Twitter | 140 ตัวอักษรสร้างโลกสังคมออนไลน์

ในช่วงนี้ เหตุการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้นและเป็นอยู่ในกรุงเทพฯ และตามต่างจังหวัด สร้างความเศร้าให้เกาะกุมหัวใจคนไทยเกือบทั้งประเทศมากมาย ภาพความเสียหายของบ้านเมืองที่ต้องใช้เวลาในการเยียวยา น้ำตาซึมครับ แต่ผมไม่อยากเอามาเขียนถึง อีกอย่างหนึ่ง ผมไม่มีอารมณ์จะเขียนเลย ทำให้บล็อกนี้เงียบหาย ไม่มีอะไรอัพเดตให้อ่านกัน

แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมยังมีอะไรให้ทำอยู่ ก็คือ สังคมออนไลน์ครับ ทั้ง Twitter และ Facebook ทำให้ผมรู้สึกว่า ยังมีเพื่อน มีคนให้พูดคุยและระบาย ทำให้ผมรู้สึกว่า Twitter ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับชีวิตของเรา หลายคนรู้จักมันมานาน (อาจจะนานกว่าผมด้วยซ้ำ) บางคนอาจเพิ่งรู้จักมันเมื่อสื่อนำมาเอ่ยถึงในวันที่มันถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง แต่ทุกวันนี้ เหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้น ทำให้หลายคนเห็นชัดแล้ว ว่า การใช้ Twitter ทำให้อัพเดตข่าวสารได้เร็วที่สุด เร็วกว่าทุกๆ ช่องทาง หลายคนจึงเริ่มเข้ามาใช้งาน แต่หลายคนอาจจะยังใช้ไม่ค่อยเป็น

ผมเลยอยากลองเขียนดูครับ เรามาเริ่มกันดูดีกว่า..

Twitter คืออะไร?

ผมว่า หลายคนคงรู้จัก บล็อก (blog) ซึ่งก็คือพื้นที่สำหรับเขียนข้อความ เรื่องราว ที่เปิดให้ผู้อื่นเข้ามาอ่าน และคอมเมนต์ได้ ซึ่งจะเขียนสั้นยาวเท่าไหร่ก็ได้ และมักเป็นสิทธิ์ของเจ้าของบล็อกที่สามารถเลือกเก็บหรือลบคอมเมนต์เหล่านั้นได้ แต่ก็มีคนคิดรูปแบบใหม่ของการเขียนบล็อกขึ้นมา นั่นคือ ไมโครบล็อก (micro blog) ที่เปิดให้แต่ละคน พิมพ์ข้อความได้ครั้งละไม่เกิน 140 ตัวอักษรในแต่ละครั้ง เพื่อบอกเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาให้คนอื่นได้รับรู้

ข้อความของเรา สามารถอ่านได้แม้เป็นบุคคลทั่วไป แต่คุณสามารถที่เลือกติดตามอ่านข้อความของคนอื่นๆ ได้ ด้วยการคลิก follow คนๆ นั้น เราก็จะกลายเป็น follower ของคนๆ นั้นทันที เช่นเดียวกัน คนอืนๆ ก็สามารถจะติดตามอ่านข้อความของเราได้ ก็ด้วยการเป็น follower ของเรา แอคเคาท์ของเราสามารถล็อกให้เป็นแบบส่วนตัว (private) ได้ ซึ่งหมายความว่า คนทั่วไปจะอ่านไม่ได้ ต้องรอคุณอนุญาตเสียก่อนนั่นเอง

following = คนที่เรา follow เขาอยู่
follower = คนที่ follow เรา

การใช้งาน Twitter เบื้องต้น

เริ่มต้น คงต้องไปสมัครเปิดการใช้งานสมาชิก Twitter กันก่อนที่ https://twitter.com/ จุดที่สำคัญก็คือ ช่อง Username ที่คุณต้องเลือกว่าจะใช้ชื่ออะไร ชื่อนี้ เป็นเหมือนตัวแทนของคุณในโลกทวิตเตอร์เลยทีเดียว เช่น ผมเลือกใช้ชื่อ patsonic ก็หมายความว่า

twitter.com/patsonic คือ URL ที่คนจะเข้าไปอ่านข้อความของผมได้ @patsonic คือ ชื่อที่แทนตัวผมในโลกของทวิตเตอร์

หลังจากล็อกอิน คุณสามารถโพสต์ข้อความของตัวเองได้ ซึ่งจะเรียกว่า การทวีต (tweet) นั่นเอง

1 : Background ภาพพื้นหลังที่แสดงถึงตัวตนของคุณ แก้ไขด้วยการไปที่เมนู Settings แล้วเลือกเมนูย่อย Design เลือกภาพพื้นหลังที่มีไว้ให้ หรือทำเองแล้วอัพโหลดขึ้นไปก็ได้

2 : Tweet พื้นที่ที่คุณสามารถโพสต์ (หรือที่เรียกว่า ทวีต) ข้อความที่ต้องการขึ้นไป ครั้งหนึ่งพิมพ์ได้ไม่เกิน 140 ตัวอักษร มีตัวนับจำนวนตัวอักษรที่ยังพิมพ์ได้ให้ด้วย

3 : New tweets ข้อความทวีตที่เข้ามาใหม่ บอกจำนวนให้ด้วย คลิกเพื่อดูข้อความเหล่านั้น โดยไม่ต้อง Refresh

4 : Avatar/Following/Followers/Listed ส่วนนี้จะแสดงอวาตาร์ หรือ รูปแสดงตัวตนของคุณ ชื่อทวิตเตอร์ พร้อมจำนวนทวีตทั้งหมดของคุณ ถัดจากนั้น เป็นจำนวนผู้ที่คุณติดตาม (following), ผู้ติดตามคุณ (followers) และ จำนวนลิสต์ที่มีทวิตเตอร์คุณอยู่ (listed)

5 : Home/Mentions/DM/Favourites/Retweets

• Home ก็คือหน้า Timeline ที่จะแสดงทวีตของทุกคนที่คุณ follow อยู่
• Mentions จะขึ้นเป็นชื่อทวีตของคุณ เช่น @patsonic หมายถึง หน้า Timeline ที่จะแสดงทวีตที่ระบุชื่อทวิตเตอร์ของคุณ หรือ mention คุณนั่นเอง
• DM หรือ Direct Messages ข้อความที่คุยกันแบบส่วนตัว มีคุณเท่านั้นที่เห็น ใช้คุยในเรื่องที่ไม่ต้องการให้คนอื่นรับรู้ แต่มีข้อจำกัดว่า ส่งให้ได้เฉพาะคนที่ follow คุณอยู่เท่านั้น
• Favourites ข้อความทวีตที่คุณชอบ อยากเก็บไว้อ่านภายหลังหรืออะไรก็ตามแต่
• Retweets ข้อความที่คุณ retweets คนอื่น หรือข้อความที่คนอื่น retweets คุณ อันนี้ จะขอขยายความต่อด้านล่างครับ

6 : Lists ลิสต์ คือ กลุ่มของชาวทวิตเตอร์ที่คุณสามารถจัดการได้เอง จะว่าง่ายๆ ก็คือ group ของเพื่อนกลุ่มต่างๆ ที่เราจัดไว้ เพื่อให้เข้ามาอ่านเฉพาะกลุ่มได้นั่นแล

7 : Trending Topics คำ หรือ กลุ่มคำ ที่มีการทวีตถึงเป็นจำนวนมากในช่วงนั้นๆ แยกเป็นเมืองหรือประเทศได้ด้วย ณ วันที่เขียนนี้ ยังไม่มีประเทศไทย

8 : Timeline ข้อความทวีตของแต่ละคนที่เรา follow อยู่ บางคนใช้ตัวย่อเป็น TL

9 : Menu เมนูการใช้งานทวิตเตอร์ ลองเข้าไปดูแต่ละเมนู แล้วลองใช้งานดูสิครับ

Reply โต้ตอบกันได้ในโลกทวิตเตอร์

ทุกวันนี้ Twitter กลายเป็นห้องแช็ทแบบเห็นกันหมดทั้ง timeline ไปแล้ว คุณสามารถตอบทวีตใดก็ได้ ด้วยการคลิกที่ “Reply” ของทวีตนั้นๆ

การสนทนาบนโลกนี้ ควรใช้วิธีนี้ เพราะจะทำให้ชาวบ้านเข้าใจว่า คุณคุยอะไรกันได้ง่ายๆ

Retweet และ Retweet for Reply

หลังจากมีการใช้งานทวิตเตอร์ สังคมนี้ก็เริ่มมีรูปแบบการใช้งานที่เรียกว่า รีทวีต (Retweet) เกิดขึ้น หลังจากมีคนทวีตข้อความดีๆ โดนใจขึ้นไป คนที่ follow อยู่พบเห็น และอยากเผยแพร่ต่อให้คนที่เป็น followers จึงทวีตข้อความนั้นอีกครั้ง โดยให้เครดิตแก่เจ้าของทวีตดั้งเดิม ในรูปแบบทำมือ นี่คือตัวอย่าง

การรีทวีต อาจเกิดขึ้นซ้ำหลายๆ ครั้ง จนบางที ข้อความมันอาจจะเกิน 140 ตัวอักษร การตัดข้อความบางส่วนสามารถทำได้ แต่ต้องไม่ลดทอนหรือเปลี่ยนแปลงความหมายดั้งเดิม ถ้าจะตัดก็ควรตัดคนรีทวีตคนถัดๆ มาเท่านั้น แต่ให้คงชื่อเจ้าของต้นตอข้อความเอาไว้

นอกจาก รีทวีต จะถูกใช้ในการทวีตซ้ำแล้ว มันยังถูกใช้ในการตอบอีกด้วย โดยคุณสามารถเพิ่มเครื่องหมายบางอย่างเพื่อแบ่งแยกให้เข้าใจง่าย และใส่ข้อความของคุณเข้าไป

การรีทวีตด้วยวิธีนี้ จะมีข้อจำกัดตรงที่ ผู้ใช้งานคนอื่นๆ จะไม่สามารถติดตามการสนทนาของเราได้ง่ายดายนัก ยิ่งรีทวีตเพื่อตอบกันหลายหน คนอ่านก็จะยิ่งมึนมากขึ้น กรุณาใช้ RT เพื่อการรีทวีตจริงๆ เท่านั้น หรือใช้ RT ในการรีทวีตเพื่อตอบให้เกิดการสนทนาให้น้อยที่สุดครับ

ฟังก์ชั่นนี้ เกิดขึ้นมาจากชาวทวิตเตอร์เองมานาน กว่าที่ทวิตเตอร์เองจะสร้างฟังก์ชั่น Retweet ขึ้นมาให้ใช้ ซึ่งก็อยู่ข้างๆ “Reply” นั่นแหละครับ แต่รูปแบบของการรีทวีตแบบนี้ จะไม่รบกวน timeline ของคุณ เพราะจะไม่ได้สร้างทวีตใหม่ให้คุณเห็น ได้แต่บอกว่า Retweeted by you เท่านั้น แต่ผู้ที่เห็นจะเป็น follower ของคุณ อีกข้อจำกัดหนึ่ง ก็คือ ถ้าเจ้าของทวีตเขาล็อกเป็น private เอาไว้ คุณจะไม่สามารถรีทวีตด้วยวิธีนี้ได้ครับ

Tweet เวลาไหนก็ได้ ที่ไหนก็ได้

การที่ Twitter ได้รับความนิยมโดยเฉพาะในกลุ่มคนไอที นั่นก็เพราะการเปิดกว้างที่ทำให้คุณสามารถเล่นทวิตเตอร์ที่ไหนก็ได้ จากหลากหลายเครื่องมือ ไม่ว่าจะเป็น

คอมพิวเตอร์

• หน้าเว็บ http://twitter.com
• ปลั๊กอินของเว็บเบราเซอร์ เช่น Echofon ที่ใช้กับ Firefox เป็นต้น
• หรือโปรแกรมต่างๆ ที่รันบนเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น Tweetdeck, Seesmic, Twirl เป็นต้น

โทรศัพท์มือถือ และ อุปกรณ์อื่นๆ

• Android Phone เช่น Twitter for Android, Twidroid, Seesmic, JibJib เป็นต้น
• iPhone เช่น TweetDeck, HootSuite เป็นต้น
• BlackBerry เช่น Official Twitter Client for BlackBerry, uBerTwitter เป็นต้น
• iPad เช่น TweetDeck เป็นต้น
• ระบบอื่นๆ เช่น JibJib เป็นต้น
• สำหรับมือถือทุกระบบ ใช้เบราเซอร์แล้วเข้าไปดู Twitter เวอร์ชั่นมือถือได้ที่ http://m.twitter.com

หลายครั้งหลายหน อาจมีคนบ่นว่า ติดตามคนเยอะๆ อ่านไม่ไหว อ่านไม่ทัน แต่ในยามบ้านเมืองประสบเคราะห์กรรม การติดตามข่าวสารผ่าน Twitter กลับทำให้รับรู้ข่าวสารได้รวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อคุณติดตามคนเยอะๆ แต่สิ่งที่ตามมาก็คือ ข่าวลือก็ย่อมมีเยอะเช่นกัน เพราะบางครั้ง เรา Retweet กันโดยไม่วิเคราะห์เสียก่อนนั่นเอง

ขอขอบคุณข้อความของหลายๆ ท่านที่ผมหยิบข้อความมาใช้ด้วยนะครับ

ปล. Twitter = ทวิตเตอร์ ไม่ใช่ ทวิสเตอร์ เขียนให้มันถูกๆ นะจ๊ะ