รู้สึกได้อย่างแจ่มชัดเลยว่า รูปแบบของการฟังเพลงของผู้คนได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วจริงๆ จากที่เราเคยเปิดฟังเพลงจากเทปคาสเส็ทสมัยเด็กๆ วันหนึ่งซีดีก็เข้ามาทดแทนจนในที่สุดเทปคาสเส็ทตายจากไป ต่อมามันก็กลายเป็นเพลงในรูปแบบไฟล์ดิจิทัล การซื้อขายเพลงออนไลน์เริ่มเกิดขึ้นมา แต่วันนี้รูปแบบการฟังเพลงของผู้คนกำลังเปลี่ยนไปอีกครั้ง การฟังเพลงแบบสตรีมมิ่งคือเทรนด์ใหม่ที่ผู้บริโภคตอบรับมันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว Spotify, Apple Music, Fungjai และ Joox คือสี่เจ้าที่ผมเลือกมาเขียนถึงในวันนี้
ผมพยายามที่จะจัดเรียงบริการฟังเพลงแบบสตรีมมิ่งตามลำดับเวลาที่ผมรู้จัก แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเรียงถูกต้องหรือเปล่า
แต่อย่างน้อยก็เป็นสี่เจ้าที่ได้ใช้งานมา
Fungjai (ฟังใจ)
เป็นบริการของคนไทยที่น่าภาคภูมิใจ เริ่มต้นมาด้วยการเป็นเว็บไซต์ฟังเพลงไทยเชิงอินดี้ และเติบโตมาเป็นผู้จัดงานอีเวนต์คอนเสิร์ตของวงดนตรีเล็กๆ มีแอปพลิเคชั่นฟังเพลงของตัวเอง แถมยังฟังได้ฟรีทุกเพลงอีกด้วย
ฟังใจ อาจจะไม่ได้มีแต่เพลงที่คุณรู้จักอยู่เต็มไปหมด แต่เป็นโอกาสที่เราจะได้เข้าไปทำความรู้จักกับศิลปินกลุ่มใหม่ๆ เพลงใหม่ๆ เพราะฉะนั้น จำนวนเพลงจึงไม่ได้สูงเท่าเจ้าอื่น เป็นแอปที่ผมอาจจะไม่ได้เปิดบ่อย แต่ไม่เคยลบไปจากเครื่องเลย ปัญหาของฟังใจก็คือ ระบบสมาชิกที่ยังเพี้ยนๆ อยู่ กับวันนี้เข้าเว็บไซต์แล้วเจอหน้าขาวๆ ซะงั้น
จุดเด่น
- เพลงไทยที่ไม่มีที่ไหนให้ฟัง
- ฟรี
- ฟังได้ทั้งบนเว็บและแอปพลิเคชัน
Joox
แอปพลิเคชั่นฟังเพลงออนไลน์ที่อยู่ภายใต้ชายคาของ Tencent จากจีน ขยับมาจาก Sanook! Music อีกที เริ่มต้นด้วยการเปิดให้ผู้ใช้งานฟังเพลงได้ฟรี แต่จะแบ่งคอนเทนต์บางส่วนเป็น VIP ซึ่งจะฟังได้ต้องจ่ายค่าสมาชิก
แต่ก็มีระบบการโปรโมตที่น่าสนใจ ตรงที่เมื่อแชร์เพลงลงในโซเชียลแล้วคุณจะได้สิทธิ VIP เดิมเคยได้ 1 วันเต็มๆ แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้นแล้วครับ
สิ่งที่ผมชอบจากแอป Joox ก็คือความรวดเร็วในการโหลดเพลงครับ ไวมากเมื่อเทียบกับ Apple Music นอกจากจะฟังได้บนแอปแล้วก็ยังสามารถคลิกไปฟังได้ที่ Sanook! Music ใครไม่อยากจะฟังโฆษณาก็สามารถจ่ายค่ายฟังเพื่อเป็น VIP ซึ่งมีทั้งรายสัปดาห์ (69 บาท) ราย 1 เดือน (129 บาท) ราย 3 เดือน (349 บาท) ราย 6 เดือน (629 บาท) และราย 12 เดือน (1,100 บาท)
จุดเด่น
- ฟรี (ยกเว้นเพลง VIP)
- มีเนื้อเพลงให้อ่านและร้องตาม (ส่วนใหญ่)
- ฟังได้ทั้งบนเว็บและแอปพลิเคชัน
- มีเพลย์ลิสต์เพียบ ทั้งไทยและเทศ
- หลายเพลงใหม่ ฟังได้ครั้งแรกที่นี่
- เพลงโหลดเร็ว โหลดมาฟังออฟไลน์ได้
Apple Music
มาถึงเจ้าที่สาม เป็นเจ้าที่ทำให้การซื้อเพลงออนไลน์ของนายแพทลดลงไปมากมายทีเดียว การฟังเพลงแบบสตรีมเมอร์ของเจ้านี้นี่คือ มีเพลงจากฝรั่งให้ฟังเพียบ แถมเพลงใหม่ๆ ก็มักจะมาเปิดตัวที่นี่ก่อน ที่นี่ไม่บริการฟังฟรีเหมือนเจ้าก่อนหน้า เน้นลูกค้าจ่ายเงินเท่านั้น ซึ่งก็มีอัตราอยู่ที่ 129 บาท/เดือน และ 1,300 บาท/ปีสำหรับแบบบุคคล
ส่วนแบบครอบครัวอยู่ที่ 199 บาท/เดือน ใช้ได้ 6 คนในแอคเคาต์เดียวกัน แบบนักเรียนก็ถูกลงมาหน่อย เหลือ 69 บาท/เดือนครับ
บริการของ Apple Music ใช้งานบนแอปพลิเคชั่นซึ่งค่อนข้างเข้าถึงหน้านู่นนี่นั่นได้ยากอยู่สักหน่อย หลายหน้าจะซ่อนอยู่ในซอกหลืบ ต้องใช้เวลากับมันสักพักจะเริ่มคุ้นชิน เหมือนกับ Joox คือจะมีเพลย์ลิสต์ไว้ให้เราสับเปลี่ยนหมุนเวียนไป แต่ดูไม่ค่อยเยอะนัก
ที่ได้ใช้บ่อยๆ ก็มีเพลย์ลิสต์ “เพลงโปรดของฉัน” นี่แหละ ส่วนระบบการเสิร์ชค่อนข้างหาง่าย เจอแว่นขยายได้ทุกหน้าที่เข้าไป ข้อเสียที่ผมไม่ชอบเลยก็คือ การโหลดที่ช้ามาก ไม่ว่าจะโหลดหน้าแอป หรือโหลดเพลงมาฟัง
จุดเด่น
- มีเพลย์ลิสต์เพลงไทย
- หน้าตาแอปเรียบและสวยงาม
- หลายเพลงใหม่ ฟังได้ครั้งแรกที่นี่
Spotify
แล้วก็มาถึงรายล่าสุดที่เพิ่งเริ่มเข้ามาเปิดให้บริการสำหรับคนไทยเมื่อ 22 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา ดูจะเป็นเจ้าที่ใครๆ ก็รอคอยกันเหลือเกิน หลายคนชอบที่ Spotify มีคลังเพลงที่ใหญ่สุด มีเพลงมากมายโดยเฉพาะเพลงเก่าๆ ที่ค้นหามาฟังได้ แต่เท่าที่ใช้ดู ก็ยังไม่ได้มีทุกอย่างขนาดจะหาเจอได้ทุกอย่างขนาดนั้น อาจเพราะลิขสิทธิ์ยังไม่ได้ครอบคลุมถึงทั้งหมด หรืออาจจะทะยอยทำอยู่ก็เป็นได้
ในเรื่องของความเร็วในการโหลดนั้นถือว่าทำได้ดีเท่าๆ กับที่ Joox ให้เลยทีเดียว หน้าแอปโหลดเร็ว ใช้งานง่าย แถมมีอะไรให้เลือกเยอะแยะ กลายเป็นแอปที่สร้างความประทับใจได้เพียงไม่นาน
ช่วงนี้เปิดให้ใช้บริการฟรีพรีเมียม 1 เดือน ก่อนจะเริ่มเสียค่าบริการ 129 บาท/เดือนสำหรับแบบบุคคล และ 199 บาท/เดือนสำหรับแบบครอบครัว ใช้ได้ 5 คนในแอคเคาต์เดียวกัน
สิ่งที่ชอบใน Spotify นอกเหนือไปจากหน้าตาที่เข้าใจง่าย เพลย์ลิสต์ที่ค่อยๆ หลากหลายขึ้นเรื่อยๆ แต่ละเพลย์ลิสต์มีเพลงให้ฟังเยอะมาก มีอะไรให้ติดตามไปฟังไม่รู้จบ ฟังเพลงของศิลปินคนนี้ก็มีศิลปินที่ใกล้เคียงมาแนะนำให้
เรายังสามารถใช้แอคเคาต์เดียวกันฟังจากหลายอุปกรณ์ได้แถมยังต่อเนื่อง เปลี่ยนจากฟังบนมือถือหันมาเปิดเพลงฟังจากโน้ตบุ๊กได้ด้วย หรือจะเปิดฟังบนโน้ตบุ๊กแต่อยากจะควบคุมด้วยมือถือก็สามารถทำได้เช่นกัน
ล่าสุด ผมก็เพิ่งเห็นว่าเขามีเพลงไทยอินดี้ให้ฟังด้วยนะ
จุดเด่น
- UI ที่ทำให้หาเพลงและเพลย์ลิสต์ได้ง่าย
- โหลดหน้าแอปเร็ว
- เพลงเยอะมาก
- มีเพลย์ลิสต์เพียบ
- เพลงโหลดเร็ว โหลดมาฟังออฟไลน์ได้
- ฟังได้ทั้งบนแอปพลิเคชันในมือถือและคอมพิวเตอร์
—
ไม่ต้องบอกแล้วมั้งว่าตอนนี้ ผมฟังเพลงจากสตรีมมิ่งเจ้าไหน….