แล้วสัปดาห์นี้ก็ได้ไปดูหนังที่รอคอยอีกจนได้ แม้จะต้องรอจนยามเย็นคล้อยของวันอาทิตย์เลยก็ตาม ‘Always Sunset On The Third Street 3’ หนังญี่ปุ่นภาคต่อของ 2 ภาคที่เคยสร้างความประทับใจให้ใครหลายๆ คนมาแล้วนั่นไง
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี 1964 ช่วงที่ญี่ปุ่นฟื้นตัวจากภาวะสงคราม และกำลังเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ถนนหมายเลข 3 กลายเป็นย่านการค้าที่แววสดใส 2 ครอบครัวที่เป็นหัวใจหลักของหนังทั้ง 2 ภาคก่อน ก็กำลังมาถึงช่วงเวลาสำคัญอีกครั้งในภาคนี้
เวลาผ่านมา 5 ปีนับจากภาคที่แล้ว สาวน้อย โรขุซัง (มากิ โฮริคิตะ) เติบโตเป็นสาวเต็มตัว เธอยังคงขันแข็งในหน้าที่ลูกจ้างของซูซุกิออโต้ ร้านซ่อมรถยนต์ของ 2 สามีภรรยาที่รักเธอดั่งลูกสาวคนโต เธอกำลังมีความรักกับคุณหมอคิคูจิ ความผูกพันกันดั่งครอบครัวอาจยากเกินทำใจเมื่อความเปลี่ยนแปลงกำลังเยื้องย่างมาถึงหน้าบ้าน
บ้านตรงข้ามกันนั้น ริวโนะสุเกะ (ฮิเดทากะ โยชิโอกะ) หนุ่มนักเขียนก็กำลังเข้าสู่ช่วงวิกฤตของชีวิตนักเขียน เมื่อเจ้าของหนังสือที่เขาเขียนเรื่องส่งประจำกำลังจะตัดเรื่องเขาออกไป เพื่อเปิดทางให้นักเขียนคลื่นลูกใหม่ที่มาแรงกว่า ขณะที่ลูกน้อยของเขาที่อยู่ในท้องของฮิโรมิ (โคยูกิ) ภรรยาก็รอวันคลอดออกมาเต็มที แม้ว่าเขาจะไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพและความฝัน แต่ภรรยาของเขาคือคนที่ค้ำจุนชีวิตของเขาเสมอมา
ที่สำคัญก็คือ จุนโนะสุเกะ (เคนตะ ซึกะ) เด็กชายที่ริวจังรับเลี้ยงก็เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความหวังที่จะให้เข้ามหาวิทยาลัยมีชื่อ แต่ระหว่างทาง เขาก็ได้พบว่าตัวเองก็ชอบในการเขียนนิยายเหมือนน้าของตน จนต้องขัดแย้งกับผู้น้าที่ไม่ยอมให้เขาเขียนมันเพราะไม่อยากให้ผู้หลานต้องเจอความยากลำบากเช่นตน
ถ้าถามว่า ไม่เคยดูภาคก่อนๆ มาเลยจะรู้เรื่องไหม? ผมว่ารู้เรื่องนะครับ แต่อาจจะไม่อินมากพอเพราะไม่ได้รับรู้ต้นตอของความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละตัวเท่านั้นเอง
ความขัดแย้งบางอย่างก็อาจมีที่มาที่ไป แต่เราอาจจะไม่เคยรับรู้หรือเคยคิดถึงมันมาก่อน จนถึงเวลาหนึ่งที่ทุกอย่างได้เวลาเฉลย แต่ก็อีกเช่นกัน เวลาของการเฉลยมักมาช้าไปเสมอๆ เพียงแต่หลังจากเราได้รับบทเรียนบางอย่าง ก็อาจจะทำให้เราคิดได้และนำมันมาช่วยตัดสินใจเลือกทำบางสิ่งในเวลาหลังจากนั้นได้
ในช่วงชีวิตหนึ่งของเรา เรามักมีคำถามอยู่หลายคำถามที่ผ่านเข้ามาให้ขบคิด และหลายคำถามอาจได้รับคำตอบหลังตามหามาสักระยะ แต่บางคำถามก็อาจไม่เคยได้รับคำตอบ ดูหนังแล้วเราอาจนั่งหาคำตอบของคำถามที่ปรากฏอยู่ในหนัง “ความสุขที่แท้จริงคืออะไร?” อยู่ก็ได้ เราอาจเชื่อคำตอบใครสักคนในนั้น แต่ที่แน่ๆ หนังเรื่องนี้เน้นเรื่องความสุขเสียเหลือเกิน
ทุกชีวิตในนั้นเติบโตไปพร้อมกับคำว่า “ความหวัง” ที่เป็นดั่งแสงอาทิตย์ที่แม้จะตกไป แต่มันก็ขึ้นมาใหม่อยู่เสมอ
การดำเนินที่สานต่อมาจาก 2 ภาคแรก แถมยังดำเนินไปด้วยรูปแบบที่ไม่แตกต่างกัน การแสดงที่โอเวอร์แอ็คติ้งสไตล์การ์ตูน บทพูดที่เต็มไปด้วยความเฉียบคม ผนวกกับลีลาการแสดงที่เรียกเร้าอารมณ์ร่วมของคนดู ทำให้เราได้ทั้งยิ้มอิ่มเอม หัวเราะ และซึ้งจนน้ำตาไหลหลายหนในหนังเรื่องเดียว นี่คือหนัง Feel Good อย่างแท้จริงสำหรับผม
‘Always 3’ หนังภาคที่ทำให้น้ำตาอาบแก้มได้มากกว่าภาค 2 แต่น้อยกว่าภาคแรกนิดนึง เรียกได้ว่า กลับมาอย่างน่าประทับใจ ไม่ว่าจะมันจะมีภาคต่ออีกหรือไม่ก็ตาม
ดูหนังจบแล้ว ก็น่าจะได้คำตอบกันไปในใจกันแล้วล่ะว่า ความสุขที่แท้จริงคืออะไร?
ชื่อภาพยนตร์: Always Sunset On The Third Street 3 / ถนนสายนี้ หัวใจไม่เคยลืม ภาค 3 / ALWAYS 三丁目の夕日’64
ผู้กำกับภาพยนตร์: Takashi Yamazaki
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Takashi Yamazaki
อำนวยการสร้างภาพยนตร์: ชูจิ อาเบะ
นักแสดง: ฮิเดทากะ โยชิโอกะ, โคยูกิ, เคนตะ ซึกะ, ชินอิจิ สึสึมิ
แนว/ประเภท: Romantic, Drama
เรท: ไทย/ส
ความยาว: 142 นาที
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Toho Scope
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 19 เมษายน 2555