จิปาถะ

สิ่งสำคัญต้องรู้ หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มต้องดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง?

อะไรบ้างที่เราควรจะต้องปฏิบัติหรือหลีกเลี่ยง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ที่ดีที่สุด และอยู่กับเราได้นานที่สุด

การฉีดฟิลเลอร์ไม่ว่าจะเป็นการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม หน้าผาก หรือใต้ตาก็ตาม เป็นการฉีดสารสกัดจากธรรมชาติเพื่อเติมร่องลึก ริ้วรอยบนใบหน้าให้ตื้นขึ้นและนูนขึ้นกว่าเดิม รวมไปถึงช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมากระชับมากยิ่งขึ้น ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มหรือบริเวณอื่นๆ นั้น เราจะสามารถเห็นผลลัพธ์หลังจากการฉีดไปแล้วประมาณ 4 – 5 วัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์หลังจากการฉีดที่ดีที่สุด และอยู่กับเราได้นานที่สุด เราควรที่จะต้องดูแลตัวเองให้ดีหลังจากฉีดฟิลเลอร์เสร็จ วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่าเรามีอะไรบ้างที่เราควรจะต้องปฏิบัติหรือหลีกเลี่ยง เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์ของเรานั้นเห็นผลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์

หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม หน้าผาก ริมฝีปาก หรือแม้กระทั่งใต้ตา ศัลยแพทย์จะห้ามไม่ให้ไปนวด กด หรือสัมผัสแรงๆ ในบริเวณที่มีการฉีดฟิลเลอร เนื่องจากตัวฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปนั้นยังไม่เซตตัว ทำให้การสัมผัสอาจจะทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้ และทำให้ไม่ได้ผลเลย แล้วถ้าเกิดใครมีอาการคันหรือระคายเคือง ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อความปลอดภัย แต่ไม่ควรเกา เพราะการเกาอาจจะทำให้ผิวบริเวณนั้นเกิดการอักเสบได้

หลีกเลี่ยงการโดนความร้อน

ความร้อนจะส่งผลต่อการเซตตัวของฟิลเลอร์ เพราะว่าหลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์ไป ผิวหน้าของเราจะมีความอ่อนแอมากกว่าปกติ เนื่องจากมีรอยเข็มบนผิวหน้าหลังจากการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มการที่เราไปโดนความร้อนนั้นก็อาจจะทำให้ผิวหน้าเกิดรอยแดง มีความระคายเคือง และทำให้ผื่นขึ้นได้อีกด้วย ดังนั้น แพทย์จึงไม่แนะนำให้ผู้เข้าฉีดฟิลเลอร์โดนความร้อนที่มีอุณหภูมิสูงหลังจากฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 48 ชั่วโมง

ดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ

ฟิลเลอร์มีความสามารถในการอุ้มน้ำได้อย่างดี แพทย์จึงแนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน ในช่วงหลังจากฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มประมาณ 4 – 5 วันแรก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อีกทั้งการดื่มน้ำเปล่ามากๆ นั้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ให้ดูเต็มตื้นและเป็นธรรมชาติมากขึ้น

หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเสริมบางชนิด

เนื่องจากอาการเสริมบางชนิดจะทำให้ผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์มีความเสี่ยงในการเป็นภาวะช้ำง่าย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินและอาหารเสริมจำพวกกิงโกะ น้ำมันพริมโรส โสม วิตามินอี นอกจากนี้แล้ว ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนประกอบของ AHA BHA หรือเรตินอล เป็นต้น ก็จะทำให้เกิดความระคายเคืองกับผิวและบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มได้อีกด้วย

Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save

Adblock Detected

เนื่องจากบล็อกนี้อยู่ได้ด้วยความเอื้อเฟื้อผู้เยี่ยมชม รบกวนไม่ใช้ Ad Blocker เพื่อการเยี่ยมชมที่สมูธครับ