ถ้าถามเจ้าประจำที่เข้ามาเยี่ยมชมบล็อกนี้บ่อยๆ ว่า ค่ายหนังไทยค่ายใดที่เจ้าของบล็อกนี้ชื่นชอบมากที่สุด เชื่อว่า พวกเขาเหล่านั้นน่าจะตอบกันได้ เพราะมันคงไม่พ้นค่ายหนังที่ชื่อเป็นอักษร 3 ตัว GTH อย่างแน่นอน
ด้วยความที่สร้างผลงานออกมาได้โดนใจคนดูในหลายๆ ด้าน นอกเหนือไปจากความบันเทิงแล้ว ยังสอดแทรกสาระแง่คิด การตัดต่อและอารมณ์ที่ดึงความรู้สึกได้ในระดับสูง ประกอบกับการคิดเยอะ ใส่อะไรลงไปในหนังแล้วทำให้คนหยิบมาพูดถึงและเป็นประเด็นต่อเนื่องไปได้
มารู้จักกับค่ายหนัง GTH ให้มากขึ้นอีกนิด
จีทีเอช (GTH) ถือเป็นบริษัททำหนังไทยที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จมากบริษัทหนึ่ง สร้างหนังไทยที่ทำรายได้ระดับ 100 ล้านมาหลายเรื่องทั้งๆ ที่ต้นทุนไม่ได้สูง หนังก็ไม่ได้ฟอร์มใหญ่อะไรมาก แต่ที่ทีมงานทำได้ ก็คือ การเข้าไปอยู่ในใจคนดูให้ได้นั่นเอง
จากจุดกำเนิดที่เกิดมาจาก หับ โห้ หิ้น ฟิล์ม ที่สร้าง “สตรีเหล็ก” ให้กับ ไท เอนเตอร์เทนเมนต์ สายสัมพันธ์ที่เริ่มต้นจากตรงนั้น สานต่อมายัง ’15 ค่ำ เดือน 11′ ที่หับฯ ฟิล์ม ผลิตให้ GMM Picture และ ‘สตรีเหล็ก 2’ ที่ผลิตให้กับ ไท เอนเตอร์เทนเมนต์ แม้หับฯ ฟิล์ม จะเป็นการร่วมทุนของแกรมมี่ กับ หับ โห้ หิ้น บางกอก แต่ก็มีอิสระในการทำงานป้อนให้กับบริษัทอื่นได้
นั่นเป็นช่วงเวลาก่อนที่ปรากฏการณ์ ‘แฟนฉัน’ จะเกิดขึ้น…
จากบทหนังเล็กๆ เรื่องหนึ่งที่ พี่เก้ง จิระ มะลิกุล ลองส่งบทให้กับ คุณวิสูตร พูลวรลักษณ์ มืออาชีพในด้านภาพยนตร์ลองอ่านดู และชักชวนมาทำด้วยกัน จุดเริ่มต้นของสามประสานจึงกำเนิดขึ้น กลายเป็น GMM+Tai+Hub ซึ่งเป็นการรวมกันเฉพาะกิจเท่านั้น
ต่อเมื่อ ‘แฟนฉัน’ ได้กระแสการตอบรับอย่างดียิ่งจากคนไทย แถมยังดังไกลไปถึงต่างแดน วันนั้น GTH จึงได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการ
ด้วยแนวความคิดของการทำหนัง ที่ทุกอย่างเริ่มต้นมาจาก “Big Idea” ส่วนสำคัญที่จะกลายเป็นบทหนังที่ต้องปรับแก้กันเป็นปีๆ หากหนังไม่มีไอเดียที่แข็งแรงแล้ว หนังก็อาจไม่ได้สื่อสารอะไรออกมา การมีมุมมอง ความคิด และทิศทางที่ชัดเจนก่อนที่จะตัดสินใจกันว่า จะทำหรือไม่ทำ กลับทำให้หนังของของ GTH ค่อนข้างมีความแข็งแรงในด้านบท อย่าง “แฟนฉัน” ….
เป็นเรื่องของความรักครั้งแรก ทำไมคนเราอายุ 30 แล้วถึงยังกลับไปคิดถึงน้อยหน่าของเขา มีความรู้สึกอะไรที่ทำให้คนอายุ 30 กลับไปหวนหาอดีต nostalgia ถึงความรักตอน 10 ขวบของเขา นั่นคือ Big Idea ของ “แฟนฉัน”
การพิจารณา Big Idea กระทำโดยการวางตัวเป็นเพียงคนดูหนังคนหนึ่ง ด้วยแนวความคิดที่ว่า ถ้าเราชอบ ก็น่าจะมีคนดูหนังจำนวนหนึ่งที่ชอบด้วย การทำหนังที่รู้สึกไม่ชอบ อยู่กับมันไปเป็นปี คงเป็นความรู้สึกที่ทรมานพิลึกทีเดียว คงไม่อยากตอบคำถามใครเกี่ยวกับหนัง และคงไม่ดีนักถ้าจะตอบใครสักคนว่า “ก็ไม่ค่อยชอบเหมือนกัน”
หนัง GTH มีเรื่องอะไรกันบ้าง?
ถ้าจะลองกลับมามองในมุมของนายแพทบ้าง ผมเองก็ใช่ว่าจะดูหนังจากค่ายหนังค่ายนี้ไปเสียทุกเรื่อง เรื่องไหนไม่รู้สึกชอบจนอยากดูก็เลือกที่จะไม่ดูเช่นกัน แต่เรื่องไหนที่เลือกแล้วว่า อยากไปดู พอได้เข้าไปดูในโรงแล้วรู้สึกอย่างไร ก็จะหยิบมาบอกในบล็อกแห่งนี้เสมอๆ จนบางครั้ง อาจจะดูนอกหน้าเกินไปด้วยซ้ำ อย่างที่รู้กัน ว่านี่เป็นบล็อกส่วนตัว หาใช่เว็บไซต์ข้อมูลหนังแต่อย่างใด
และถ้าใครเข้ามาอ่านบล็อกนี้บ่อยๆ ก็จะพบเสมอว่า แพทโซนิค เป็นบล็อกที่เขียนยาว เต็มไปด้วยตัวอักษรสลับกับรูปภาพหรือคลิปวิดีโอ หาข้อมูลมาประกอบให้คนอ่านมากที่สุด เท่าที่จะมีปัญญาและเวลาหามาให้ได้ ส่วนคนอ่าน จะอ่านหมด หรืออ่านแค่บรรทัดสองบรรทัด ผมก็คงไม่อาจจะไปบังคับอะไรได้จริงๆ
คราวนี้ เรามาดูกันว่า มีหนังเรื่องไหนบ้างแล้ว ที่ค่ายหนังชื่อ GTH สร้างออกมาสู่แวดวงหนังไทย
หนังจีทีเอชในปี 2547
ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ (Shutter)
– บรรจง ปิสัญธนะกูล, ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ – 9 กันยายน – ภาพยนตร์เรื่องแรกภายใต้ชื่อ GTH และเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของ 2 ผู้กำกับหน้าใหม่ไฟแรง จุดเริ่มต้นเป็นการร่วมกันพัฒนาโปรเจ็กต์ของ GMM Picture กับฟีโนมิน่า และส่งต่อให้ GTH ดูแลการจัดจำหน่าย หนังทำรายได้ดีและไปไกลถึงขั้นถูกฝรั่งซื้อไปรีเมก “วันที่ 9 เดือน 9 วิญญาณจะติดตา”
สายล่อฟ้า (Pattaya Maniac)
– ยุทธเลิศ สิปปภาค – 7 ตุลาคม – เป็นหนังดูไม่เหมือนกับหนังของ GTH เลย แต่เป็นงานของยุทธเลิศที่ทำออกมาดีพอสมควรทีเดียว ทำให้เรารู้ว่า โหน่ง ชะชะช่า แสดงหนังได้ดีในระดับหนึ่ง
แจ๋ว (M.A.I.D.)
– ยงยุทธ ทองกองทุน – 23 ธันวาคม – หนังคนใช้ที่เป็นสายลับ และเป็นหนังเรื่องแรกของ โอปอล์ ปาณิสรา พิมพ์ปรุ ที่นำแสดงโดย เบนซ์ พรชิตา ณ สงขลา
หนังจีทีเอชในปี 2548
มหา’ลัย เหมืองแร่ (The Tin Mile)
– จิระ มะลิกุล – 26 พฤษภาคม – ภาพยนตร์ระดับคุณภาพจากผู้กำกับคุณภาพโต้โผใหญ่ในค่าย ซึ่งจะว่าไปก็เป็นภาพยนตร์เรื่องเดียวที่พี่เก้งลงมากำกับฯ แม้ว่านี่จะไม่ได้เป็นหนังทำเงินของค่ายเลยก็ตาม
วัยอลวน 4 ตั้ม – โอ๋ รีเทิร์น (Oups There is Dad)
– ฤทัยวรรณ วงศ์สิรสวัสดิ์ – 28 กรกฎาคม
เพื่อนสนิท (Dear Daganda)
– เอส คมกฤษ ตรีวิมล – 6 ตุลาคม – นี่คงเป็นหนังเรื่องแรกที่แยกมาทำเดี่ยวของกลุ่มผู้กำกับแฟนฉัน เป็นงานแจ้งเกิดของ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, มณีรัตน์ คำอ้วน, ศิรพันธ์ วัฒนจินดา เป็นหนังที่ดูเมื่อไหร่ก็ร้องไห้ตาม และเป็นหนังที่ทำให้ผมจดจำภาพของหนัง feel good จาก GTH ตั้งแต่นั้นมา (ดูขัดแย้งกันเนอะ) ภาพยนตร์นี้พัฒนามาจากหนังสือ กล่องไปรษณีย์สีแดง
หนังจีทีเอชในปี 2549
เด็กหอ (Dorm)
– ย้ง ทรงยศ สุขมากอนันต์ – 23 กุมภาพันธ์ – ผู้กำกับฯ กลุ่มแฟนฉันคนที่สองที่ออกมามีงานเดี่ยวของตัวเอง ฉีกแนวมาเป็นหนังผี ที่ยังคงเล่นกับการหวนหาอดีตอยู่บ้าง แถมยังดึงเอา เน็ก ชาลี ไตรรัตน์ จากแฟนฉันมาเล่นด้วย
แก๊งชะนี กับอีแอบ (Metro Sexual)
– ยงยุทธ ทองกองทุน – 13 กรกฎาคม
โกยเถอะโยม (See How They Run)
– จตุรงค์ พลบูรณ์ – 3 สิงหาคม – นี่ก็เป็นหนังเรื่องแรกของ จาตุรงค์ มกจ๊ก กับ GTH ชื่อดั้งเดิมเลย คือ “เด็กผี”
หมากเตะรีเทิร์น (Lucky Loser)
– ปิ๊ง อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม – 19 ตุลาคม – ภาพยนตร์เกี่ยวกับกีฬาเรื่องแรกของ GTH ที่มีปัญหาการเอ่ยพาดพิงถึงชื่อประเทศเพื่อนบ้าน ถูกนำมาตัดต่อใหม่และนำกลับมาฉายอีกครั้ง และรายได้ค่อนข้างน่าผิดหวัง
เก๋า..เก๋า (The Possible)
– บอล วิทยา ทองอยู่ยง – 4 ธันวาคม – หนังจากผู้กำกับฯ แฟนฉันคนที่สี่ เรื่องราวหวนหาวันเก่า(อีกแล้ว) เพลงประกอบโด่งดังหลายเพลง ทุกเพลงนำมาจากเพลงฝรั่งเก่าๆ ทั้งนั้น มีนักแสดงนำเป็น โจอี้บอย, โป้ โยคีเพลย์บอย, สอง พาราด็อกซ์ และดูเหมือนจะเป็นงานแรกๆ ของน้องรถเมล์
Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย (Seasons Change)
– ต้น นิธิวัฒน์ ธราธร – 31 สิงหาคม – หนังวัยรุ่นเรื่องแรกของ GTH ที่ได้ผู้กำกับฯ จากแฟนฉันมานั่งแท่นออกผลงานเป็นคนที่ห้าแล้ว หนังแจ้งเกิดของ บอล วิทยา, ต่าย ชุติมา และ นาถ ยุวนาถ เป็นหนังที่นำชื่อมาจากเพลงดัง “Seasons Change” ของบอย โกสิยพงษ์ หนังมีเนื้อหาเกี่ยวกับดนตรี และมีเพลงชื่อเดียวกับหนังเป็นเพลงปิดท้าย ที่ทำให้หนังจบอย่างสวยงามประทับใจ บรรยากาศหนังเต็มไปด้วยอารมณ์อบอุ่นแบบการ์ตูนของอาดาจิ
หนังจีทีเอชในปี 2550
Final Score 365 วัน ตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์ (Final Score)
– โสรยา นาคะสุวรรณ – 1 กุมภาพันธ์ – ภาพยนตร์เชิงสารคดีเรื่องแรกและเรื่องเดียวของค่าย ที่ตามติดชีวิตเด็กนักเรียน ม.ปลายที่กำลังจะเอ็นทรานส์เข้ามหาวิทยาลัย และกลายเป็นการแจ้งเกิดของ เปอร์ สุวิกรม อัมระนันทน์ ในวันนี้
แฝด (Alone)
– บรรจง ปิสัญธนะกูล, ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ – 29 มีนาคม – การกลับมาอีกครั้งของ 2 ผู้กำกับฯ แห่ง ชัตเตอร์ฯ ที่คราวนี้ใส่บทนำให้กับ มาช่า วัฒนพานิช ที่ต้องเล่นเป็นสองตัว หนึ่งเป็นคน และอีกหนึ่งเป็นผี หนังยังคงประสบความสำเร็จอยู่ แต่กลับไม่ประทับใจเทียบเท่าเรื่องแรก
ตั๊ด สู้ ฟุด (Kungfu Toosie)
– จตุรงค์ พลบูรณ์ – 19 กรกฎาคม – จากบทภาพยนตร์ที่พี่รงค์นำมาเสนอให้ GTH พิจารณา ชื่อเดิม “กะเทยสู้ฟัด” มีสเกลงานที่ใหญ่ไปกว่า โกยเถอะโยม มาก
สายลับจับบ้านเล็ก (The Bedside Detective)
– เอส คมกฤษ ตรีวิมล – 6 กันยายน – พัฒนาบทจากหนังสือ สะกดรอยชู้ และได้เอส จากเพื่อนสนิท ที่นำซันนี่ กลับมาอีกครั้ง พร้อมนางเอกใหม่ พีค ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ แจ้งเกิดให้เธอกลายเป็นดาราดังในวันนี้
บอดี้ ศพ #19 (Body)
– ปวีณ ภูริจิตปัญญา – 4 ตุลาคม – ถ่ายด้วยระบบดิจิตอลทั้งเรื่อง ด้วยทางที่ไม่ซ้ำกับสองผู้กำกับฯ โต้ง-โอ๋ นี่คือหนังผี CG ที่ได้พระเอกหนังหน้าใหม่ เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ มาแสดงกับนางเอกสาว แป้ง อรจิรา แหลมวิไล
หนังจีทีเอชในปี 2551
กอด (Handle Me with Care)
– คงเดช จาตุรันต์รัศมี – 21 กุมภาพันธ์ – หนังรักช่วงวาเลนไทน์ที่ได้นักร้องนำวง สี่เต่าเธอมาเขียนบทและกำกับฯ ได้ เกียรติกมล ล่าทา, ศุภักษร ไชยมงคล เป็นนักแสดงนำ จากแนวคิดที่ว่า ถ้าคนนึงมีแขนเกิน อีกคนมีนมเกิน มันจะเป็นยังไง แต่ทำรายได้น่าผิดหวังพอสมควร
ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น (Hormones)
– ย้ง ทรงยศ สุขมากอนันต์ – 20 มีนาคม – เพียงเดือนเดียว GTH ก็ส่งหนังใหม่มาให้ชมกัน อีกทั้งยังเป็นหนังเรื่องแรกของ เต๋อ ฉันทวิชช์ คราวนี้เป็น ย้ง ทรงยศ แห่ง เด็กหอ มารับหน้าที่กำกับฯ เป็นหนังที่รวมเอานักแสดงวัยรุ่นที่เคยร่วมงานกันมาอยู่ในหนังเรื่องเดียว โดยแบ่งพล็อตย่อยๆ 3 พล็อตด้วยกัน เป็นหนังที่ feel good สุดๆ ดูเมื่อไหร่ก็ยังยิ้มได้ทุกครั้ง
สี่แพร่ง (4bia)
– ยงยุทธ ทองกองทุน, ปวีณ ภูริจิตปัญญา, บรรจง ปิสัญธนะกูล, ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ – 24 เมษายน – นับเป็นปีที่ GTH สร้างหนังออกมาติดๆ กัน โดยมีแนวที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง นี่คือ หนังสี่เรื่องที่ฉายต่อเนื่องกัน เป็นครั้งแรกที่ GTH เลือกทำหนังแบบ 4-in-1 เช่นนี้ โดยหนังพยายามจะเล่นกับเลข 4 และพยายามเชื่อมโยงแต่ละเรื่องในทางใดทางหนึ่ง
รัก/สาม/เศร้า (The Last Moment)
– ยุทธเลิศ สิปปภาค – 19 มิถุนายน – หนังรักที่ชื่อมันเล่นล้อกับคำว่า “รักสามเส้า” และนำพาพระนาง 3 คนมาเจอกัน เป้ อารักษ์, พีค ภัทรศยา และ ก้อย รัชวิน หนังรักที่เศร้ามาก เรียกน้ำตาได้ไม่หยุดหย่อน แม้จะมีหลุดๆ ไปบ้าง แต่นี่คือ หนึ่งในหนังน่าประทับใจของยุทธเลิศ
โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต (Coming Soon)
– โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ – 30 ตุลาคม – เป็นการพลิกบทบาทมาเล่นหนังผีเป็นครั้งแรกของ เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี เล่นคู่กับนักร้องสาว พันช์ วรกาญจน์
หนังจีทีเอชในปี 2552
ความจำสั้น…แต่รักฉันยาว (Best of Times)
– ยงยุทธ ทองกองทุน – 5 มีนาคม – จากหนังสั้นและพล็อตต่างๆ ที่อยากทำ มายำรวมกันในหนังเรื่องเดียว รักของคนแก่ รักของหนุ่มสาว ความจำ-ลืม อัลไซเมอร์ เป็นหนังที่มีสินค้าเข้ามาปรากฏในตัวหนัง และเป็นครั้งแรกๆ ที่ได้เห็นฝีมือการแสดงของ ญารินดา บุนนาค
หนีตามกาลิเลโอ (Dear Galileo)
– ต้น นิธิวัฒน์ ธราธร – 23 กรกฎาคม – จากที่คุ้นๆ ว่าเดิมเคยใช้ชื่อ ตามหากาลิเลโอ ก่อนจะเปลี่ยนเมื่อหนังถูกโปรโมตจริง จากผู้กำกับฯ คนเดิมแห่ง Seasons Change ต้นเลือก สองสาว ต่าย ชุติมา และ เต้ย จรินทร์พร ซึ่งถือว่าเรียกผู้ชมหนุ่มๆ ได้เป็นอย่างดี เสริมด้วย เร แม็คโดนัลด์ พล็อตอาจจะดูไม่เท่าไหร่ แต่ดาราสาวและฉากยุโรปในหนังพาให้ดูเพลิน
5 แพร่ง (phobia2)
– ทรงยศ สุขมากอนันต์, ปวีณ ภูริจิตปัญญา, บรรจง ปิสัญธนะกูล, ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ, วิสูตร พูลวรลักษณ์ – 9 กันยายน – ยังชอบฉายเอาเคล็ด สำหรับหนังผี วันที่ 9 เดือน 9 แถมยังปี 09 อีก ปรับจาก 4 หนั้งสั้นเป็น 5 เรื่อง ที่แต่ละผู้กำกับฯ ต่างก็นำความอยากเล่าเรื่องในแบบของตนใส่ลงมา ทำให้เราได้พบว่า โต้ง บรรจง ทำหนังผีฮาๆ ได้อยู่หมัดจริงๆ
รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ (Bangkok Traffic love Story)
– ปิ๊ง อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม – 15 ตุลาคม – หนังที่ออกมาในช่วงเวลาฉลอง 10 ปี BTS หยิบพล็อตของหนุ่มวิศวกรรถไฟฟ้า กับสาวหมวยใกล้คาน ที่กวาดร้อยล้านไปเรียบร้อย กับพระเอก เคน ธีรเดช และนางเอกหน้าใหม่ คริส หอวัง ดังเป็นพลุแตก กับโปรเจ็กต์ที่พี่เก้งปลุกปั้นเต็มที่ หลังค้างคาใจกับโปรเจ็กต์ หมากเตะฯ ที่ล่มไปเพราะปัญหาชื่อประเทศ แล้วในที่สุดก็สมใจเสียที
หนังจีทีเอชในปี 2553
บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อน(พ่อสอนไว้) (The Little Comedian)
– วิทยา ทองอยู่ยง, เมษ ธราธร – 11 มีนาคม – การจับคู่กันครั้งแรก กับหนังตลกที่มีพล็อตที่ดี ได้ฉายช่วงที่มีการชุมนุม รายได้จึงอาจจะไม่ได้ดีมากเท่าไหร่ แต่ก็ได้ใจคนดูไปเยอะ หนังได้นักแสดงเด็กหน้าใหม่ มาประกบกับดารา-วีเจสาว พอลล่า ที่ยังไงก็ต้องไปดูกันล่ะ ช่ายมั้ย?
กวน มึน โฮ (Hello Stranger)
– บรรจง ปิสัญธนะกูล – 19 สิงหาคม – เมื่อโต้ง บรรจง กลับมาอีกครั้งในแบบเดี่ยวๆ แต่ไม่ใช่หนังผี หากเป็นหนังรักผสมตลก ตัวหนังชวนฮาแตกไปกับคู่พระนางในแดนกิมจิ หลายอย่างส่งเสริมกันจนหนังบุกตะลุยขึ้นหลักร้อยล้านได้ตามคาด นำแสดงโดย เต๋อ ฉันทวิชช์ และนางเอกหน้าใหม่ หนูนา หนึ่งธิดา โสภณ พัฒนาบทด้วยแรงบันดาลใจจากหนังสือ “สองเงาในเกาหลี” ของ ทรงกลด บางยี่ขัน
กระดึ๊บ (Cool Gel Attack)
– จตุรงค์ พลบูรณ์ – 2 ธันวาคม – จาตุรงค์กลับมาอีกครั้ง กับหนังตลกที่ต้องใช้ CG ช่วยเยอะหน่อย หนังที่ได้พล็อตจากแรงบันดาลเกี่ยวกับข่าวเจลลดไข้เมื่อหลายปีก่อน คราวนี้ เป็น ฟลอยด์ ณัฏฐพงศ์ ชาติพงศ์ และ พีค ภัทรศยา รับหน้าที่แสดงนำ
หนังจีทีเอชในปี 2554
ซักซี้ด ห่วยขั้นเทพ GTH (SuckSeed)
– ชยนพ บุญประกอบ – 17 มีนาคม – หนังรักวัยรุ่นที่มีดนตรีเป็นใจความหลัก เรื่องราวกลุ่มขี้แพ้ตัวห่วยที่รวมกันตั้งวงดนตรีขึ้นมาเพียงเพื่อเหตุผลการโชว์สาว ก่อนจะได้พบกับนางเอกมือกีตาร์ระดับเทพ ที่ทั้งกระชากหัวใจสองคนที่เป็นเพื่อนให้กระจุย ผลงานหนังใหญ่ชิ้นแรกของผู้กำกับฯ ชื่อหมู หนังฮาได้โล่ แถมขนศิลปินระดับเทพมารับเชิญอย่างเพียบ
ลัดดาแลนด์
– โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ – 28 เมษายน – หนังที่นำปัญหาสังคมมาใส่ ผสมเคล้าคนไปปัญหาการอยู่ในหมู่บ้านสยอง หากจะนับว่านี่เป็นหนังครอบครัวที่อยู่ในคราบหนังผี ก็ว่าได้ หรือจะว่านี่เป็นหนังผี ที่เน้นปัญหาครอบครัว ก็ว่าได้อีกเช่นกัน
Top Secret วัยรุ่นพันล้าน
– ทรงยศ สุขมากอนันต์ – 20 ตุลาคม – หนังสร้างกำลังใจ ที่นำเอาชีวิตของเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่ฝ่าฟันจนกลายเป็นวัยรุ่นพันล้านเจ้าของกิจการสาหร่ายทอดกรอบ
หนังจีทีเอชในปี 2555
ATM เออรัก..เออเร่อ
– เมษ ธราธร – 19 มกราคม – หนังที่ถูกเลื่อนฉายมาเป็นต้นปีเพราะเหตุอุทกภัยเรื่องนี้ เป็นการเปิดตัวนางเอกใหม่ ไอซ์ ปรีชญา พงษ์ธนานิกร ปะทะ เต๋อ ฉันทวิชช์ เรื่องราวของหนุ่มธนาคารที่แอบรักกับสาวเจ้านายภายใต้ข้อห้าม กับเรื่องตลกเปิ่นฮาของการชิงไหวชิงพริบเพื่อหาเงินที่มีคนกดไปจากตู้เอทีเอ็มเกิน
รัก 7 ปี ดี 7 หน
– ปวีณ ภูริจิตปัญญา, อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม, จิระ มะลิกุล – 26 กรกฎาคม – ภาพยนตร์เรื่องพิเศษในวาระครบรอบ 7 ปีของค่ายหนัง GTH เรื่องราวที่แบ่งเป็น 3 เรื่องย่อยที่พูดถึงความรักของคนใน 3 ช่วงอายุ จากผลงานของ 3 ผู้กำกับฯ ที่ต่างเคยทำหนังเจ๊งมาอย่างน้อยคนละเรื่อง ความพิเศษ คือ มีนิชคุณมาร่วมแสดงในเรื่องย่อยที่พี่เก้ง จิระ มะลิกุล กำกับฯ ด้วย
เคาท์ดาวน์ (Countdown)
– บาส นัฐวุฒิ พูนพิริยะ – 20 ธันวาคม – ผลงานใหม่ของผู้กำกับฯ หน้าใหม่ ที่ก้าวขึ้นมาจากการเป็นคนทำหนังสั้นที่นิวยอร์ก วันนี้ ฝันของเขากลายเป็นจริงเมื่อได้มีหนังยาวเรื่องแรกในแนวทางของตัวเอง เป็นการทดลองอะไรใหม่ๆ ที่หลายคนยังไม่คุ้นชิน
หนังจีทีเอชในปี 2556
พี่มาก..พระโขนง (Pee Mak)
– บรรจง ปิสัญธนะกูล – 28 มีนาคม – ผลงานจากผู้กำกับที่สร้างชื่อด้วยหนังผี หนนี้หันมาสร้างหนังผีบวกตลก แถมยังหยิบตำนานแม่นาคขึ้นมาปัดฝุ่นใหม่ ตีความใหม่ เล่าเรื่องใหม่ ด้วยการหันไปเน้นเล่าเรื่องของพี่มาก ที่กลับจากการเป็นทหารพร้อมกับเพื่อนทั้งสี่ผู้ที่ล่วงรู้ความจริงว่านาคได้กลายเป็นผีไปแล้ว เป็นหนังเรื่องเดียวของ GTH ในปีนั้น แถมยังทำรายได้เหยียบพันล้านบาทเลยทีเดียว
หนังจีทีเอชในปี 2557
คิดถึงวิทยา (Teacher’s Diary)
– นิธิวัฒน์ ธราธร – 20 มีนาคม – หนังที่เล่าเรื่องราวของครูหนุ่มที่จำใจต้องไปเป็นครูสอนเด็กในโรงเรียนกลางน้ำของหมู่บ้านห่างไกล แถมยังต้องจัดการทุกอย่างตลอด 24 ชั่วโมง สิ่งหนึ่งที่ผลักให้เขายังสู้ต่อก็คือไดอารี่เล่มหนึ่งที่ครูคนเก่าเขียนแล้วทิ้งเอาไว้ หนังเรื่องนี้ดีเด่นจนถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปทำหนังอินเดีย
ฝากไว้..ในกายเธอ (The Swimmers)
– โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ – 7 สิงหาคม – ผลงานเรื่องถัดมาจากผู้กำกับ ‘ลัดดาแลนด์’ เล่าเรื่องราวรักสามเส้าของวัยรุ่นชายสองคนที่เป็นนักกีฬาว่ายน้ำ กับหนึ่งหญิงที่เป็นแฟนสาวของหนึ่งในนั้น เธอฆ่าตัวตายในสระว่ายน้ำ ความจริงที่มากกว่านั้นคือเธอตั้งท้อง หนังที่สะท้อนปัญหาสังคมในหมู่วัยรุ่น
ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้
– เมษ ธราธร – 10 ธันวาคม – ผู้กำกับ ‘ATM เออรัก..เออเร่อ’ กลับมาพร้อมกับหนังตลกชวนหัวเรื่องใหม่ ที่เล่าเรื่องของวิศวกรช่างซ่อมบำรุงผู้ไม่อาจสื่อสารกับแฟนสาวชาวญี่ปุ่นได้รู้เรื่อง ความด้วยอ่อนด้อยทางภาษา ทำให้เขาเลือกมาเรียนภาษาอังกฤษกับติวเตอร์คนสวย
หนังจีทีเอชในปี 2558
ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ (Heart Attack)
– นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ – 3 กันยายน – บอกเล่าชีวิตของมือรีทัชผู้จริงจังกับวิถีทางฟรีแลนซ์ เขารับงานผ่านสาวน้อยที่ทั้งคอยส่งงานให้และทวงงานยิกๆ ที่สุด เขาก็โหมงานจนร่างรับไม่ไหว ในที่สุดก็ต้องไปหาหมอ เจอหมอสาวคนสวยที่กลายเป็นความสุขอย่างใหม่ในชีวิตของฟรีแลนซ์
เมย์ไหน..ไฟแรงเฟร่อ (May Who?)
– ชยนพ บุญประกอบ – 1 ตุลาคม – หนังวัยรุ่นของเด็กหนุ่มที่หลงรักสาวหัวหน้ากองเชียร์จนเอาไปมโนวาดเป็นการ์ตูนเสียยกใหญ่ ก่อนจะถูกเมย์ไหนสาวอีกคนเอาการ์ตูนนั้นไปให้สาวอ่าน ความโกรธจัดจึงคิดภารกิจเรียกคะแนนคืน ก่อนจะได้รู้ว่าเมย์ไหนนั้นแอบรักรุ่นพี่สุดฮอตอยู่ ความลับอีกอย่างของเมย์ไหนคือ เธอสามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าช็อตคนได้หากหัวใจเต้นแรงพอ มันเป็นหนังตลกวัยรุ่นสีสันใหม่
ถ้าจะถามว่า แล้วไอ้หนังสไตล์ feel good นี่มันเป็นยังไง ผมเองก็ไม่ใคร่จะทราบความหมายที่แน่ชัด แต่เท่าที่ประมวลกันคร่าวๆ ดูแล้ว หนังที่ให้ความรู้สึก feel good น่าจะเป็นหนังที่พูดถึงแง่มุมของชีวิตที่ใส่ด้านสดใส ดีๆ เข้ามาเยอะหน่อย ถ้าจะมีอุปสรรคบ้าง อะไรบ้าง ตัวละครก็มักจะยิ้มรับมันได้แม้จะต้องเจ็บปวดบ้าง พล็อตและเนื้อหาค่อนข้างจรรโลงสังคม และจรรโลงใจ ให้แง่คิดที่สร้างสรรค์กลับมาสู่ผู้ชม อาจจะเรียกน้ำตาบ้าง แต่ถ้าดึงอารมณ์ร่วมของคนดูได้ มันก็ควรจะทำนี่นะ มันเป็นหน้าที่ของหนังที่ควรจะทำให้คนคล้อยตามนี่นา
อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญก็น่าจะเป็นเรื่องที่ หนังมักไม่มีผู้ร้ายที่ร้ายเกินไป หรืออาจไม่มีตัวร้ายเลยก็ได้ แต่คือคนธรรมดาที่มีทั้งดีชั่วปนกันไป หรือทำผิดได้ สำนึกผิดได้ อะไรเช่นนี้เป็นต้น
รายได้หนังทุกเรื่องของ GTH
ปิดท้ายด้วยการมาดูรายได้ของหนังทุกเรื่องของ GTH / จีทีเอช กันดีกว่าเน้อ
ปี | เรื่อง | รายได้ |
---|---|---|
2547 | ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ | 109.98 ล้านบาท |
2547 | สายล่อฟ้า | 47.5 ล้านบาท |
2547 | แจ๋ว | 72 ล้านบาท |
2548 | มหา’ลัย เหมืองแร่ | 26 ล้านบาท |
2548 | วันอลวน 4 ตั้ม-โอ๋ รีเทิร์น | 24 ล้านบาท |
2548 | เพื่อนสนิท | 81.3 ล้านบาท |
2549 | เด็กหอ | 50 ล้านบาท |
2549 | แก๊งชะนีกับอีแอบ | 49 ล้านบาท |
2549 | โกยเถอะโยม | 70 ล้านบาท |
2549 | Seasons Change เพราะอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย | 71.8 ล้านบาท |
2549 | หมากเตะ..รีเทิร์นส | 10 ล้านบาท |
2549 | เก๋า..เก๋า | 35 ล้านบาท |
2550 | Final Score 365 วัน ตามติดชีวิตเด็กเอ็นท์ | 25 ล้านบาท |
2550 | แฝด | 62.18 ล้านบาท |
2550 | ตั๊ดสู้ฟุด | 67.03 ล้านบาท |
2550 | สายลับ จับบ้านเล็ก | 70 ล้านบาท |
2550 | บอดี้…ศพ #19 | 30 ล้านบาท |
2551 | กอด | 10 ล้านบาท |
2551 | ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น | 86.3 ล้านบาท |
2551 | สี่แพร่ง | 85 ล้านบาท |
2551 | รัก/สาม/เศร้า | 42 ล้านบาท |
2551 | โปรแกรมหน้า วิญญาณอาฆาต | 50 ล้านบาท |
2552 | ความจำสั้น แต่รักฉันยาว | 49 ล้านบาท |
2552 | หนีตามกาลิเลโอ | 30 ล้านบาท |
2552 | 5 แพร่ง | 113.5 ล้านบาท |
2552 | รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ | 147 ล้านบาท |
2553 | บ้านฉัน..ตลกไว้ก่อน(พ่อสอนไว้) | 42 ล้านบาท |
2553 | กวน มึน โฮ | 125 ล้านบาท |
2553 | กระดึ๊บ | 14 ล้านบาท |
2554 | Suckseed ห่วยขั้นเทพ | 80 ล้านบาท |
2554 | ลัดดาแลนด์ | 117 ล้านบาท |
2554 | Top Secret วัยรุ่นพันล้าน | 38 ล้านบาท |
2555 | ATM เออรัก..เออเร่อ | 152.5 ล้านบาท |
2555 | รัก 7 ปี ดี 7 หน | 70 ล้านบาท |
2555 | Countdown | 26 ล้านบาท |
2556 | พี่มาก..พระโขนง | 1,000 ล้านบาท |
2557 | คิดถึงวิทยา | 101 ล้านบาท |
2557 | ฝากไว้..ในกายเธอ | 66.9 ล้านบาท |
2557 | ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ | 330.97 ล้านบาท |
2558 | ฟรีแลนซ์..ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ | 86.7 ล้านบาท |
2558 | เมย์ไหน..ไฟแรงเฟร่อ | 74.12 ล้านบาท |
ขออภัยจริงๆ ถ้าบทความนี้ออกจะยาวเกินไปสักนิด ถ้ามีเวลาอ่านก็ขอรบกวนอ่านยาวให้จบเลยในทีเดียว หรือหากไม่มีเวลา/ปวดตาเกิน/เป็นคนไม่ชอบอ่าน วานแวะเวียนมาอ่านวันละนิดวันละหน่อยก็แล้วกัน ถือว่า ให้กำลังใจคนเขียน ถ้าจะก็อปปี้ไปใช้ก็กรุณาลิงก์กลับหาผมสักนิดนึงก็ยังดี หรือแจ้งบอกไว้ก่อนก็ได้ ไม่ได้หวงขนาดนั้นนะครับ อ้อ ถ้าจะเอารูปไปใช้ ดาวน์โหลดลงเครื่องก่อนแล้วจะอัพไปไว้ไหนก็ตามสบาย อย่ามาดูดจากบล็อกโดยตรง เปลืองแบนด์วิธชาวบ้านเขาน้า
หมายเหตุ: รวบรวมและเรียบเรียงจาก นิตยสาร Starpics (No.780) และ GTH Website