หลังอะนิเมะภาคเปิดตัวที่ฉายทางทีวีจบลงไป แถมยังมีรางวัลที่คว้ามาห้อยคอ ความสำเร็จของอะนิเมะเรื่องนี้จะเป็นอย่างที่ทีมงานคาดการณ์เอาไว้ กระแสตอบรับที่ดีจากภาคอะนิเมะทีวี ส่งต่อไปถึงภาคถัดไปที่เป็นภาพยนตร์ก็ดำเนินเรื่องต่อเนื่องมา
จาก ‘Eden of the East’ อะนิเมะจำนวน 11 ตอนที่เปิดเผยเรื่องราวที่มาที่ไปของกลุ่มวัยรุ่นที่รวมตัวกันสร้างเครือข่ายออนไลน์ในชื่อเดียวกันนี้ พร้อมๆ กับเปิดให้เราทำความรู้จักกับเกมที่เดิมพันด้วยชีวิตของผู้เล่น เงิน และสังคมอุดมคติที่ดีขึ้นในทางของแต่ละคน จากจุดเริ่มต้นที่ถางทางเอาไว้ มีคนรอคอยชมภาคต่อที่เต็มไปด้วยเรื่องราวชวนติดตามมากกมาย
ทีมผู้สร้างได้จัดวางเอาไว้ ว่าจะต้องมีภาคต่อในลักษณะของภาพยนตร์ที่ฉายตามโรงออกมาอีก 2 ภาค โดยภาคแรกคือ ‘The King of Eden’ และภาคต่อมาคือ ‘Paradise Lost’ และนี่คือภาคแรกในรูปแบบภาพยนตร์
นายแพทขอเตือนว่า หากใครยังไม่เคยดูอะนิเมะเรื่องนี้ ก็ขอให้ลองไปอ่าน ‘Eden of The East’ กันก่อน หรือไม่ก็ลองไปหาอะนิเมะเวอร์ชั่นฉายทางทีวี 11 ตอนเรื่องนี้มาดูก่อน เพราะเรื่องราวที่จะเล่าถึงต่อไปนี้ มันเป็นเรื่องที่ต่อเนื่องมาจาก 11 ตอนนั่นอีกทีนะครับ
โดยเริ่มต้นที่นิวยอร์ก อเมริกาเช่นเดิม เป็นภาพของซากิกำลังนั่งอยู่ในรถแท็กซี่ เหม่อมองไปข้างทางก่อนจะพบป้ายโฆษณา ที่เป็นภาพของผู้ชายยืนมือหนึ่งถือโทรศัพท์มือถือ อีกมือก็ทำท่าสั่งยิง พร้อมมีตัวหนังสือระบุว่าข้างล่างว่า Air King ดูเหมือนท่านี้จะกลายเป็นท่าฮิตไปทั่วโลกแล้วในตอนนี้ ซากิเปิดกระเป๋าหยิบมือถือเวทมนตร์ที่ระบุหมายเลข 9 ขึ้นมา ก่อนดูข้อความที่ทาคิซาว่าฝากไว้ให้
“ซากิ ขอบคุณที่เชื่อใจเรานะ เราน่ะ จะร่วมทางไปกับเธอตลอดทั่วทุกแห่งน่ะแหละ”
การเปิดเรื่องของภาคนี้ใกล้เคียงคล้ายคลึงกับภาคเดิม เมื่อเกิดความคลาดเคลื่อนในการสื่อสารกับแท็กซี่ เธอจึงถูกดึงตัวลงจากรถเพื่อมาพบว่า ของที่เธอขนมาเป็นอาวุธปืน สุดท้ายแท็กซี่จากไปพร้อมกับกระเป๋าและมือถือเครื่องนั้น ชีวิตเธอต้องผจญกับตำรวจอีกเช่นเคย
จุดมุ่งหมายของการมาอเมริกาครั้งนี้ของเธอคือ การตามหาทาคิซาว่าคุงให้พบนั่นเอง
หลังเหตุการณ์วันที่มิสไซล์ 60 ลูกถูกยิงถล่มเมือง ซากิถูกตำรวจเรียกตัวไปสอบปากคำ ก่อนจะย้ายตัวเองมาอยู่พี่สาวและพี่เขย และได้แต่เก็บตัวเงียบอยู่เช่นนั้น พร้อมๆ กับที่ทาคิซาว่าคุงก็หายตัวไปด้วย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังเหตุนั้นคือ Eden of the East กลายเป็นที่รู้จักในเพียงชั่วข้ามคืน และท่าที่ทาคิซาว่าคุงเล็งยิงมิสไซล์ กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการปฏิวัติ ญี่ปุ่นสูญเสียภาพลักษณ์ที่ดี กลายเป็นประเทศที่พยายามฆ่าตัวเอง แต่หลายๆ อย่างในประเทศนี้ก็ดูจะเป็นไปในทางที่สดใสขึ้น Eden of the East Corporation ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นบริษัทเล็กๆ ที่อยู่ระดับแถวหน้า และตั้งขึ้นมาเพื่อตามหาทัคคุง
สิ่งหนึ่งที่ยังคงเป็นอยู่มาหลายวันต่อเนื่องกัน ก็คือ ความคิดถึงและการรอคอยของซากิที่มีต่อทาคิซาว่าคุง
ในวันเดียวกันนั้นที่ซากิเดินทางไป นายกฯ ก็มาเสียชีวิตลง พร้อมกับที่ได้รับรู้ข้อมูลมาว่า เซเลเซาหมายเลข 6 และ 11 ก็เดินทางไปนิวยอร์กด้วย แถมหมายเลข 6 สั่งเปลี่ยนของในกระเป๋าของซากิ ขณะที่หมายเลข 2 ก็ปล่อยข่าวว่าเป็นลูกชายของนายกฯ อินุม่าอีกด้วย และบอกว่าพาสปอร์ตของทาคิซาว่าเป็นของปลอม บางทีหมายเลข 6 กำลังติดตามสะกดรอยซากิอยู่ก็เป็นได้
แต่ซากิก็ยืนยันจะไปตามหาทัคคุงให้พบให้ได้ โดยมั่นว่า “ร่วมทาง” ในข้อความที่ฝากไว้น่าจะมีความหมายบางอย่างที่พาไปพบกับที่อยู่ของทัคคุงได้
ภารกิจในการค้นหาทัคคุง ผู้ชายที่เคยขอให้ Juiz ช่วยให้เขาเป็นกษัตริย์ บัดนี้ ต้องพบกับความยุ่งยากมากมายหลายประการ ทัคคุงเองก็ลบความทรงจำของตัวเองอีกครั้ง มีแต่ซากิเท่านั้น ที่รู้ว่า เขาคือใคร ไม่ว่าเขาจะชื่อ อินุมา อากิระ หรือ ทาคิซาว่า อากิระ เขาก็คนๆ เดียวที่เธอรักอยู่นั่นเอง
ในภาคนี้ เราจะได้พบกับเซเลเซาทั้งหมดจาก 11 ตอนก่อนหน้านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยที่ยังมี โมโมโนเบะ ไดจู เซเลเซาหมายเลข 1 เป็นศัตรูตัวสำคัญสำหรับหมายเลข 9 อย่างทัคคุง และมีหมายเลข 6 ที่มีอาชีพเป็นโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์มาเป็นตัวสร้างสีสัน
ขณะเดียวกัน ที่ Eden of the East ระบบของพวกเขาถูกแทรกแซง และพวกเขาจำต้องตัดสินใจบางอย่างเพื่อให้ภารกิจสำเร็จ แม้จะเป็นองค์กรที่เคยเป็นชื่อของอะนิเมะในภาคทีวี แต่ในภาคหนังใหญ่ มันได้ถูกลดความสำคัญลงมาพอสมควร แต่ก็ยังคงเป็นกองกำลังสนับสนุนที่สำคัญอยู่ดี
การดำเนินเรื่องที่มีอะไรใหม่ๆ ให้คอยลุ้นตลอด แถมยังมีการหักมุมครั้งแล้วครั้งเล่า นับว่าวางโครงเรื่องเอาไว้ได้ดีจริงๆ จบแบบค้างคาใจ เอาไว้ให้ติดตามใน “Paradise Lost” ที่เป็นภาคจบต่อไป
ภาพยนตร์: Eden of the East the Movie I: The King of Eden
ผู้กำกับภาพยนตร์: เคนจิ คามิยาม่า
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: เคนจิ คาวาอิ
สตูดิโอ: Production I.G
ความยาว:
สัญชาติ: ญี่ปุ่น
ประทับใจภาคแรกมากๆเปลี่ยนแนวคิดเราไปหลายอย่างเลยทีเดียว เรื่องนี้น่ะ
ตอนนี้เรากำลังหาฉบับภาพยนตร์มาดูอยู่รอให้ว่างจากการสอบอยู่ อิอิ
คนรู้จักเราไม่มีใครดูเรื่องนี้กันเลย ไม่สิ เค้าไม่ดูอนิเมะกันเลยต่างหาก ถ้าใครอยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คุยกันได้นะ