รีวิวหนัง The Croods | มนุษย์ถ้ำผจญภัย บทวิจารณ์มิใช่บทวิจัย

วันนี้ ผมได้ไปดูแอนิเมชั่นที่น่ารักสุดประทับใจมาเรื่องหนึ่งครับ ก่อนไปดู ผมไม่ได้ตั้งความหวังอะไรมากนัก ‘The Croods’ หรือ ‘เดอะครู้ดส์’ จากหนังตัวอย่างที่ออกมาดูดีในด้านงานภาพ กับเรื่องราวของความขัดแย้งทางความคิดภายในครอบครัว และการเดินออกมาจากกรอบ ไม่ได้คาดหวังอะไรมากกว่าการเป็นแอนิเมชั่นที่ดูและประทับใจเท่านั้น เอ.. ก็เยอะนะ!

แต่เมื่อได้ดูหนังตัวเต็มในโรงภาพยนตร์ดิจิตอล 3 มิติ แอนิเมชั่นเรื่องนี้ก็ให้สิ่งที่มากกว่าที่ตัวอย่างหนังให้มา เกินความคาดหมาย และน่าประทับใจ เอาเป็นว่า ผมจะค่อยๆ เล่าไปทีละส่วนๆ ก็แล้วกันนะครับ

เริ่มเลย อย่างที่รู้ๆ กัน หนังมันเล่าถึงครอบครัวมนุษย์ถ้ำครอบครัวหนึ่ง ที่มี Grug (กรั๊ก / Nicolas Cage) ผู้เป็นพ่อและเป็นผู้คุมกฎ เขาเชื่อว่าการอยู่ในถ้ำเป็นสิ่งที่ให้พวกเขารอดมาจนทุกวันนี้ การเลือกจะออกไปเฉพาะตอนหาอาหารและหมกตัวอยู่แต่ในถ้ำมืดๆ นั้นปลอดภัยที่สุด นั่นอาจจะจริง เพราะพวกเขาคือครอบครัวเดียวที่เหลือรอด แต่มันอาจจะไม่ใช่สำหรับวันพรุ่งนี้

รีวิวหนังแอนิเมชัน ‘The Croods’

Eap (อี๊บ พากย์เสียงโดย Emma Stone) คือลูกสาวคนโตที่คล่องแคล่ววองไวพละกำลังเหลือล้น เธอไม่เชื่อในคำพูดของพ่อ “ของใหม่ไม่ดี กลัวไว้ก่อนพ่อสอนไว้” เธอเลือกที่จะผละจากถ้ำ ดอดออกไปสำรวจภายนอกก่อนจะพบอะไรที่ใหม่ และไว้ใจเชื่อใจในสิ่งนั้น เหตุการณ์ของหินที่ถล่มลงมาพังถ้ำที่พวกเขาพักพิงมานานจนพังทลาย การเดินทางสู่ที่ใหม่จึงเริ่มต้น

โดยมีผู้ร่วมทางคนใหม่ที่ช่วยเปิดโลกทัศน์ให้กับเหล่ามนุษย์ถ้ำแสนบื้อครอบครัวนี้

อาจจะดูเป็นอะไรที่ผิดแปลกไปเมื่อมนุษย์ยุคหินมาเจอกับเหตุการณ์โลกที่กำลังล่มสลาย แต่การผสมควบรวมนี้อาจเพียงพอให้เกิดเรื่องราวขึ้น เมื่อพ่อผู้เชื่อในการหลบในถ้ำ ต้องเจอกับความเปลี่ยนแปลงภายนอกที่กระทบถึงความคิดข้างในที่เชื่อมานานว่าจริง แม้ว่าจะเกิดความไม่ขัดแย้งกันไปตลอดหนทาง แต่ก็เป็นการเดินทางที่ทำให้ทุกคนเข้าใจกันและกันมากขึ้น แม้เรื่องราวจะเต็มไปด้วยมุขตลกและช็อตน่ารักๆ มากมาย แต่เขาก็ไม่หลงลืมช็อตดราม่าซึ้งๆ แบบครอบครัวๆ

Guy (กาย / Ryan Reynolds) คือหนุ่มแปลกหน้าที่โผล่เข้ามากลายเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางไปพบสิ่งใหม่ ที่เปิดพื้นที่ให้เราตื่นตากับทัศนียภาพที่อย่างกับโลกในจินตนาการ ดูแปลกแยกจากที่ที่พวกเขาจากมา แต่นั่นก็กลายเป็นพื้นที่ให้คนเขียนบทได้แต่งเติมอะไรได้ตามจินตนาการมากมาย ทั้งป่า พืชพันธุ์ และสัตว์ต่างๆ ซึ่งเขาก็ทำออกมาได้เนียนตาในแบบฉบับแอนิเมชั่นดี

ในด้านงานภาพ 3 มิตินี่เรียกได้ว่าเยี่ยมมาก นี่ถ้าได้นั่งอยู่แถวกลางๆ โรง ได้เห็นภาพเต็มกรอบแว่นตาทั้งสองข้าง จะยิ่งพบว่าละอองฝุ่น หรือวัตถุต่างๆ เหมือนจะลอยอยู่ใกล้เราจริงๆ เลยเชียวแหละ

ในส่วนของเนื้อเรื่อง พล็อตหลักเลยคือเรื่องของแง่คิดในการใช้ชีวิต เราเลือกจะอยู่แต่ในมุมที่ปลอดภัย เราอาจมีชีวิตแต่เราอาจขาด “การใช้ชีวิต” ไปก็ได้ และเรื่องราวของครอบครัว แต่ละคนก็ทำหน้าที่กันคนละอย่างในบ้านเดียวกัน ความคิดอาจจะแตกต่างมองกันคนละมุม แต่สุดท้าย ถ้ามองลึกเข้าไปในใจของแต่ละคนแล้ว ต่างก็รักและหวังดีต่อกัน แค่ต้องเปิดใจพูดกันเท่านั้นเอง ช็อตดราม่าจึงหนีไม่พ้นในเรื่องนี้ แม้จะไม่ถึงกับน้ำตาไหลพรากๆ แต่ก็ซึ้งกันได้พอซึมเลยล่ะ

ขณะที่พล็อตเรื่องรองก็คงเป็นเรื่องของการผจญภัย ที่ผสมผสานทั้งความขำกลิ้งของตัวละครตัวเล็กตัวน้อยที่มาเป็นตัวประกอบ และความซื่อบื้อของตัวละครหลักๆ ทั้งหลาย เรียกเสียงฮากันได้ตลอดเรื่อง ภาพสวย 3 มิติเนียน ดำเนินเรื่องสลับกันไประหว่างดราม่า ตลก และลุ้นการเอาตัวรอด กลายเป็นหนังคลายเครียดได้เรื่องหนึ่งเลย ยังไงๆ ‘เดอะครู้ดส์’ ก็เป็นแอนิเมชั่นสำหรับครอบครัวจริงๆ ดูแล้วอาจจะรักกันมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้นก็ได้นะ

โดยรวม The Croods มีครบทุกรส น่ารัก สนุก ลุ้น ซึ้ง ฮา เอาใจไปเลยครับ!

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง