
สำหรับผู้ขอสินเชื่อทุกคน นอกจากจะต้องเตรียมตัวในด้านคุณสมบัติของตนเอง และเอกสารประกอบการสมัครที่มีคุณภาพ น่าเชื่อถือ เพื่อให้ทางธนาคารหรือสถาบันการเงินอนุมัติวงเงินให้แล้ว “อัตราดอกเบี้ยเงินกู้” ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลขที่ควรทำความรู้จักเอาไว้ จะได้ทราบว่า เราจะถูกคิดดอกเบี้ยในอัตราไหน ตรงตามคุณสมบัติของเราหรือเปล่า จะได้ใช้ประกอบการตัดสินใจว่า จะขอสินเชื่อกับทางสถาบันนั้นๆ ดีหรือไม่
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต้องรู้อะไรในเบื้องต้นบ้าง
ในการกู้เงินหรือที่เรียกว่าขอสินเชื่อนั้น เมื่อเราได้เงินมาใช้ล่วงหน้าแล้ว ก็จำเป็นต้องจ่ายดอกเบี้ยสำหรับเงินที่กู้มา โดยดอกเบี้ยจะคิดเป็นรายปี ตามอัตราร้อยละที่สถาบันแต่ละแห่งได้กำหนดไว้ ซึ่งต้องเป็นไปตามประกาศหรือระเบียบของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยในปัจจุบันกำหนดไว้ที่อัตราไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี นั่นหมายความว่า หากกู้เงินมาจำนวน 100 บาท ในระยะเวลา 1 ปีนั้น จำนวนเงินที่ต้องใช้คืนพร้อมดอกเบี้ยจะประกอบด้วยเงินต้น 100 บาท รวมกับดอกเบี้ยอีกไม่เกิน 15 บาท
ดอกเบี้ยเงินกู้มีทั้งหมดกี่ประเภท?
โดยทั่วไปแล้ว อัตราดอกเบี้ยเงินกู้มีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท แบ่งตามลักษณะการจ่ายดอกเบี้ย ดังนี้
- อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ หรือ Fixed Rate เป็นการคิดดอกเบี้ยที่ผู้กู้จะต้องจ่ายในอัตราที่ตายตัว เท่าเดิมไปจนกว่าจะหมดสัญญา ไม่ว่าจำนวนเงินต้นจะลดลงเท่าไหร่ก็ตาม
- อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว หรือ Floating Rate เป็นอัตราดอกเบี้ยแบบที่ปรับเปลี่ยนไปตามที่ผู้ให้กู้กำหนด โดยอาจขึ้นอยู่กับผลกำไรหรือต้นทุนที่เปลี่ยนไปของทางสถาบันนั้นๆ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยนี้จะมีประกาศออกมาเป็นระยะๆ ใครที่สนใจจะกู้เงิน และเข้าเกณฑ์การคิดดอกเบี้ยประเภทนี้ อย่าลืมอัปเดตข้อมูลอัตราดอกเบี้ยให้เป็นปัจจุบัน
สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ธนาคารจะเรียกเก็บจากเรา ซึ่งเป็นดอกเบี้ยแบบลอยตัวนั้น โดยทั่วไป ธนาคารจะเรียกเก็บกันอยู่ 3 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่
- Minimum Retail Rate เป็นอัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บกับลูกค้ารายย่อยที่มีประวัติการชำระเงินที่ดี แต่ยังมีความเสี่ยงจากการกู้ในวงเงินจำนวนมาก เช่น เรียกเก็บในสินเชื่อสำหรับซื้อที่อยู่อาศัย
- Minimum Loan Rates จะเรียกเก็บลูกค้ารายใหญ่ที่มีทั้งความมั่นคงและประวัติทางการเงินดี พร้อมกับหลักประกันที่มากเพียงพอ มักเป็นสินเชื่อเพื่อการประกอบธุรกิจ
- Minimum Overdraft Rate ดอกเบี้ยแบบนี้มักเรียกเก็บกับลูกค้ารายใหญ่ที่มีประวัติดีเช่นกัน แต่ขอกู้เงินเกินวงเงิน ซึ่งอาจได้รับอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น เพราะมีความเสี่ยงมากขึ้น
ทั้งหมดนี้ก็คือข้อมูลคร่าวๆ ที่ผู้ต้องการขอสินเชื่อควรรู้ไว้ เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งมีอัตราที่แตกต่างกันไป ทั้งตามเงื่อนไขของธนาคาร และตามคุณสมบัติของบุคคล ควรศึกษาอัตราดังกล่าวให้ดีและเป็นปัจจุบันที่สุดจากเว็บไซต์ของธนาคารก่อนการตัดสินใจขอสินเชื่อ