จะว่าไปแล้ว นายแพทคนนี้ก็ไม่ได้เป็นนักอ่านการ์ตูนตัวยงสักเท่าไร แต่การ์ตูนของ Adachi Mitsuru/อ.อาดาจิ มิซึรุ ทำให้ผมติดใจ จนต้องซื้อเก็บไว้อ่านยามว่างๆ (ซึ่งก็ไม่ค่อยจะมีซะด้วยสิ)
สิ่งที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดีสำหรับมังงะของอาดาจิ มิซีรุ ก็คือลายเส้นที่ไม่เหมือนใคร มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากเนื้อเรื่องจะเน้นไปที่ความรักของหนุ่มสาวแล้ว หลายเรื่องจะเน้นไปที่กีฬาชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เบสบอล มวย หรือว่ายน้ำ หลายเรื่องก็เน้นความรักเพียวๆ แต่ก็หลายเรื่องเช่นกัน ที่เน้นทั้งกีฬาและความรักที่รวมกันเป็นเนื้อเดียวจนแยกไม่ออก
สำหรับนายแพทเอง ได้ทำความรู้จักกับมังงะของผู้ชายคนนี้ในช่วงที่ยังเป็นนิสิตอยู่ในมหาวิทยาลัย ผมอยู่หอพัก จึงมักใช้เวลาบางส่วนไปกับการเที่ยวห้องเพื่อนๆ คนโน้นคนนี้ จนได้มานั่งอ่านมังงะของเพื่อน เรื่องแรกที่ได้อ่าน ผมจำได้ดีเลย นั่นคือ Touch มังงะเบสบอลที่มีชื่อเสียงที่สุดเรื่องหนึ่งของอาดาจิ
อาดาจิ มิซึรุ เกิดในปี พ.ศ. 2494 นับถึงวันนี้ นักเขียนการ์ตูนคนนี้ก็อายุปาเข้าไป 58 ปีแล้วสินะ เกิดมาเป็นน้องคนสุดท้องของครอบครัวที่ยากจน ตามพี่ชายจากกุนมะบ้านเกิด เข้ามาอยู่ในโตเกียวเพื่อเป็นนักเขียนการ์ตูนโดยเฉพาะ เขาเริ่มมีผลงานตั้งแต่ผมยังไม่เกิด ?Kieta Bakuon? คือ ผลงานแรกในปี 2513 ถูกตีพิมพ์ในนิตยสาร Deluxe Shonen Sunday ช่วงแรกๆ ผลงานของเขาเป็นการดัดแปลงมาจากเรื่องดั้งเดิมของคนอื่นๆ อีกเรื่องที่หลายคนรู้จัก คือ “พริกขี้หนูสีรุ้ง” นั่นก็เป็นผลงานการดัดแปลงจากซีรี่ส์ซูเปอร์ฮีโร่ทางโทรทัศน์ของอาดาจิอีกเช่นกัน พอมาถึงมี พ.ศ.2521 นั่นแหละ ที่เขามีผลงานที่แต่งขึ้นเองเสียที ซึ่งก็คือ “Nine”
ส่วนมังงะเรื่องที่ผมชื่นชอบกำเนิดขึ้นหลังจากนั้น…
‘Miyuki’
มังงะที่ไม่ได้มีกีฬาเข้ามาเกี่ยวข้อง เน้นที่เรื่องความรักล้วนๆ ของ วาคามัทซึ มาซาโตะ พระเอกของเรื่องที่แอบชอบ คาชิม่า มิยูกิ เด็กสาวไฮสคูลที่อยู่ห้องเดียวกัน ก่อนจะพบว่าเธอก็ชอบเขาเช่นกัน แต่เรื่องราวมันสนุกมากขึ้นตรงที่ว่า มีมิยูกิอีกคนที่เข้ามาในชีวิตเขา เธอคือ วาคามัทซึ มิยูกิ พี่น้องต่างมารดาที่ต้องอยู่กันเพียงลำพัง และต่างก็รู้สึกกันอย่างไม่ใช่แค่พี่น้องธรรมดา อ่านข้อมูลเพิ่มเติมของมังงะ Miyuki ได้ที่นี่ ครับ
‘Touch’
คู่พี่น้องฝาแฝด คัทซึยะ และทัตสึยะ เป็นเพื่อนเล่นกับมินามิ มาตั้งแต่เกิด และต่างกับรักมินามิเหมือนกัน พอๆ กับที่รักในเบสบอลเหมือนกัน แต่ทัตสึยะต้องเลือกที่จะฉีกตัวเองไปต่อยมวยแทน ก่อนที่การตายของคัทซึยะจะดึงเขากลับมาสู่เบสบอลอีกครั้ง เพื่อทำให้ความฝันของแฝดผู้น้องและมินามิเป็นจริง ซึ่งรวมทั้งความรักของเขากับมินามิด้วย
‘H2’
กับเรื่องราวของความรักในกีฬาเบสบอลของ ฮิโร่ คุนิมิ แต่กลับพบว่า เขากำลังมีปัญหาเกี่ยวกับไหล่จนต้องเลิกเล่น ก่อนจะไปเข้าโรงเรียนที่ไม่มีชมรมเบสบอล แต่ก็พบว่า จริงๆ แล้ว ไหล่ของเขายังใช้ได้ปกติ ความฝันในโคชิเอ็งกลับมาอีกครั้งพร้อมกับการเริ่มต้นจากศูนย์ เรื่องนี้ มีนางเอกชื่อ ฮิคาริ อามามิยะ มีเพื่อนพระเอกชื่อ ฮิเดโอะ ทาจิบานะ มีสาวอีกคนที่รักฮิโร่ ชื่อ ฮารุกะ โคกะ เป็นความจงใจที่จะให้ตัวเอกมีชื่อขึ้นต้นด้วยตัว H ของอาดาจิเขาล่ะ
นอกจากผลงานทั้งหมดที่เอ่ยถึงมาแล้ว Adachi Mitsuru ก็ยังมีผลงานเด่นๆ อีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ‘Rough’, ‘Katsu!’, ‘Slow Step’, ‘รักพลิกล็อก’ และ ‘พรอลวนคนอลเวง’ แล้วก็ยังมีมังงะเรื่องสั้นๆ อีกหลายเรื่องด้วยกัน
ลายเส้นของมังงะในยุคก่อนกับยุคนี้นั้น มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร เห็นได้ชัดเจนถ้าหยิบสองเรื่องมาเทียบเคียงกัน แต่เรียกได้ว่า หน้าตาตัวละครแต่ละตัวไม่ค่อยแตกต่างกันสักเท่าไหร่ในแต่ละเรื่อง จะเรียกว่า หน้าตาเดิมแต่ชื่อใหม่ก็คงไม่ผิดนัก แต่ลายเส้นอย่างนี้ไปเจอที่ไหนก็รู้ว่าเป็นฝีมือของลุงอาดาจิ
นอกจากเนื้อเรื่องที่เน้นไปทางความรักและกีฬาแล้ว แนวทางเฉพาะตัวที่ทำให้หลายคนติดใจก็เป็นที่การเล่าเรื่องด้วยภาพ การใช้ไดอะล็อกแบบพูดน้อยต่อยหนัก เพียงแค่นั้นก็มากพอจะทำให้คนอ่านต้องเช็ดน้ำตาตัวเองระหว่างอ่านได้แล้ว ชอบวาดตัวเองแทรกไปด้วยเสมอๆ แถมยังชอบโฆษณาขายมังงะเรื่องอื่นๆ ไปด้วยอีกต่างหาก มุกในมังงะของอาดาจิ นอกจากเน้นทะลึ่งตึงตังเล็กๆ แล้ว ยังชอบเล่นปาข้าวของกันอีกต่างหาก หลายเรื่องมักแต่งชื่อเรื่องตามชื่อตัวละคร และหลายเรื่องชอบที่จะใส่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ กับชื่อ, วันเกิด และที่มาของตัวละคร นี่คือเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้คนอ่านชอบใจ
มังงะของ Adachi Mitsuru ได้รับการนำมาดัดแปลงเป็นทั้งแอนิเมะ ซีรี่ส์ และภาพยนตร์อยู่เรื่อยๆ ประทับใจบ้าง ไม่ประทับใจบ้าง คละเคล้ากันไป แต่ผลงานของเขาก็ยังคงมีออกมาอยู่เรื่อยๆ ที่อ่านอยู่ช่วงนี้ ก็คือ ‘Cross Game’ มังงะเบสบอลที่ได้รับการตีพิมพ์รวมใหม่ และ ‘Q And A’ เรื่องล่าสุด ที่เพิ่งออกมาไม่กี่ตอนเท่านั้น