ถ้าโลกนี้เกิดมีพวกหัวคิดประหลาด เลือกสร้างให้มนุษย์มีอายุขัยที่ 25 ปี หลังจากนั้นพวกเขาจะไม่แก่ แต่อายุจะถูกเพิ่มขึ้นเพียงจากการทำงาน การหยิบยืมส่งให้กัน และทุกอย่างที่พวกเขาไปใช้บริการ จะต้องถูกแลกเปลี่ยนด้วยอายุขัยที่เหลือของพวกเขาเหล่านั้น ดูไม่ใช่ชีวิตที่น่าสนุกเลยใช่มั้ยครับ? มนุษย์ส่วนใหญ่ในภาพยนตร์เรื่อง ‘In Time’ มีชีวิตอยู่แบบวันต่อวัน หากไม่สามารถหาเวลามาต่อชีวิตได้ทันแล้วล่ะก็ ความตายก็จะมาเยือนในทันที เราสามารถพบกับผู้คนที่นอนตายอยู่ข้างทางได้เสมอในเขตหรือโซนที่พระเอกเกิดและเติบโตมา
เมื่อ วิล ซาลาซ (Justin Timberlake จากหนังเรื่อง ‘Friends with Benefits’, ‘Bad Teacher’, ‘The Social Network’) ชายผู้เกิดในย่านคนหาเช้ากินค่ำ ได้รับรู้ความจริงของระบบอันฉ้อฉล เขารู้สึกไม่เป็นธรรม เมื่อรู้ว่ายังมีอีกด้านหนึ่งที่คนรวยที่ซื้อหาเวลาได้มากพอจนมีชีวิตยืนยาว และหลายคนถึงขั้นเป็นอมตะ ประกอบกับการจากไปอย่างกะทันหันและต่อหน้าต่อตาของ เรเชล ผู้เป็นแม่ (Olivia Wilde) ไล่เลี่ยกับการได้พบกับหนุ่มผู้มีอายุเหลือร้อยกว่าปี และเปิดเผยเรื่องดังกล่าว ก่อนชายผู้นั้นจะบริจาคอายุขัยให้กับเขาจนหมด
มันผลักให้เขาคิดจะเอาคืน!
สภาพของการควบคุมจำนวนมนุษย์ด้วยเงื่อนไขทางพันธุกรรมแบบใหม่ เงินตราถูกใช้แทนด้วยหน่วยของเวลา แต่สิ่งที่ไม่ต่างจากเดิม คือ ความเหลื่อมล้ำทางฐานะ คนรวยคือคนที่มีอายุขัยยืนยาว คนจนหาเช้ากินค่ำ คือคนที่มีอายุแบบวันต่อวัน ในหนังเรื่องนี้ เราจะได้เห็น แม่กับลูกหน้าตาใกล้เคียงวัยกัน ได้เห็นรถเก่งหรูรุ่นเก่า แถมมีอยู่แค่สีเงินกับสีดำด้านๆ เท่านั้น
รีวิวหนัง ‘In Time’
ภาพยนตร์เรื่องนี้ กำกับโดย Andrew Niccol (ผู้มีผลงานอย่าง ‘Gattaca’ และ ‘The Truman Show’) เขาเคยสร้างผลงานในระดับที่เป็นที่จดจำ แต่ครั้งนี้ อาจจะไปไม่ถึงระดับนั้นมากนัก หากแต่ก็เป็นผลงานที่ถือว่า ผ่านกระบวนการคิดมาพอควร ตีแผ่ความจริงของมนุษย์ในบางแง่มุมออกมาในลักษณะของหนังไซไฟ ที่ใช้ “อายุขัย” กับตัวเลขบนแขนเป็นสิ่งบอกปัจจัยและมูลเหตุ ดูเข้าใจง่าย แต่ก็ดูเข้าใจยากในขณะเดียวกันด้วย
นอกจาก “ความเหลื่อมล้ำทางการเวลา” แล้ว ในหนังก็ยังมีแบ่งโซนที่เรียกว่า “ไทม์โซน” อีกด้วย นั่นเปรียบได้กับโลกปัจจุบัน ที่เรามีกลุ่มคนหลายกลุ่ม ที่แบ่งแยกกันตาม “โอกาส” ซึ่งก็ไม่พ้น “เวลา” ซึ่งก็คือ “เงิน” ในโลกปัจจุบัน
เขาเดินทางข้ามโซนไปยัง นิวกรีนนิช ซึ่งเป็นดินแดนของชนชั้นสูง เขาได้พบกับ ซิลเวีย ไวส์ (Amanda Seyfried จากหนังเรื่อง ‘Red Riding Hood’, ‘Mamma Mia!’, ‘Mean Girls’) สาวสวยลูกสาวของมหาเศรษฐี ความสัมพันธ์ที่ก่อตัวขึ้นพร้อมๆ ไปกับการถูกไล่ลาจากไทม์คีปเปอร์ ทำให้เกิดเรื่องราวทั้งน่ารักและน่าลุ้นในช่วงเวลาถัดมา
น่าชื่นชนในแนวความคิดที่ประหนึ่งเป็นการเสียดสีโลกปัจจุบัน คนมีเงินคือคนที่คอยกุมชะตาของระบบ คอยเบียดเบียนโอกาสที่มีอยู่น้อยนิดคนจนๆ ทีละน้อย ไม่ว่าพวกเขาจะรู้ตัว/ตระหนักหรือไม่ก็ตาม
โดยรวม ผมไม่ได้ประทับใจมากนักกับพล็อตของหนังมากนัก ผมน่ะชื่นชมในไอเดีย แต่หนังยังไม่ได้พาเราให้รู้สึกอึ้งหรือทึ่งได้มากนัก การโอนเวลาที่ทำกันได้ง่ายดายเกินไป จนเป็นเหตุให้เกิดอาชญากรรมได้ง่ายมาก หากแต่ผมเห็นด้วยกับหลายๆ คน ว่าเคมีที่ดูเข้ากันดีของสองพระนาง Justin Timberlake และ Amanda Seyfried โดยเฉพาะคนหลัง เธอมีเสน่ห์มากมาย แถมเสื้อผ้าก็ดูเข้ากันกับหุ่นของเธอเหลือหลาย ทำให้นี่คือจุดที่ดีที่สุดของหนัง
และเป็นความประทับใจสำหรับผมไปโดยปริยาย
ชื่อเรื่อง : In Time / ล่าเวลาสุดนรก
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Andrew Niccol
ผู้เขียนบทภาพยนตร์ : Andrew Niccol
นักแสดงนำ : Justin Timberlake, Amanda Seyfried, Cillian Murphy, Olivia Wilde, Matt Bomer
แนว/ประเภท : Crime, Sci-Fi, Thriller
เรท : USA/PG-13, ไทย/น13+
ความยาว : 109 นาที
ประเทศ : สหรัฐอเมริกา
ปี : ค.ศ.2011
ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย : 20th Century Fox, Regency
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย : 27 ตุลาคม 2554
สนุกมาก ๆ ครับหนังเรื่องนี้ไม่ผิดหวังจริง ๆ
น่าดูมากครับ แต่ยังไม่ได้ดูเลยยย