ในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมา ดูเหมือนสหรัฐอเมริกาจะมีหนังที่กล่าวถึงวีรกรรมที่น่าเชิดชูของเหล่าทหารผู้เสียสละให้กับประเทศออกมาให้ชาวโลกได้รับชมกันอย่างต่อเนื่อง ปีนี้ก็เช่นกัน เริ่มต้นปีขึ้นมา เราได้ยินข่าวว่า ภาพยนตร์เรื่องหนึ่งมีชื่อเข้าชิงออสการ์ถึง 6 สาขาด้วยกัน เปิดตัวในตารางบ็อกซ์ออฟฟิศด้วยตัวเลขที่น่าทึ่งถึง 90 ล้านเหรียญสหรัฐ ภาพยนตร์เรื่องนั้นจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก ‘American Sniper’ หนังที่พูดถึงทหารแม่นปืนที่สังหารศัตรูไปมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ
จากข่าวใหญ่ที่เพิ่งปรากฏเป็นข่าวดังไปเมื่อไม่นานนัก กลายมาเป็นภาพยนตร์ชีวประวัติของทหารที่ดั่งฮีโร่ของคนทั้งประเทศ ที่ได้ Clint Eastwood มากำกับ โดยเรื่องราวในหนังนั้นผ่านการดัดแปลงจากหนังสือที่บอกเล่าชีวิตของทหารคนนั้นที่กลายเป็นหนังรายได้ดีมีสิทธิ์คว้ารางวัลในวันนี้
Chris Kyle (Bradley Cooper) เด็กชายที่ฝันจะโตขึ้นเป็นคาวบอย แต่กลับได้พรสวรรค์ในการยิงปืนของตนเอง และด้วยการเลี้ยงดูจากผู้เป็นพ่อที่ผลักดันเขาเลือกที่จะลุกขึ้นมารับใช้ชาติ แม้อายุจะล่วงเลยไปพอสมควรแล้ว โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ครั้งนั้น คือตัวจุดชนวนให้เขาเลือกเดินหาทางสายทหาร เขาเข้าฝึกหน่วยรบซีลก่อนจะต่อที่การฝึกแม่นปืน เดินตามพรสวรรค์ที่มีมาแต่ต้น
เพื่อการเป็น “อเมริกัน สไนเปอร์”
รีวิวหนัง ‘American Sniper’
หนังเรื่องนี้ ไม่ได้กล่าวถึงแค่ชีวิตในสนามรบที่อิรัก ภารกิจที่เขามุ่งมั่น หากแต่ยังเล่าสลับกับชีวิตรักและครอบครัวที่ดูเหมือนจะไปได้ดีแค่ช่วงต้น แต่มันกำลังล้มเหลวในช่วงถัดมา อารมณ์และวิธีการเล่าดูไม่ต่างอะไรกับ ‘Hurt Locker’ นัก ยิ่งเมื่อรับชมบนจอยักษ์อย่าง IMAX Paragon แล้ว ยิ่งทำให้ยิ่งดูเหมือนไปนั่งรบกันอยู่ในสถานที่จริง เมื่อใช้มุมกล้องจากที่สูงไกลๆ พอหมุนทีเหมือนตัวเราถูกโยนตามไปด้วย ขณะที่พลังเสียงกระหึ่มก็ชักพาให้การชมภาพยนตร์เรื่องดูยิ่งสมจริงมากขึ้นไปอีก
ในด้านงานภาพ ไม่ถือหนังเรื่องนี้โดดเด่นอะไรมากนัก เพียงทำหน้าที่บอกเล่าเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่ได้ชวนให้รู้สึกอะไรไปมากกว่านั้น
แม้ว่าเราจะได้เห็นแง่มุมที่น่าเจ็บปวดของสงครามที่ส่งผ่านมาทางตัวพระเอกอยู่บ้าง แต่เราก็ไม่พบว่า หนังจะใส่ใจความถูกผิดและความโหดร้ายของสงครามอย่างโจ่งแจ้งนัก มีเพียงแค่การที่คริสเองซึ่งอาจจะเจ็บปวดกับการต้องฆ่าเด็กและผู้หญิง ต้องทนเห็นเพื่อนๆ จากไปเพราะสงคราม แต่ก็ไม่ได้ชี้ให้เห็นมูลเหตุและเบื้องหลังของเรื่องราวที่แท้จริงในสงครามอิรักครั้งนั้น คงเพียงมุ่งจะเชิดชูวีรบุรุษและปลุกพลังความรักชาติให้เกิดขึ้นบนแผ่นดินอเมริกา
คงต้องบอกว่า ‘อเมริกัน สไนเปอร์’ เป็นหนังที่มีฉากรบที่ดุเดือดเข้าถึงอารมณ์ที่คุกรุ่นในใจคนดูได้ดี แม้จะรู้สึกตะขิดตะขวงใจอยู่บ้างที่ต้องดูภาพเคลื่อนไหวของสงครามที่มนุษย์เข่นฆ่ากันเองโดยไม่ต้องสนในศีลธรรมคุณธรรม แต่ก็คงต้องบอกเช่นเดียวกันว่า หนังเรื่องนี้ของปู่คลินต์ทำได้ดีในแง่ของหนังชีวประวัติ หากในแง่ของดราม่าแล้ว หนังไม่ชวนให้รู้สึกอินกับสภาพครอบครัวของสไนเปอร์สักเท่าใด ที่ต้องยอมรับเลย ก็คือการตัดจบแบบนี้เพราะมันได้ผล
ไม่ว่าคุณจะรู้เรื่องราวนี้มาก่อนหรือไม่ การจบแบบนี้มันสะเทือนใจได้ผลจริงๆ
ชื่อภาพยนตร์: American Sniper / อเมริกัน สไนเปอร์
ผู้กำกับภาพยนตร์: Clint Eastwood
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Jason Hall, Chris Kyle (book), Scott McEwen (book), James Defelice (book) (as Jim DeFelice)
นักแสดงนำ: Bradley Cooper, Kyle Gallner, Sienna Miller, Jake McDorman, Luke Grimes
แนว/ประเภท: Action | Biography | Drama | War
ความยาว: 132 นาที
เรท: ไทย/ , MPAA/R
สัดส่วนภาพ: 2.35 : 1
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 22 มกราคม 2558
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย/สตูดิโอ: Warner Bros., Village Roadshow Pictures, Mad Chance Productions
อเมริกัน สไนเปอร์
American Sniper - 7
7
American Sniper
เป็นหนังที่มีฉากรบที่ดุเดือดเข้าถึงอารมณ์ที่คุกรุ่นในใจคนดูได้ดี แม้จะรู้สึกตะขิดตะขวงใจอยู่บ้างที่ต้องดูภาพเคลื่อนไหวของสงครามที่มนุษย์เข่นฆ่ากันเองโดยไม่ต้องสนในศีลธรรมคุณธรรม แต่ก็คงต้องบอกเช่นเดียวกันว่า หนังเรื่องนี้ของปู่คลินต์ทำได้ดีในแง่ของหนังชีวประวัติ หากในแง่ของดราม่าแล้ว หนังไม่ชวนให้รู้สึกอินกับสภาพครอบครัวของสไนเปอร์สักเท่าใด ที่ต้องยอมรับเลย ก็คือการตัดจบแบบนี้เพราะมันได้ผล
2 คอมเมนต์