ พลาดไคลแมกซ์ก่อนพบสมบัติไปหลายเลย TT^TT เรื่องนี้ติดใจมาตั้งแต่ภาคแรกที่ดูในโรงแล้ว (เพิ่งดูที่ช่อง 7 เอามาฉายโปรโมทภาค 2 อีกรอบ) ชอบจังไอแนวทฏษฎีสมคบคิดเนี่ย
ในขณะที่แนวคล้ายๆกันอย่างอย่าง the Davinci Code ทำเอาผิดหวังเล็กน้อย คงเพราะอ่านหนังสือมาก่อนด้วยมั้ง
เพิ่งรู้ว่า Area 51 คืออะไรจากเรื่องนี้แหละ หลังจากได้ยินมานานแต่ก็ไม่ได้สนใจว่ามันมีที่มายังไง (มันถูกเอามาตั้งเป็นชื่อชั่วคราวของ phpBB3 น่ะค่ะ)
ป.ล.เปิดบล็อกแล้วค่ะ ^-^
เอ ทำไม SE7EN รู้ว่า Area 51 คืออะไรจากเรื่องนี้ล่ะครับ งง เพราะในเรื่องก็ไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับมันสักเท่าไหร่เลยนี่ แค่เอ่ยถึงเฉยๆ อะครับ
ส่วนคุณเดย์ เรื่องนี้ได้ชมไวแฮะ ปกติ เห็นบ่นว่าดูไม่ทันเขา เพราะแถวบ้านยังไม่เข้านี่นา :P
หนุกดีครับไปดูแล้ว มันส์มากๆ
ดูมาแล้วมันดี คุ้มค่ากับการรอคอยนักแล
ชักจะอยากดูมั้งแล้วสิ ภาคแรกยังไม่ได้ดูเลย ติดที่พระเอกเป็น Nicolas Cage นี่แหละ ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะดูไปแล้ว ฮ่าๆๆ
สนุกดีครับทั้งสองภาคเลย
หนึ่งในหนังที่อยากดู ยังติดใจภาคแรกอยู่
อ่าว เหรอคะ ในหนังไม่ค่อยได้บอกเหรอคะ (ก็ไปนั่งหลับซะเยอะ อิๆ)
พอรู้ว่ามันมีความหมายไม่ได้ตั้งขึ้นมาลอยๆก็เลยไปเสิร์ชเอาน่ะค่ะ (ชักงงๆแล้วเหมือนกันหรือว่ารู้มาก่อนหน้านี้หว่า)
คนชอบเรื่องมะนาวต่างดุ๊ดชอบหาว่าอเมริกาเก็บความลับเรื่องนี้ไว้ที่นี่ ที่ Area 51
—
เรียกไนซ์ก็ได้ค่ะ ลอง anchor text เป็น se7en เพื่อทดสอบ seo นิดหน่อย ^^;
Nice : ได้ครับ ครั้งต่อไปจะเรียก ไนซ์ อิอิ เท่าที่ดู ก็ไม่มีตรงไหนที่บอกออกมาว่า Area 51 คือไรนะ เป็นเรื่องที่อยู่ในสมุดลับของ ปธน. เท่านั้นอะ
n-blue : แนะนำเลยครับ เรื่องนี้สนุกใช้ได้ แต่อาจจะลุ้นน้อยกว่าภาคแรกนิดนึงเท่านั้นเอง
ไปดูมาแล้วเช่นกัน ฮี่ ๆๆๆ
และเย็นนี้จะดู hit man ถ้าว่าง
พระเอก โคตรเท่ห์
ps.ผมทำอยู่ you2play ล่ะ (คู่แข่ง ๆ ฮี่ ๆๆ)
อิอิ อย่ามองว่าเป็นคู่แข่งเลยครับ เพื่อนๆ กันไว้ดีกว่า
Hitman ยังไม่รู้จะได้ดูวันไหน แต่ก็คิดว่า คงจะดูแหละครับ น่าจะมัน คิดว่างั้นนะ ไม่อยากจะหวังมาก ไม่งั้นจะผิดหวัง อิอิ