ดูเหมือนบล็อกนี้จะไม่ได้เขียนเรื่องท่องเที่ยวมานานนะ ปล่อยให้หมวดหมู่นี้เปลี่ยวดายยาวนานเกินไปหรือเปล่า คราวนี้ที่ตะลอนไปสวนผึ้งก็มิได้เขียนถึง ครานี้ได้โอกาสแล้ว เขียนถึงสักหน่อยเป็นไร ทริปที่เราจัดกันเองแต่ไม่ได้เตรียมจัดวางแผนอะไรสักเท่าไหร่ เพราะต้องการให้มันดูมีแพลนน้อยที่สุด จะได้ชิลล์ๆ ที่สุดอะไรประมาณนั้น (จริงๆ ก็คือ ลืมปรินต์แผ่นที่สรุปแพลนไว้ต่างหาก)
ตระเตรียมข้าวของเสียมากมายยังกับจะไปเที่ยวยาวสักสามสี่วัน จริงๆ ก็แค่ไปนอน “หัวหิน” แค่คืนเดียวเท่านั้น ทุกอย่างพร้อมสรรพแม้กระทั่งโน้ตบุ๊กที่หวังเตรียมไปทำงานด้วยที่นั่น พยายามจะนอนให้เร็วขึ้นเผื่อเวลาให้พักผ่อนเต็มๆ ที่ จะได้ตื่นแต่เช้าขับรถไปด้วยสภาพที่สดชื่นสดใสเต็มที่ ไม่เลย นอนไม่หลับเท่าไหร่ กว่าจะตื่นก็โน่น แปดโมงไปเรียบร้อยแล้ว
และแล้วภารกิจของการไปเที่ยวหัวหินก็เริ่มต้นขึ้น
Saturday, 19 October 2013
09.00 น. กว่าๆ ล้อจึงเริ่มเคลื่อนที่ ภารกิจของเราก็ง่ายๆ เพียงแค่คนหนึ่งเป็นเนวิเกเตอร์คอยบอกทางที่จะไปให้ถูกต้อง กับอีกคนคอยขับไปอย่างมีสมาธิที่สุด แน่นอนว่านี่คือการขับรถไปหัวหินครั้งแรก ไม่ง่ายนักแต่ก็ไม่ยากเกินไป ขึ้นทางด่วนก็ดูป้ายแล้วก็ขับไปเรื่อยๆ จนมาข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สะพานพระราม 9 สู่ฝั่งธน วิ่งตามถนนเพชรเกษมผ่านชะอำไปจนถึงหัวหิน
เรียกได้ว่า ถ้าออกมาจากกรุงเทพฯ ได้ เจอถนนเพชรเกษมได้ ก็ไม่มีอะไรยากแล้ว จดจำเอาไว้เพียงว่า เราต้องลอดอุโมงค์ใต้สนามบินก่อน ผ่านตรงนั้นก็มาหัวหินแล้วล่ะ วันนี้ บรรยากาศแย่หน่อย เพราะเมฆฝนครึ้มมาตลอดทาง และฝนก็เริ่มโปรยปรายเรื่อยมาตั้งแต่เราผ่านชะอำ เกือบจะไม่ได้แวะไหนแล้ว แต่ในที่สุด ก็แวะที่นี่ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของหัวหิน ว่างั้นเถอะ
The Venezia Hua Hin
12.20 น. ก่อนถึงอุโมงค์ลอดใต้สนามบินเพียง 700 เมตร อยู่ทางด้านขวาของถนน กลับรถก่อนแล้วหันหัวเลี้ยวเข้าไป มองเห็นได้สะดุดตา ‘เดอะ เวเนเซีย หัวหิน’ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในสไตล์ในช้อปปิ้ง คอมเพล็กซ์ ที่จำลองบรรยากาศของเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี มาไว้ในเมืองไทย มีทั้งคลองที่มีเรือกอนโดลาล่องไปมา มีรถไฟคันเล็กๆ ให้เด็กๆ นั่ง มีตึกรามบ้านช่องที่ทำสีสันสดใสน่าถ่ายรูปมากๆ
น่าเสียดายก็ตรงที่แสงไม่ค่อยจะมี ท้องฟ้ามีแต่เมฆสีขาวและเทาหม่น หยาดฝนก็โปรยปรายหนักบ้างเบาบ้างเป็นระยะๆ แล้วนี่จะได้ภาพสวยได้ยังไงกันเล่านี่
ภายในโครงการ มีการจำลองจัตุรัสเซ็นต์มาร์ค (St. Mark Square) และหอระฆัง (Bell Tower) สัญลักษณ์ของเมืองเวนิส ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลกมาไว้ที่ด้านหน้าโครงการ ที่เป็นทั้งลานกิจกรรมขนาดใหญ่และจุดชมวิว
ภายในโครงการของ ‘The Venezia Hua Hin’ มีร้านค้ามากมายจากหลากหลายแบรนด์ดัง แต่ก็ยังพบว่าบางส่วนก็ยังไม่มีร้านมาเปิดแต่อย่างใด บางส่วนจะมีหลังคาปกคลุม ผู้คนก็ยังพากันเดินได้หน่อย แต่พอช่วงฝนตก บริเวณที่ไม่มีหลังคาก็ดูจะเงียบเหงาไปเลยทีเดียว ทำไงได้ ถ้าไม่แวะสักที วันนี้คงไม่ได้สักจุดหมายแน่นอน
นอกจากนี้ ผมยังแอบเห็น mini zoo สวนสัตว์ขนาดย่อมๆ ซึ่งช่วงที่ผมไปนั้นรู้สึกเขาจะไม่เปิดคงเพราะฝนตก สิ่งที่พอจะทำได้ก็คือการเดินและถ่ายรูปซึ่งก็นับว่า มีจุดถ่ายรูปมากพอสมควรเลย
สุดท้ายก็เดินกลับที่ลานจอดที่แสนกว้างขวาง และขับออกมาเพื่อมุ่งหน้าไปสู่เขาตะเกียบ จุดหมายถัดไปของเรา คือการเช็คอินเข้าพักในรีสอร์ทที่เราจองมัดจำเอาไว้
ข้อมูลเกี่ยวกับ The Venezia Hua Hin
เปิดบริการ : 11.00 – 21.00 น. ทุกวัน
ค่าเข้า : ไม่มี, มีค่าใช้บริการภายในแล้วแต่บริการ
ตำแหน่ง : จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าหัวหิน จะอยู่ก่อนถึงอุโมงค์สนามบินหัวหินประมาณ 700 เมตร อยู่เยื้องกับโรงแรมดุสิตธานีหัวหิน ราว 500 เมตร
เว็บไซต์ : www.theveneziahuahin.com
[ ตอนต่อไป มารู้จักกับที่พักสุดแมวๆ อย่าง Riad Hua Hin และร้านอาหารวิวสุดสวยกันนะครับ ]
2 คอมเมนต์