แล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่หลายคนรอคอย วันที่จะได้สัมผัสกับภาพยนตร์ภาคใหม่อันเป็นภาพยนตร์ยิ่งใหญ่และน่าภาคภูมิใจของคนทั้งชาติ เรายังมีชาติไทยทุกวันนี้ได้ ส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ไทย มีพระนามของมหาษัตริย์พระองค์นี้ร่วมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน หลังจากรอคอยกันแรมปี วันนี้ ผมพาตัวเองสู่งานกาล่าเปิดตัวภาพยนตร์ของท่านมุ้ย ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล … ภาพยนตร์ไทยเรื่อง ‘ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 3 ยุทธนาวี’
รอบกาล่าพรีเมียร์รอบสื่อ หรือจะรอบอะไรก็ตามแต่ แต่นี่ก็เป็นอีกครั้งที่มีหนังมาเปิดรอบก่อนฉายจริงกันที่นี่ Paragon Cineplex งานวันนี้ อุ่นหนาฝาคั่งไปด้วยบรรดาคนดังระดับเซเล็บมากมาย คนตัวเล็กๆ สองคนเดินอย่างตัวลีบ ชะเง้อมองเหล่าคนดังด้วยความชื่นชม สวยจัง…
รีวิวหนังไทย ‘ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 3 ยุทธนาวี’
ได้เวลาที่พวกเราจะได้พบกับภาคใหม่ของภาพยนตร์เรื่องที่หลายคนรอคอย เดินเข้าโรงภาวาลัย เข้าไปนั่งเพลินๆ ในจุดที่อยู่สูงกว่าที่เคยดูมากมาย นั่งมองเหล่าดารานำค่อยทะยอยเดินเข้างานอย่างเพลินๆ ก่อนที่จะได้เวลาของการฉายภาพยนตร์กันแล้ว
เริ่มต้นเรื่องกันก่อนเลย ด้วยการเล่าเรื่องราวย้อนหลังอย่างย่นย่อ ทว่าก็ละเอียดพอควร สำหรับผู้ที่เคยชมมาแล้วอย่างน้อยภาคละรอบ น่าจะพอนึกย้อนได้บ้าง ผมว่าเป็นเรื่องดี ที่คนตัดต่อเลือกที่จะเล่าย้อน เพราะเรื่องราวนั้นค่อนข้างมีรายละเอียดสูง ผู้ชมส่วนใหญ่ไม่น่าจะจดจำเรื่องในภาคก่อนได้หมดแน่
แล้วเรื่องราวที่เกิดขึ้นถัดๆ มาก็ถูกบอกเล่า
ภายหลังยุทธภูมิแม่น้ำสะโตง กาลอันใครๆ ก็รู้กันว่า อโยธยาศรีรามเทพนครท่าจะต้องกรำศึกรอบด้านอยู่หลายปีเป็นแน่แท้ เพราะเหตุการประกาศเอกราชของเจ้าฟ้าเมืองสองแควยังความไม่พอพระทัยแก่พระเจ้านันทบุเรงเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเกรงอาณาจักรอื่นที่เคยสวามิภักดิ์จะเอาเป็นเยี่ยงอย่าง แต่ก็ยังมิอาจทำอะไรได้มากไปกว่า ส่งทัพพระยาพะสิมและพระเจ้าเชียงใหม่-นรธาเมงสอ เข้ามาประชิด เพราะตนยังติดพันกับศึกอังวะอยู่
พระนเรศที่เก่งในด้านกรำศึกสองด้าน จำต้องออกอุบายศึกเพื่อให้การรบของคนข้างน้อยเอาชัยต่อคนข้างมาก เหตุการณ์ที่เหลือทั้งหมด เทไปให้กับการรบกับศึกทั้งสองด้านนี้เป็นหลัก หากก็ยังมีเวลาเหลือมาเล่าถึงเรื่องราวด้านอื่นด้วย อย่างเช่น เรื่องความรักของเลอขิ่นและอ้ายทิ้ง ที่ปูมาอย่างเต็มๆ จากภาคที่แล้ว แต่ภาคนี้กลับกลายเป็นรักแสนเศร้า เพราะความมั่นคงในสัญญารักของเลอขิ่น, การสืบเรื่องไส้ศึกชาวจีน อันเป็นที่มาของศึกทางน้ำหนแรก, เรื่องราวภายในวัง ความขัดแย้งทางชนชาติที่ฝังรากอยู่ในความคิดของคน ความสุขสบายของผู้คนในวังจนไม่ออกมารับรู้ความทุกข์ของคนข้างนอก รวมทั้ง ความแยบยลในการลวงข้าศึกว่าเป็นมิตรทั้งที่ใจคิดเป็นศัตรู
สิ่งที่น่าเสียดาย คือ เราได้เห็นการศึกอันเยี่ยมยุทธของพระนเรศ ได้เห็นการวางแผนศึกจากกระดานจำลองภูมิประเทศ หากนั่นไม่ได้บ่งบอกให้คนไทยเข้าใจพื้นที่มากพอ ว่าจุดใดคือ เมืองแครง เมืองคัง และแม้กระทั่งเมืองละแวก ทำให้เราไม่อาจรู้ได้ว่า ตำแหน่งของทัพต่างๆ ในขณะเวลานั้น ตั้งอยู่ ณ จุดใดของประเทศ การเดินทัพไกลเพียงใด ข้าศึกฝ่ายไหนกำลังต้องป้อมปราการอยู่ เพราะผู้ชมส่วนใหญ่ อาจไม่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์มากพอจะรู้จักทุกเมืองที่ว่ามา หรือจะหาเหตุให้ผู้ชมไปศึกษาเพิ่มเติมต่อก็อาจเป็นได้
ในด้านของโปรดักชั่นนั้น ท่านมุ้ยยังคงเน้นหนักและเอาจริงเอาจังเช่นเดิม งานสร้างที่สุดอลังการ แม้จะไม่สุดมากนักในส่วนของการรบทางเรือ แต่การรบทางบก กลับทำได้อย่างน่าชื่นชม ตัดจังหวะให้เร็วช้าได้ดีในบางช่วง หากบางจุดก็ยังเรียกได้ว่าไม่ลงตัวนัก การจับสองเหตุการณ์มาเล่าพร้อมกันยังทำได้ไม่น่าสนใจพอ การถ่ายทำและมุมมองของกล้องยังเลือกมุมกว้างเสียเกือบทั้งหมด จนทำให้การตัดต่อไม่มีสีสันและมิติเท่าที่ควร ขณะที่ต้องยกนิ้วให้ในเรื่องของความละเอียดละออในการออกแบบและสร้างฉากในวัง
‘ยุทธนาวี’ เพิ่มเติมตัวละครใหม่เข้ามามากมายหลายตัว ทั้งที่ถูกพูดถึงและโผล่มาให้เห็น แต่ไม่ได้บอกว่า เป็นใคร ดาราใหม่ เดินเข้ามาสมทบมากมาย เราจึงได้เห็นทั้ง จั๊กจั่น อคัมย์สิริ, นุ่น ศิรพันธ์, แอ๊ฟ ทักษอร, เกรซ มหาดำรงค์กุล, ทราย เจริญปุระ และนุ้ย เกศรินทร์ สาวสวยเต็มเรื่องเลยทีเดียว
ขณะที่หนังก็พยายามจะเล่าถึงตัวละครตัวเล็กตัวน้อยอย่างใส่ใจ ซึ่งจริงๆ แล้วหากไม่เล่าถึง เรื่องก็คงไม่เสียหาย และศึกครั้งนี้ก็อาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่ พอจะกลายเป็นหนังเรื่องใหญ่ได้ เพียงแต่…ไม่อาจข้ามที่จะไม่เล่าไปได้เท่านั้นเอง
ศึกครั้งนี้ยังดูจ้อยนัก เมื่อเทียบกับศึกครั้งหน้า ที่หนักหนากว่าหลายเท่า!
ชื่อภาพยนตร์ : ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 3 ยุทธนาวี / The Legend of King Naresuan 3
ผู้กำกับภาพยนตร์ : ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล
ผู้เขียนบทภาพยนตร์ :
นักแสดงนำ : พ.ท. วันชนะ สวัสดี, พ.ท. วินธัย สุวารี, นพชัย ชัยนาม, ปราบต์ปฎล สุวรรณบาง, พ.ท. คมกฤช อินทรสุวรรณ, สรพงษ์ ชาตรี, ฉัตรชัย เปล่งพานิช, จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์, นภัสกร มิตรเอม, ชลัฏ ณ สงขลา, สมชาติ ประชาไทย, ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ, อินทิรา เจริญปุระ, เกรซ มหาดำรงค์กุล
ประเภท/แนว : Epic/History
เรท : ส
ความยาว :
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย : 31 มีนาคม 2554
ปี : พ.ศ. 2554
เป็นเรื่องที่ต้องดูให้ได้ครับ รอมาหลายปีแล้ว
ภาพยนต์เรื่องนี้ต้องบอกว่าสุดอลังการมากทีเดียว ผมเองก็เข้าไปชมในรอบวันแรกที่ฉาย ก็คิดว่าทำออกมาได้ดีครับถือว่าไม่ผิดหวังที่รอมาหลายปี อาจจะมีความรู้สึกว่า สั้นไปหน่อยแต่เป็นเพราะว่าเราคงดูเพลินไป ฮะๆๆๆๆๆ ปวดฉี่แทบแย่ แต่ทำไมยังไม่จบ ซะงั้น เหอๆๆๆ
แวะมาทักทายครับ ไม่ค่อยได้พูดคุยกันเลยหลังจากที่คุณแพทเงียบๆ ไปไงก็แวะมาทักทายกันบ้างนะครับ คิดถึง
เราดูแล้วรักเธอประเทศไทยเนาะ …ขอแนะนำให้ไปชมฉากใหม่ๆที่กองถ่ายเมืองกาญจนบุรีกับบ้านชาวเกาะ จะได้มีฟามสุขฟามรู้มากมาย ไปฟรี กินฟรี 2 มื้อ เที่ยวฟรี นอนเหมือนจะฟรี ในราคา 450 บาทมีแอร์ด้วย…เหลือเชื่อ!!! ไม่รู้ลุงบ้านชาวเกาะ เค้าทำได้ไง …ไปดูที่นี่ http://www.baanchaokoh.com แล้วจะบอกว่า แบบนี้ก็มีด้วย อย่าช้านะ ที่เห็นๆนะ ลุงเค้าขาดทุนเห็นๆเลย มาช่วยโปรโมทให้แกขาดทุนน้อยลงหน่อยนะ