เช้าวันใหม่มาถึงแล้ว วันนี้ จะเป็นวันสุดท้ายของวันหยุดวันเที่ยวของผมและเพื่อนๆ อีกหลายคน เริ่มเป็นห่วงว่าเวลาแห่งความสุข และการพักผ่อนกำลังหดตัวเล็กลงทุกที ไม่นาน เราต้องกลับไปสู่ชีวิตจริงอีกครั้งแล้วสินะ
13 ธ.ค. 52 เวลา 06.30 น.
เช้านี้ ตื่นมาบนบ้านแพเล็กๆ ที่ลอยบนผิวน้ำ ก็ออกมาถ่ายรูปเล่นกันสักหน่อย เช้าที่เงียบสงบ น้ำมีคลื่นเล็กน้อยแต่พองาม แสงอาทิตย์สีเหลืองทองยังไม่มาถึง บรรยากาศช่างดีอะไรเช่นนี้
พี่ถิตย์เริ่มลากจูงเรือคายัคมาทีละลำ จากที่ไม่แน่ใจว่าจะลองพายดีหรือไม่ แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจ …
เอาล่ะ ขอลองดูสักหน่อย เคยแต่ช่วยป้าพายเรือในแม่น้ำ พายเองละวนตลอด ในที่สุด ก็เดินไปเปลี่ยนกางเกงที่เปียกน้ำได้ ใส่เสื้อชูชีพแล้วลงเรือ เที่ยวแรกมีปุ๊กร่วมโดยสาร พายไปมารอบหนึ่ง รอบถัดมา ไม่มีใครมานั่งแล้ว แต่ยังอยากพายต่อ มันดี แม้จะไม่ค่อยมีแรงพายเท่าไหร่
ไม่มีรูปตัวเองหรอก พายอยู่จะถ่ายยังไง…
แสงอาทิตย์เริ่มสาดส่องแล้ว อากาศเริ่มร้อนขึ้น ชักรู้สึกว่า วันนี้ ผมคงต้องตัวดำแน่ๆ จัดการพายคนเดียววนไปมาอยู่ 2 รอบ สนุกดี ก่อนจะขึ้นดีกว่า ก่อนจะดำไปกว่านี้ UV ก็ไม่ทา (ช่วยไม่ได้นิ ไม่มีคนทาให้เหมือนบางคน ชิชิ)
ขึ้นจากเรือ ก็มาเก็บสัมภาระเข้ากระเป๋า แล้วลงเรือลำเดิมไปส่องสัตว์กัน
การส่องสัตว์ที่นี่ไม่ต้องใช้เวลากลางคืน ไม่ต้องยิงไฟสปอตไลต์ เพียงแล่นเรือไปจอดที่ริมฝั่งสักจุดหนึ่ง แล้วลอยลำอยู่อย่างนั้นเงียบก็คงเพียงพอแล้ว ต้นไม้ใหญ่ๆ เป็นแหล่งอาหารชั้นดี ที่ทำให้สัตว์หลายชนิดมารวมตัวกันในจุดเดียว สภาพป่าที่สมบูรณ์ทำให้วันนี้ สมาชิกของทริปได้พบกับนกเงือก 7-8 ตัว โดยไม่ต้องตระเวนหาเหมือนป่าบางแห่ง และยังพรั่งพร้อมด้วยบรรดาค่างแว่น และลิงที่คอยมาแย่งพื้นที่หาอาหารกันเองอีกต่างหาก
13 ธ.ค. 52 เวลา 08.04 น.
เรือนำเรากลับมาถึงแพเชี่ยวหลานรีสอร์ตอีกครั้ง ได้เวลาหม่ำกันแล้ว มื้อแรกของวันแต่เป็นมื้อสุดท้ายบนแพของเราเป็นข้าวต้ม ที่เติมได้ไม่อั้น แต่เอาเข้าจริงเติมได้ไม่เท่าไหร่ก็อิ่มเสียแล้ว
หลังจากอิ่มข้าวต้ม ก็ได้เวลาของการเตรียมตัวกลับอย่างแท้จริง อาบน้ำหนสุดท้าย แต่งตัวและเก็บกระเป๋ามากองรวมกันไว้ สิบโมงเช้า คือ เวลาที่เรือถอยห่างออกจากแพ และแล่นผ่านทัศนียภาพเดียวกับตอนที่เรามา กลับมาที่ท่าเรือใกล้กับสันเขื่อนรัชชประภา
พวกเรากลับมาเจอกับพี่เวียงคนขับรถตู้อีกครั้ง พี่เขาพาเรากลับมาที่จุดพักรถ
ถ่ายรูปกันเล็กน้อยก่อนจะเดินทางกันต่อ จุดสุดท้ายที่พันธมิตรทั้ง 11 จะอยู่ด้วยกัน ร้านอาหารมีชื่อ “ลำพู 2” ลิ้มรสกั้งผัดพริกไทยดำเป็นครั้งแรก ก่อนจะได้เวลาของการลาจาก หน่อง หลิน และน้องโอ๋ จะแยกตัวไปเที่ยวกันต่อที่กระบี่ (น่าอิจฉา) ส่วนพวกเราที่เหลือก็ขึ้นรถตู้กลับสู่กรุงเทพฯ เกือบเที่ยงคืน ง่วงงุนได้ที่ แต่สมาชิกทุกคนต้องแบกสังขารกลับมาบ้านให้ได้
หลับเป็นตาย…จนเช้า