ตื่นเช้าอีกวันบนที่นอนนุ่มๆ ของโรงแรมแห่งใหม่ สำนึกได้ว่าวันนี้ คือวันสุดท้ายของทริปเราบนแผ่นดินคาบสมุทรเกาหลี จัดแจงแพ็คกระเป๋าให้เรียบร้อยเพราะวันนี้เราต้องเดินทางกลับกันแล้ว ลงลิฟต์เอากระเป๋ามาวางไว้ที่ชั้นล่างเพื่อนำขึ้นรถบัส ก่อนลงไปทานอาหารเช้าที่ชั้นใต้ดิน
สมองได้แต่คิดว่า ห้องอาหารที่นี่เล็กเกินหรือวันนี้คนพักที่นี่เยอะกว่าปกติกันแน่ เพราะภาพที่เห็นคือคนยืนต่อแถวกันยาวเพื่อตักอาหารสไตล์บุฟเฟต์ กับภาพของโต๊ะที่มีคนนั่งอยู่เต็ม
เหตุการณ์แย่งชิงพื้นที่จึงได้บังเกิดขึ้น ต้องยอมรับว่า การเป็นคนไทย อาหารเช้าในโรงแรมบ้านเราจึงมีรสชาติดีสุด แต่พอดีเรามาทานในบ้านคนอื่น เมนูไหนอร่อยก็หม่ำเยอะๆ เมนูไหนรับไม่ได้ก็ชิมแล้ววาง
หลังเก็บถ้วยจานของตัวเองเรียบร้อย ก็ได้เวลาขึ้นรถเดินทางกันต่อแล้ว
วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2557
ในวันที่ร่างกายเริ่มคุ้นชินกับสภาพอากาศ ก็กลับกลายเป็นวันสุดท้ายของพวกเราไปเสียนี่ จุดหมายของเราในวันนี้ ไม่มีอะไรมากไปกว่าการเที่ยวหมู่บ้านวัฒนธรรมที่เหลืออยู่เพียงจุดเดียวในกรุงโซล ‘บุกชอนฮันอก’
10.12 น.
รถบัสผ่าน ‘พระราชวังเคียงบกคุง’ ทว่าไม่ได้แวะจอด เราจึงได้แต่ถ่ายรูปหน้าประตูมาฝาก
แต่จุดหมายเราวันนี้ต้องขับเลยไปอีกนิดหน่อย ไปยังชุมชนเล็กๆ ที่ถูกอนุรักษ์เอาไว้ บ้านเรือนทรงแบบเกาหลีในสมัยก่อนๆ ยังตั้งอยู่อย่างนั้น แต่ภายในบ้านอาจจะเต็มไปด้วยอุปกรณ์เครื่องสมัยใหม่ไปแล้วก็ได้ ผู้คนยังอยู่อาศัยกันอยู่ตามปกติ การที่เราไปเดินอยู่ตรงนั้นก็เหมือนกับการเดินเยี่ยมชมบ้านของพวกเขานั่นแหละ
จึงอาจจะใช้เสียงดังไม่ค่อยได้ เดี๋ยวรบกวนพวกเขา
ที่นี่ เราจะได้เห็นสภาพเมืองเก่าที่ตั้งอยู่บนพื้นลาดชัน แต่ก็สวยงามหากไม่มีผู้คน
เสร็จจากนี้ รถบัสคันเดิม คนขับคนเดิมก็พาเราไปกินไก่ต้มโสม เป็นจานแรกในชีวิตแล้วล่ะ แม้ว่ารสชาติจะไม่ถูกปากเท่าไหร่ แต่ก็ทานกันไปเกือบหมด ไม่รู้ว่าเพราะทริปนี้ได้กินแต่อาหารที่ผสมโสมเกือบทุกมื้อรึเปล่า จากที่คิดว่าจะเป็นหวัดเพราะอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปมากมาย กลับไม่ได้เป็นอะไรเลย
15.20 น.
หลังจากคณะของเราเดินทางผ่านร้านของฝากระหว่างทางเพื่อให้ทุกคนได้ละลายเงินวอนจนหมดไปจากกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางสู่ท่าอากาศยานอินชอนอีกครั้ง อากาศที่หนาวเย็นไม่เป็นปัญหามากนักเมื่อเราเริ่มชินกับมัน แต่หลังจากผ่านไปราว 5 ชั่วโมง เราต้องปรับเวลาให้กลับมาเป็นเวลาไทยอีกครั้งซึ่งช้ากว่าที่เกาหลี 2 ชั่วโมง
ลงถึงพื้นดินของสนามบินดอนเมือง พบว่าอากาศช่างร้อนอะไรเช่นนี้ มันต่างกันมากกับที่โน่นจริงๆ เสื้อผ้าที่ใส่มาจากกรุงโซลที่พบว่ากันความหนาวได้พอประมาณ ตอนนี้ กลับกลายเป็นเสื้อผ้าที่เรียกเหงื่อให้ผุดขึ้นมาทั่วร่างกาย
กว่าจะกลับถึงที่หมาย กี่ทุ่มแล้วนะ ลืมดูนาฬิกา…
——————————————————————
ทัวร์ใบไหม้เปลี่ยนสี | [ เที่ยวเกาหลีวันแรก – อินชอน ] [ เที่ยวเกาหลี วันสอง – เกาะนามิ ] [ เที่ยวเกาหลี วันที่สาม – โซลทาวเวอร์ ฮงแด และเมียงดง ] [ เยือนเกาหลี วันสุดท้าย – บุกชอนฮันอก ]