เมื่อยามได้ยินข่าวร้ายว่า Studio Ghibli เขาจะหยุดพักการสร้างไปอย่างไม่มีกำหนดก็ให้เศร้าใจ และได้ตั้งปณิธานเอาไว้ว่า ถ้าหนังเรื่องสุดท้ายเข้าโรงในไทยเมื่อไหร่ เราจะต้องไปดู แล้ววันนั้นก็มาถึง แล้วก็ได้เวลาทำตามที่ตั้งปณิธานไว้ เดินเข้าโรงหนัง Scala ซื้อตั๋วแล้วเข้าไปนั่งเพื่อพบว่า คนแทบเต็มโรงเลยนี่หว่า กระแสความสนใจใน ‘When Marnie Was There’ นี่มันไม่ธรรมดาเลยนะนี่
อะนิเมะเรื่องทิ้งทวนก่อนหยุดยาวเรื่องนี้ “ฝันของฉันต้องมีเธอ” ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาวชนคลาสสิกปี 1967 ของ โจแอน จี. โรบินสัน ที่บอกเล่าเรื่องของเด็กสาววัย 14 คนหนึ่งที่มีปมในจิตใจ เธอเป็นคนเงียบ ขี้อาย เจ้าอารมณ์ และไม่ชอบการเข้าสังคม ด้วยอาการของหอบหืด โรคประจำตัวทำให้เธอถูกส่งตัวไปอยู่กับญาติในบ้านแถวชนบทเพื่อให้ได้อยู่กับอากาศดีๆ ที่นั่น
เผื่อและหวังว่า อาการของเธอจะดีขึ้น
รีวิวแอนิเมชัน ‘When Marnie Was There’
อันนะ สาวน้อยที่ถูกเลี้ยงมาโดยคนที่เธอเรียกว่าคุณน้า เธอเฝ้าแต่เกลียดตัวเอง และฝันจะมีชีวิตแบบคนอื่น การเดินทางจากซัปโปโรมายังเมืองเล็กๆ ในฮอกไกโดเมืองนี้ ยังความเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงมาสู่ชีวิตของเธอ
เป็นอีกครั้งที่อะนิเมะจากสตูดิโอแห่งนี้นำเสนอเรื่องราวของตัวละครเอก(ที่เป็นผู้หญิงอีกครั้ง)ผู้ต้องประสบกับความเปลี่ยนแปลง หลีกจากเมืองใหญ่สู่อ้อมกอดแห่งเมืองเล็ก และเติบโตผ่านเรื่องราวแฟนตาซี ณ ที่แห่งนั้น
ที่เมืองนั่น เธอได้พบกับ มาร์นีย์ เด็กสาวผมทองชาวตะวันตกในคฤหาสน์หลังใหญ่ ปกติ อันนาจะไม่ชอบพูดคุยกับคนแปลกหน้า แต่มิตรภาพของเธอกับมาร์นีย์กลับก่อเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยเหมือนว่าทั้งสองต่างก็มีความเหมือนและความต่างที่เติมเต็มให้แก่กัน ทั้งสองคนเลือกจะให้อีกฝ่ายเป็นเหมือนความลับส่วนตัวที่จะไม่เปิดเผยกับใคร
ตัวละครอย่าง อันนะ (หรือจะ อันนา ก็แล้วแต่) จริงๆ ก็คงเหมือนเป็นตัวแทนของใครหลายๆ คน เป็นพวกไม่ชอบสิ่งที่ตัวเองเป็น เธอไม่ชอบที่ต้องถูกพ่อแม่ทิ้งกลายเป็นลูกเลี้ยงของคนที่ไม่ใช่แม่ที่แท้จริง และได้รับรู้บางอย่างที่เธอรับไม่ได้ เธอได้เห็นบางสิ่งที่อยู่ในตัวมาร์นีย์และอยากเป็นแบบนั้นบ้าง แต่เราทุกคนก็คงได้รับรู้ว่า
ไม่มีใครหรอกที่ชีวิตจะสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่าง
คนที่เราอยากเป็นอย่างเขา จริงๆ แล้วเขาอาจจะมองว่าชีวิตเราดูดีกว่า ดูน่าเป็นกว่าอยู่ก็ได้ เพราะฉะนั้น ไม่จำเป็นต้องไปอิจฉาใคร หรืออยากเป็นเหมือนใครหรอก แม้แต่การหนีตัวเองก็อาจไม่ช่วยอะไร เพราะการอยู่กับสิ่งที่ตัวเองเป็นนั่นแหละที่ดีที่สุดสำหรับเราแล้ว
ผลงานการกำกับของ Hiromasa Yonebayashi ผู้เคยมีผลงานการกำกับอะนิเมะเรื่องราวคนตัวจิ๋ว ‘The Secret World of Arrietty’ มาแล้ว เป็นงานส่งท้ายที่น่าประทับใจ การดำเนินเรื่องอาจดูเรียบเรื่อยแต่ไม่น่าเบื่อ เพราะมีอะไรให้ต้องติดตามสงสัยไปตลอด ในที่สุด เมื่อทุกอย่างถูกไขกระจ่าง กลับทำให้เราเศร้าจนน้ำตาไหล
แต่มาร์นีย์และอันนะก็ส่งพลังแห่งชีวิตเราได้…ไม่น้อยทีเดียว
ชื่อภาพยนตร์: When Marnie Was There / ฝันของฉันต้องมีเธอ
ผู้กำกับภาพยนตร์: Hiromasa Yonebayashi
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Joan G. Robinson (novel), Keiko Niwa (screenplay), Masashi Ando (screenplay), Hiromasa Yonebayashi (screenplay), David Freedman (screenplay adaptation: english version)
นักแสดงนำ: Sara Takatsuki, Kasumi Arimura, Nanako Matsushima, Susumu Terajima, Toshie Negishi
ความยาว: 103 นาที
แนว/ประเภท: Animation, Drama
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/ , MPAA/PG
ประเทศ: ญี่ปุ่น
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 16 เมษายน 2558
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Studio Ghibli
ฝันของฉันต้องมีเธอ
When Marnie Was There - 9
9
When Marnie Was There
เป็นอีกครั้งที่อะนิเมะจากสตูดิโอแห่งนี้นำเสนอเรื่องราวของตัวละครเอก(ที่เป็นผู้หญิงอีกครั้ง)ผู้ต้องประสบกับความเปลี่ยนแปลง หลีกจากเมืองใหญ่สู่อ้อมกอดแห่งเมืองเล็ก และเติบโตผ่านเรื่องราวแฟนตาซี ณ ที่แห่งนั้น