ค่ำคืนของวันศุกร์ผ่านไปโดยมีภาพยนตร์ภาคใหม่มาเป็นเหตุการณ์สำคัญ… นานมากแล้ว ที่ผมไม่ได้ดูหนังฟรีสักที คราวนี้ ถึงเวลาเสียทีสินะ ความที่ผมเป็นสมาชิกของร้านทำผมแห่งหนึ่ง จึงได้รับ SMS แจ้งเข้ามา ผมไม่ได้ติดต่อไปในทันที จนได้รับอีกข้อความหนึ่งในหลายวันถัดมา โชคยังดี ผมยังมีโอกาสนั้นอยู่ ของฟรี ใครกันจะไม่ชอบ สรุปว่า ผมจะได้ชมภาพยนตร์เรื่อง ‘L Change The World’ แน่นอนแล้วละครับ
ผมไปถึงโรงภาพยนตร์ในเวลาที่เร็วกว่าเวลานัดหมายพอสมควร นอกจากได้บัตรชมภาพยนตร์ แล้วยังได้ของจากสปอนเซอร์อีก แถมได้ชิมไอศกรีมฟรีอีกด้วย คุ้มดีจริงๆ แต่เซ็งนิดหน่อย ตรงที่กว่าจะได้ฤกษ์ฉายหนัง ก็เลยกว่าเวลาที่บอกเอาไว้แต่แรกถึง 2 ชั่วโมง
ดูเหมือนว่า การดูหนังฟรีมักต้องแลกมาด้วยการเสียเวลาเช่นนี้เสมอ…
รีวิวหนัง ‘L Change the World’
เอาเหอะๆ มาพูดเรื่องหนังกันดีกว่า
‘L Change The World’ หรือชื่อไทยว่า ‘สมุดโน้ตสิ้นโลก’ นี้ เป็นเหมือนส่วนต่อเติมมาจาก 2 ภาคแรกที่เรียกได้ว่า น่าจะจบไปโดยบริบูรณ์แล้ว แต่อยู่ดีๆ ก็มีคนเขียนเรื่องมันขึ้นมาเป็นภาคต่อ ซึ่งจะว่าไป มันก็ไม่ค่อยจะเกี่ยวข้องกับสมุดโน้ตสักเท่าไหร่ เพราะตัวเนื้อเรื่องนั้น เน้นไปที่ L อย่างเต็มๆ
ภาคนี้ เราจึงเห็นยมทูตแค่หนเดียวเท่านั้น
พร้อมๆ กับเราได้เห็นอวสานของสมุดโน้ตมรณะทั้งสองเล่มที่หายไปกับตาด้วย
เรื่องราวที่เน้นไปที่ L อย่างเต็มที่ เมื่อเขานึกอุตริเขียนชื่อตัวเองลงใน Death Note (ซึ่งอันนี้ต้องกลับไปดู ‘Death Note 2’ จะได้ความกระจ่าง) ซึ่งทำให้รู้แน่ว่า ตัวเองเหลือเวลาเพียง 23 วันในการสะสางปัญหาๆ หนึ่ง
ภาคนี้ไม่มีคิระหลงเหลืออีกแล้ว แต่ก็ยังอุตส่าห์ดึงเอามิสะ มิสะ มาใส่ไว้เพียงกระจึ๋งเดียว ไม่รู้ทำเพื่ออะไรเหมือนกัน พอๆ กับที่หยิบเอาภาพวิดีโอของไลท์ในภาคก่อนๆ มาแปะไว้ในฉาก คงเพียงเพื่อจะเชื่อมให้รู้ว่า มันคือเรื่องราวเดียวกันกระมัง
เรื่องราวต้นเหตุเกิดขึ้นในประเทศไทย เมื่อมีการทดลองอาวุธชีวภาพจากเชื้อไวรัสขึ้นในประเทศไทย (เลวจริงๆ มาทดลองบ้านตูซะงั้น) มีเพียงเด็กชายคนเดียวที่ไม่ติดเชื้อ เขาถูกส่งตัวไปให้กับ L พร้อมๆ กับที่ญี่ปุ่น ลูกสาวของศาสตราจารย์ผู้มีชื่อด้านเชื้อโรค ที่ผู้เป็นพ่อมักจะฝึกให้เธอไขปริศนายากๆ โดยที่เธอไม่เคยรู้ว่ามันสำคัญต่อมนุษยชาติแค่ไหน ก็ถูกส่งมาให้อยู่ในความดูแลของ L เช่นกัน
เด็กทั้งสองคนคือ ผู้ที่จะร่วมกุมชะตาโลกด้วยกันกับ L จากผู้คิดเลวร้าย ตั้งใจใช้เชื้อโรคคร่าชีวิตผู้คน ด้วยเหตุผลที่มนุษย์ทำลายสมดุลธรรมชาติไม่เหลือ (เลยต้องลดจำนวนลงเสียบ้าง ว่างั้น)
หาก L ทำสำเร็จ เขาก็คือผู้ที่ช่วยกอบกู้โลกนั่นเอง…
ในภาคนี้ L จะขาดซึ่งวาตาริ ผู้คอยช่วยเหลือเขามาตลอด เขาจะต้องใช้ทักษะชีวิตทุกอย่าง ไม่ได้ใช้เพียงสมองอย่างเดียวแล้ว เรื่องราวที่เดินนิ่งๆ อย่างกับเส้นหมี่เย็นชืดในช่วงครึ่งแรก ค่อยๆ อุ่นขึ้นเรื่อยๆ จนร้อนได้ที่ในช่วงท้าย มีมุกขำๆ ให้ได้หัวเราะเป็นช่วงๆ ถือว่า สนุกใช้ได้สำหรับคนชอบ Death Note
ฉากที่ถ่ายในไทย เท่าที่เห็น ก็มีฉากชนบทของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่ถูกใช้ทดลองอาวุธไวรัส, ฉากที่สนามบิน ใช้เครื่องบินของสายการบิน One-Two-Go เสียด้วย เห็นหางที่เป็นโลโก้สีธงชาติไทยชัดเจน แล้วก็ใช้สนามบินนานาชาติ นครราชสีมา
นอกจาก เคนอิจิ มัตซึยามะ ผู้แสดงเป็น L แล้ว เราก็ยังได้เห็นตัวละครตัวใหม่ๆ ที่เข้ามาร่วมดำเนินเรื่อง โดยเฉพาะ มายูโกะ ฟุคูดะ (จากหนังเรื่อง ‘Kamikaza Girls’) ที่แสดงเป็นสาวน้อยผู้เป็นกุญแจสำคัญของเรื่อง ส่วนฝ่ายร้าย ก็แสดงโดย ยูคิ คุโด (จากหนังเรื่อง ‘Memoirs of a Geisha’)
ผลงานจาก ฮิเดโอะ นากาตะ จาก Ring 2 ทำผลงานเรื่องนี้ได้ไม่เลว แต่ถ้าถามว่า ประทับใจไหม โดยส่วนตัวถือว่า “ยัง” ยังไม่กระตุกต่อมจี๊ดให้ทำงานสักเท่าไหร่ …แต่ผมอาจจะคิดไม่ตรงกับคุณก็ได้ ใครจะรู้
ที่แน่ๆ ก็ คือรอบที่ผมไปดูมา เป็นแบบพากย์ไทยโดยกลุ่ม “พันธมิตร” ที่พากย์ได้ขำสุด พวกเขาเติมบทใส่ลงไป ทำให้ฉากที่เฉยๆ กลายเป็นฉากฮา
….จากฉากฮาๆ ก็กลายเป็นก๊ากๆ ไปซะได้!
อ่าว ไฉนมาทดลองที่ไทยล่ะครับทั่น! หรือเพราะมันเข้าง่ายออกง่าย ใครจะมาปู้ยี่ปู้ยำอย่างไรก็ได้
โอ๊ะๆ แค่หนังๆ อินๆ :P
แต่คนคอสแอลหน้าตาดีๆเยอะนะ อิๆ
หนังแนวนี้เป็นหนังที่ไม่คิดจะไปดูในโรง ขนาดแผ่นหรือโหลดยังไม่แน่ใจเลยว่าจะได้ดูรึเปล่า
(รอช่อง 7 บิ๊กซีนีม่า 555)
ไม่ใช่ไม่ชอบนะ แต่ขี้เกียจ :lol:
พึ่งไปดูมาวันนี้เอง .. ไม่รู้โชคดีหรือโชคร้ายที่ได้ดูแบบ soundtrack เพราะอาจไม่ได้ยินอะไรขำๆอย่างว่า หุหุ
ขอสปอล์ยหน่อยละกัน … คือสงสัยเสียเหลือเกินว่า N เป็นคนไทยใช่ไหมสรุป .. เลยสงสัยว่า N ในเรื่องนี่ไม่เห็นพูดไทยเลยซักแอะ (55)
เห็นหลายๆอย่างในเรื่องเลยเกิดความสงสัยว่าหนังเรื่องนี้ถือเป็นหนังเกรด B หรือเปล่า? แล้วมันจะได้ฉายกี่ประเทศกันนี่??
โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าความเข้มข้นที่เคยมีใน deathnote มันหายไปไหนหว่า … ไม่รู้สึกว่า L ได้ใช้ความฉลาดเท่าไหร่เลยภาคนี้ .. แต่ก็ยังถูกใจที่มีโผล่มาให้หายคิดถึง .. คิดไปคิดมา อาจจะเป็นว่าปูทางให้กับหนังภาคใหม่ที่จะให้ N เป็นตัวเอกหรือเปล่านี่???
ผมก็สงสัยเหมือนกัน เด็กในหมู่บ้านชนบท ก็น่าจะเป็นเด็กไทย เลยทำให้พอไปอยู่กับ L เขาไม่ค่อยพูด เพราะพูดไม่เป็นนั่นแหละ แต่ตอนไขปริศนาออก เขาก็พูดญี่ปุ่นนะ ช่ายมะ ก่อนหน้านั้น คงฝึกนับเลขเป็นญี่ปุ่นอยู่สิท่า อิอิ
ถ้าใช่ก็กลายเป็นว่า จริงๆ N คือคนไทยนั่นเอง
อ้าว นี่เรากำลังสปอยล์อยู่นี่หว่า เหอๆ
comment นี้ อาจไม่เกี่ยวกับหนังนัก
ตอนแรก ผมสังเกตุเห็น เด็กๆ ที่ญีปุ่น (เพี้ยนนิสนึง) จึงนิยม”เขียนตา”แบบนี้
ไปๆ มาๆ พอกระแส คริส แองเจิล ดัง … คริส เองก็เขียนตาแบบนี้เหมือนกัน
วันก่อนโน้น(หลายวันพอดู) เห็นเขาขาย ดินสอเขียนตา ของคนอินเดีย
มีการสาธิตให้ดู … เขียนไป เขียนมา เหมือน L กับ คริส ไม่มีผิด
… หรือ เพี้ยนๆ เฮี้ยนๆ … ต้องมี look แบบนี้ ใครรู้ วานบอก
: )
Deathnote ยังไม่ได้ดูซักภาคเลย 555+
ขำๆ มุกคนไทย .555 มี มดดำ มาร่วมแสดงด้วย คิคิ (สปอยล์) อ๊ะป่าว
แต่ คือ ..ผิดคาด
N ในการ์ตูน กับ N ในหนัง ง่า
N ที่แท้ เป็นคนเชียงใหม่งั้นรึ??? หุหุหุๆๆ
ไม่ชอบ ทรงผม เด็ก N ..N ในการ์ตูนผมม้วน/ขาวด้วย เท่กว่า
แต่ถ้าเรื่องนี้ดัง..ภาค N มาแหงๆ เลย
เพิ่งรู้ มีเป็น A B C D E F G H i J K L M N …จะมี O P Q ไปถึง Z ไหมน๊อ อิอิ
แต้ชอบ L ค่ะ เท่ประหลาดได้ใจ
เข้าเมื่อไหร่จะไปดู บ้านน๊อก บ้านนอก แถวนี้ หาดูหนังให้ทันชาวบ้านเขาไม่ค่อยจะได้หรอก แหะๆ
ดูภาคแรกแล้วไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ แต่ถ้าพันธมิตรพากย์คงต้องหาแผ่นมาดูซะแล้ว ชอบ ขำมากมาย
L Change the world ทำให้อัจฉริยะกลายเป็นคนธรรมดา สร้างมาทำไมเนี่ย พล๊อตเรื่องแสนจะธรรมดา เหมือนหนังสืบสวนทั่วๆไป ดูพอขำๆก็คงได้
คนที่ดูมาแล้วเคยอ่านการ์ตูนกันป่าวคะ
ที่ญี่นออกตอนเดียวจบ เป็นเรื่อง 9 ปีหลังจากนั้น
หา scanlation มาอ่านได้
เนียร์ในหนังเป็นคนไทยหรือนี่
ไอเขียนตาแบบนั้น gothic look
คนดูดีแต่งยังไงก็ยังดูดีอะนะ
ผมเคยอ่าน Death Note ไปประมาณ 5-6 เล่ม หลังๆ นั้นไม่ได้ตามแล้วอะครับ
ไม่แน่ อาจจะเช่าอะนิเมะมาดู อิอิ