ในที่สุด ผมก็ได้ดู ‘รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ’ กับเขาจนได้ เสาร์เย็นย่ำ ณ พารากอนซีเนเพล็กซ์ โรงประจำตัวที่เดิม โรง 4 โรงใหญ่ สยามภาวลัย ที่ผมชอบซื้อบัตร 140 แถวไกลจอสุดไปนั่งดูกับหมูน้อย…
หลังจากบิวต์ตัวเองและคนอื่นๆ จนขนาดตัวเองยังอดใจรอดูไม่ไหว เห็นเขาได้ไปดูหนังเรื่องนี้กันวันรอบพิเศษ ก็ให้อิจฉา แต่จะไปดูวันแรกที่หนังเข้าก็ไม่ไหว ภารกิจที่มีไม่เปิดโอกาสให้ไปดูในวันธรรมดาได้ จำต้องรอจนวันเสาร์ แล้วก็ถึงเวลานั้น ที่เราจะไปขึ้นรถไฟฟ้าในโรงหนังกัน
จองตั๋วหนังจากเว็บ ก่อนจะไปรับตั๋วที่โรง ทุกขั้นตอนดูเหมือนจะไม่มีปัญหา แต่กลับมาเจอเมื่อเดินไปยังที่นั่งในโรงและพบว่า มีคนนั่งอยู่ในที่นั่งของเรา ในที่สุดพนักงานต้องเข้ามาดู ปรากฏว่า ลูกค้าสามกลุ่มที่ได้ที่นั่งทับซ้อนกัน
ปัญหานี้ คงไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ นัก มักจะเกิดกับหนังที่มีกระแสคนแห่มาดูกันสุดสุด คิวจองจากเน็ต คิวจากหน้าโรงหนัง ตีพันกันมั่วกับคิวจองทางโทรศัพท์ กลายเป็นว่า พนักงานย้ายพวกผมสองกลุ่มจากที่ต้องนั่งแถว O ไปนั่งแถว C ที่บุ๊คเอาไว้ให้ โชคดีจัง ได้ดูบัตรแพงซะงั้นเรา จ่าย 140 ดูที่นั่ง 220 คุ้มสุดสุด!
แม้จะพลาดชมตัวอย่างหนังไปหลายเรื่อง แต่ก็ยังได้ชม ‘รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ’ อย่างครบถ้วน
รีวิวหนัง ‘รถไฟฟ้ามาหานะเธอ’
เรื่องราวที่ดูจะโดนใจของสาวๆ ในเมืองใหญ่หลายๆ คน ที่ผู้ชายไม่ค่อยจะได้ตกถึงท้อง จนวัยล่วงเข้าเลข 3 ก็ยังคง “ซิงๆ” อยู่ เรื่องราวของ “เหมยลี่” (คริส หอวัง ดีเจคลื่นแฟตเรดิโอ) สาวหมวยตาชั้นเดียวที่เข้าใจผิดมาตลอดว่า การจีบผู้ชายก่อนเป็นเรื่องต้องห้าม อยู่กับ “เพื่อน” และ “เมรัย” จนไม่ได้เจอผู้ชายดีๆ ในเวลากลางวัน แต่เธอกลับได้เจอผู้ชายดีๆ ในเวลากลางคืน “ลุง” (เคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) วิศวกรรถไฟฟ้าคนนี้ เขาดูดีทั้งหน้าตาและนิสัย?จนเธออยากจะเป็น “ป้า” ของเขาสักที
เมื่อใครต่อใครรอบกายเหมยลี่ต่างก็พากันมีคู่ไปหมด ไม่ว่าจะเป็น “เป็ด” (โอปอล์) เพื่อนสนิท, เด็กในบ้าน หรือแม้กระทั่งหมาสาวของเพื่อน เธอคงคิดว่า รถไฟฟ้าขบวนสุดท้ายนี้ เธอต้องคว้าไว้ให้ได้ แม้จะไม่มีประสบการณ์จีบผู้ชายมาก่อนก็ตาม แต่มันไม่ง่าย เมื่อความอ่อนหัดของสาววัยสามสิบ ไม่อาจสู้สาวกระโปรงสั้นสุดน่ารักอย่าง “เพลิน” (แพท อังศุมาลิน) ที่ดูมีลูกล่อลูกชนดีกว่าได้
ปฏิบัติการคว้าผู้ชายกลางคืนมาเป็นเจ้าของหัวใจจึงเกิดขึ้น
หนังเล่นกับมุกตลกฮาๆ มากมายทุกฉาก จนคนดูพากันหัวเราะอย่างไม่หวาดไม่ไหว เพราะความเปิ่นๆ ฮาๆ ของเหมยลี่ บวกการตัดต่อแบบหนังการ์ตูนญี่ปุ่นที่โอเวอร์แอ็คติ้งนิดๆ มีคิดในใจให้ได้ยิน หนังของ GTH เคยส่งให้หลายคนโด่งดังไปหลายคน เรื่องนี้คงไม่พ้น ทำให้ชื่อ “คริส หอวัง” โด่งดังกว่าเดิมอีกหลายเท่า นอกจากนี้ ยังคิดถูกที่เลือก “เคน” มาแสดง เพราะเขาคือผู้ชายที่หญิงไทยหลายคนเพ้ออยู่ จึ๊ดแน่นอน เพราะพวกเธอต้องคิดว่าตัวเองกำลังเป็น “เหมยลี่” อยู่แน่ๆ
ในโอกาสที่ครบรอบ 10 ปี BTS ทาง GTH จึงปั้นเรื่องของรถไฟฟ้าของคนเมืองมาผสมกับความรักของสาวเมือง ที่นับวันยิ่งแต่งงานกันน้อยลง ไม่ก็แต่งกันในวัยที่มากขึ้นทุกที อาจด้วยเพราะผู้ชายเมืองหายากขึ้นทุกทีจนต้องแย่งกันคว้า แม้ว่าเหมยลี่จะเจอคนนั้น แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ต้องสะดุดด้วยอุปสรรคหลากรูปแบบ ที่มีพลังพอจะแยกคนสองคนให้เลิกลาจากกันได้
ทั้งเวลาเอย ระยะทางเอย ความผันแปรของจิตใจเอย ทุกอย่างคือสิ่งที่เกิดขึ้นได้จริงกับทุกคน มิน่ามันถึงโดนใจยิ่งนัก
นอกจากดาราแขกรับเชิญหลายคนที่มาช่วยสร้างความฮา (นอกจาก แจ็ค แฟนฉัน ที่เห็นกันในหนังตัวอย่างไปแล้ว) ไปดูเอาเองแล้วกันว่ามีใครบ้าง หนังมีเวลาให้เราสนุกความรักที่แสนฮาไปค่อนเรื่อง ก่อนปิดท้ายด้วยอารมณ์อีกด้านของความรัก แม้จะเตรียมใจมาแค่ไหน ผมก็ไม่วายเสียน้ำตาให้กับมัน ตั้งแต่คำพูดนั้นของเหมยลี่ มาจนถึงตอนจบ น้ำตาไม่เคยเหือดแห้งจางไป ทำให้ผมนึกถึง ‘Marley & Me” หนังหมาๆ ที่ตั้งใจเล่าเรื่องคนที่ผมเพิ่งได้ดูไป ฮาตลอดเรื่องแล้วมาร้องไห้กันตอนท้าย แต่ ‘Marley & Me’ ก็ไม่ได้ทำให้เราเศร้านานขนาดนี้
หนังจบแล้ว เพลงดังที่ถูกกรอกหูมานานก็ปิดท้าย ตอกย้ำให้น้ำตามันเอ่อออกมาอีกครั้ง อินต่อไปจนถึงตอนขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้าน
ฉากเดียวกับในหนังเลยตู -_-“
ภาพยนตร์ : Bangkok Traffic Love Story / รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ
ประเภท : Romantic, Comedy
นักแสดงนำ : เคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ , คริส หอวัง, แพท อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา
ผู้กำกับภาพยนตร์ : อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม
กำหนดฉาย : 15 ตุลาคม2552
เข้าไปดูเหอะ ฮาสเตฟานมากๆ
โอ้ววว…นี่ลุงร้องไห้ให้หนัง #bts ด้วย อิอิ
ลุงคนนี้มีคู่แล้วไม่ใช่เหรอ?
หุหุ ผู้ชายอ่อนไหว ร้องไฟขึ้นรถไฟฟ้ากลับเลยเหรอ ทำไปได้นะพี่แพท สงสัยผมคงต้องไปดูแล้วล่ะ
อยากไปดูมั่งค่ะ >_< เดี๋ยวยิ่งนานจะยิ่งถูกสปอยล์ (แล้วจะไปอ่านทำไมเนี่ย)
เมื่อวันศุกร์คลาดไปหน่อย เค้าไปดูกันล็อตนึงแล้ว เดี๋ยววันพฤหัสที่จะถึงค่อยนัดใหม่ มีกลุ่มไปดูวันแรกที่ฉายด้วย คาดการณ์ผิด นึกว่าจะไม่ว่างกัน แถมเพื่อนที่จะชวนอีกคนดันไปดูคนเดียวมาแล้วอีก เอาเ้ข้าไป คลาดกันไปมา
กลับมา comment อีกรอบ หลังจากที่ได้ไปดู ความรู้สึกส่วนตัวสำหรับหนังเรื่องนี้ เหมือนมันเคยเกิดขึ้นผมเมื่อนานมาแล้ว รู้สึกบางคำพูดมันโดน
เหตุการณ์บางอย่างมันโดน แอบผิดหวังเล็กน้อย ที่ไม่มีเพลง โปรดส่งใครมารักฉันที ประกอบแบบจริงๆจังๆ ดูตัวอย่างแล้วอินมากกว่า แต่ถึงยังไง
ผมก็ได้ความรู้สึกและคำตอบที่ว่า “คนเรามีแฟนหรือเป็นแฟนกัน ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา”
แหม..ลุงเล่าซะแสดงเองงั้นอ่ะ อิอิ:P
คุณอารยา!
คนมีคู่ไม่รู้หรอก อิอิ
เรื่องราวที่ดูจะโดนใจของสาวๆ ในเมืองใหญ่หลายๆ คน ผู้ชายไม่ค่อยจะได้ตกถึงท้อง <<
ชอบพี่เตฟานเหมือนกัน ฮ่าๆ เสียงเท่มั่กๆ 55555
ชอบคริส….น่าร้ากกกก
เห็นใครๆ ก็บอกชอบกัน ชักอยากไปดูแล้วซิ…
ผมชอบประเด็นความรักของเรื่อง ระหว่างเวลา และความผูกพันธ์ หลายๆ คนอาจจะเคยเจอเหตุการณ์อย่างพระเอก หรืออย่างนางเอก ที่สะท้อนมุมมองของความรักในเรื่องความผูกพันธ์และการมีเวลาให้กัน
ดูมาแล้วชอบสุดๆๆๆๆ ดีวีดีออกเมื่อรั่ยซื้อเก็บแน่นนอน
คำพูดที่คริสพูดประมาณว่า”ไม่มีเวลาแม้แต่จะกินข้าวด้วยกัน….”แล้วอะไรต่อคะ
ใครจำได้ช่วยบอกที ขอบคุณคะ
หนังทำออกมาได้ดีมากเลย เป็นความรักที่สามารถเกิดได้กับทุกคนที่ทำแต่งานแต่งาน และระเบียบประเพณีที่ผู้ใหญ่ได้สั่งสอนไว้ หนังเรื่องนี้ดูแล้วไม่ผิดหวัง ตลกและซึงโคตร ๆ
KiSs: “ถ้ามีแฟนแล้ว เขาไม่ว่างมากินข้าวกับเราเลย ไม่มีเวลาไปไหนมาไหนกับเรา จะมีแฟนไปทำไม?”
ขอบใจจ้าที่บอกนะ
เราไปดูมาแล้ววันเสาร์ที่17ตุลาคม2552 ตอนเที่ยงอ่ะน่ะ สนุกมาเราอยากดูอีกรอบแล้วสิเมื่อไหร่จะออกแผ่นสักทีชอบมาเลยเหมือนชีวิตเราเลยได้แต่คอยคนที่รักจิง
ไปดูมาแล้วค่า วันแรกที่เข้าฉายเลย ชอบจัง
ชอบที่มันไปไม่ทัน ไม่เหมือนในหนังรักเลย หุหุ
เคน นี่พ่อลูกอ่อนยังแรงในหัวใจสาว ๆ เหมือนเดิมโน๊ะ
โดนมากๆ เลยอ่ะ ไม่ใช่เราอยากเป็นนางเอกหรอกนะ แต่มันดันเหมือนอ่ะ ร้องไห้เลย
เป็นหนังที่โดนจริงๆ
คริสน่ารักมากมาย
อิ อิ
เป็นหนังดูได้สนุก หัวเราะอร่อย มีคำพอให้ซึ้ง แล้วก็อยากดูอีก จริงๆ
ดูแล้วเหมือนกัน ทำไมมันโดนใจจังเราก้อสาวหมวยวัยเลขสาม แล้วยังโสดพ่อก็มีกิจการเป็นของตัวเอง แต่เราไปทำนอกบ้านเหมือนเหม่ยลี่อ่ะ ออกไปผจญภัยทั้งขึ้นรถไฟฟ้า ต่อรถเมล์บางทีก็ขึ้นแท๊กซี่ บางทีก็ขึ้นเรือเร็ว แถมล่าสุด ยังไปปิ๊งกับหนุ่มหล่อทำงานอยู่บริษัทรถไฟฟ้าบีทีเอส แต่ไม่ใช่วิศวะนะ เค้าทำอยู่แอดมินค่ะ..น่าร้ากมากเลย หล่อด้วย คนนี้เค้าจองนะ อิอิ..^^(เจอะคนนี้ตอนสองทุ่ม เค้าทำงานถึงสามทุ่ม แต่ไม่ค่อยมีเวลาให้สักเท่าไหร่ ได้ดูเรื่องนี้แล้วก้อเริ่มเข้าใจว่าที่แฟนคนนี้แระ ตอนแรกก้อจะเลิกเหมือนกัน แต่เสียดายอ่ะ..)
ดูแล้ว ชอบมาก อยากให้น้องๆผู้หญิง ดูแล้วอย่าอินกับความรักของพระนางอย่างเดียว บางเรื่องควรดูแล้วเอาเป็นแบบอย่าง อย่างเช่น เหมยลี่ เป็นผู้หญิงที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของพ่อแม่ แม้ว่าแม่ของเหมยลี่ จะไม่ได้สอนว่า “ห้ามจีบผู้ชายก่อน” โดยตรง แต่ด้วยความเข้าใจผิด ก็ยังทำตามคำสั่งของแม่ อีกอย่างที่ชอบคือ จะเห็นว่า ทุกครั้งที่เหมยลี่ทำผิดกับพระเอก จะยกมือไหว้ขอโทษตลอด ซึ่งเป็นกิริยาที่น่ารัก ที่น้องๆผู้หญิงควรเอาเป็นแบบอย่าง เพราะปัจจุบันนี้ หาผู้หญิงที่มีกิริยาอ่อนหวานน่ารักๆแบบนี้น้อยเต็มที
ดูแล้วยิ้มไม่หยุดครับ หนังไม่ได้ดีเลอเลิศ แต่สร้างความสุขให้กับคนได้สักคนบนโลกก็คงพอแล้ว และหนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้สร้างความสุขให้กับได้หลายคนทีเดียว ผมเขียนความรู้สึกถึงเรื่องนี้ไว้เหมือนกัน ลองตามมาดูได้เลยครับที่ http://openaircineplex.com/?p=3
ตั้งแต่ผมดูหนังไทยมา เรื่องแรกที่ประทับใจสุดๆคือรื่อง แฟนฉัน แต่หลังจากนั้นรู้สึกว่าหนังไทยไม่มีอีกเลยที่ดูแล้วทำให้เรารู้สึกว่าเป็นหนังที่ใช่ จนเรื่องนี้แหล่ ใช่เลยอีกเรื่อง+++++ ร้อยล้านไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน รีบๆไปดูกันล่ะโดยเฉพาะ 30ยังแจ๋ว โดนใจเลยแน่คับ
ลุงน่ารักมาก
เรื่องนี้สนุกมาก ขอบอกอย่างที่ว่าพี่เคนน่ารักจิงๆ เป็นหนังอีกเรื่องที่ชอบมาก น่ารักที่สุดคิดว่าผู้หญิงทุกคนอยากเป็นเหมยลี่ ของลุงแน่นอน
เพราะเค้าก็อยากเปงเหมือนกัน
ได้ดูแค่สองรอบเอง ยังอยากดูอีกนะ ตอนที่เหมยลี่เปิดกล่องที่ลุงฝากไว้ให้ เราน้ำตาไหล ทั้งสองรอบ ถ้าได้ดูรอบทีสาม ก็ยังจะร้องอีกแน่ๆ คนที่นั่งข้างๆเขาถามเราว่าร้องไห้ทำไม ก็มันซึ้งนี่ มีใครเป็นอย่างเรามั่งมั๊ย
พี่เคนหล่อมาก
ขอให้โชคดีนะ
ขอฝากถึง…คนทำ Sub English ด้วยครับ เวลานางเอกเรียกชื่อพระเอกว่า “คุณลูง” เปลี่ยนเป็นทับศัพท์ Loong หรือ Lung เถอะครับ
ไม่ใช่ Uncle ที่แปลว่าลุง..สามีคุณป้า…แล้วชาวต่างชาติเค้าตีความหมายไปว่า นางเอกเป็นหลานของพระเอก…แล้วดันไปแอบชอบ และจีบกันในบท..เค้าคงงงกันว่า…มันไปเป็นญาติกันฝ่ายไหนครับ…ถึงได้เรียกพระเอกว่า…คุณลุงคะ..Sub : Uncle
ปล. ฝากด้วยครับ ก่อนนำแผ่น DVD Master ออกวางจำหน่าย หรือขายให้เมืองนอกที่เค้าสนใจภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ
เราชอบ ฉากที่
กับจากเล่นสงกรานต์ ที่คุณลุงพูดบอกว่า
“เดี๋ยวผมไรบคุณที่บ้าน” สุดๆๆ อะซึ้งมาก