การติดตามผลงานของใครสักคนยาวนานชั่วระยะเวลาหนึ่ง จะถือว่า เราเป็นแฟนของคนผู้นั้นมั้ย? อาจจะใช่ก็ได้ แต่อย่างน้อย เราน่าจะพอมองเห็นเอกลักษณ์และลายเซ็นในชิ้นงานของใครคนนั้น อย่างเช่น งานแอนิเมชันของผู้กำกับชาวญี่ปุ่นคนนี้ ที่เราได้รู้จักตั้งแต่วันที่เขายังไม่โด่งดัง(เท่านี้) จนวันนึง เขากลายเป็นคนที่มีสาวก แม้ตัวเขาเองจะบอกว่า ผมเป็นคนธรรมดา ไม่ใช่เทพ วันนี้ เขามีผลงานล่าสุดอย่าง ‘Suzume’ ชื่อไทย ‘การผนึกประตูของซุซุเมะ’ ที่กำลังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์
พูดถึง มาโกโตะ ชินไค หลายคนรู้จักเขาในฐานะผู้สร้าง-ผู้กำกับภาพยนตร์อนิเมะชื่อดังอย่าง ‘หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ Your Name’ และ ‘ฤดูฝัน ฉันมีเธอ Weathering with You’ แต่หลายคนก็อาจรู้จักเขามาตั้งแต่ ‘Voices of a Distant Star’, ‘5 Centimeters per Second’ รวมทั้ง ‘The Garden of Words ยามสายฝนโปรยปราย’ ซึ่งต้องบอกว่า ทุกเรื่องล้วนเต็มเปี่ยมด้วยงานภาพอันสวยงามและวิชวลอันอลังการ
และมองเห็นความเปลี่ยนแปลงจากงานชิ้นแรกที่แตกต่างไปในงานชิ้นปัจจุบัน
เรื่องย่อหนัง ‘Suzume no tojimari’
ซุซุเมะ (พากย์เสียงโดย Nanoka Hara) สาวน้อยวัย 17 ปีคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในเมืองอันสุขสงบในภูมิภาคคิวชู เธอสูญเสียแม่ไปตั้งแต่ยังเล็ก แต่ยังคงฝันถึงแม่เสมอมา เธออาศัยอยู่กับน้าสาวชื่อ ทามากิ (พากย์เสียงโดย Eri Fukatsu) ที่ไม่ยอมมีแฟนสักที สิ่งที่เหลือไว้ต่างหน้าแม่ เป็นเก้าอี้เด็กตัวเก่าที่เหลือเพียง 3 ขาตัวหนึ่งเท่านั้น
แล้ววันหนึ่ง ระหว่างที่เธอขี่จักรยานไปโรงเรียน ก็บังเอิญได้พบกับ โซตะ (พากย์เสียงโดย Hokuto Matsumura) ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาผมยาวประบ่าที่มาถามหาประตู และเมื่อเธอตามเขาไปก็กลับได้พบกับประตูเก่าบานหนึ่งกลางซากปรักหักพัง ซุซุเมะเผลอเปิดประตูบานนั้น ที่มันส่งผลให้ประตูบานอื่นก็เปิดออกเช่นกัน และส่งผลให้เกิดเหตุร้ายแรงไปทั่วทั้งญี่ปุ่น
และเพื่อแก้ไขเหตุการณ์ดังกล่าว ซุซุเมะจำเป็นต้องเดินทางออกค้นหาประตูบานอื่น เพื่อปิดมันให้สนิทก่อนที่จะเกิดความเสียหายไปมากกว่านี้
รีวิวหนัง ‘การผนึกประตูของซุซุเมะ’
ผลของการที่โลกต้องเผชิญหน้ากับภาวะโรคโควิดระบาด ชาวโลกจึงได้พบกับแอนิเมชันเรื่องใหม่จาก อ.ชินไค ที่เล่าเรื่องราวแฟนตาซีเหนือจินตนาการอันเกี่ยวพันกับโลกแห่งความจริง ที่คนญี่ปุ่นน่าจะเข้าใจมันได้อย่างถ่องแท้สุดๆ แม้ตัวอย่างจะบอกเราว่ามันเกี่ยวกับประตูที่ถูกเปิดขึ้นทั่วญี่ปุ่น แต่ความจริงแล้ว หนังมันบอกเล่าถึงเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และชาวอาทิตย์อุทัยคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี
หนังหยิบเหตุการณ์พวกนั้นมาบอกเล่าแก่เราด้วยจินตนาการเชิงแฟนตาซี แม้คนดูจะรู้แหละว่า แท้จริงแล้ว มันเกิดจากอะไร แต่พอไปอยู่ในหนังของ อ.ชินไค เราแทบจะลืมความเป็นจริงเชื่อไป และพฤติกรรมของตัวละครหลักในเรื่องก็ส่งผลต่อเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านั้น
นั่งดูไปก็จะรู้สึกได้เลยว่า นี่มันคือหนังที่เล่าเรื่องในลักษณะการผจญภัยแนวโร้ดมูฟวี่นี่นา เพราะตัวละครเอกอย่างซุซุเมะ จะต้องออกเดินทางตามหาประตูทั่วญี่ปุ่นเพื่อปิดมัน ขณะเดียวกันมันก็เป็นหนังสไตล์ Coming-of-age ที่ให้กำลังใจคนที่มีแผลใจและไม่อาจมูฟออนไปจากมันได้สักทีด้วยเช่นกัน
นอกจากหนังจะเล่าถึงเหตุการณ์ที่คนญี่ปุ่นรู้ซึ้งและต้องสะเทือนใจแน่ๆ อยู่แล้ว หนังก็ยังบอกเล่าถึงปมครอบครัวที่ติดอยู่ในใจของตัวละคร เด็กสาวคนหนึ่งที่เติบโตมาภายใต้การดูแลของน้าสาว แต่ยังคงเฝ้าฝันถึงแม่ตลอดมา ทุกอย่างเกาะเกี่ยวกับเรื่องอีกด้าน ภารกิจของการค้นหาและปิดประตูเพื่อหยุดการคุกคามทำลายโลกของปีศาจหนอนแห่งดินแดนนิรันดร์
นอกจากนี้ บางส่วนของหนังจะเล่าถึงสถานที่ที่ถูกทิ้งร้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้กำกับเล็งเห็นจากการสังเกตบ้านเมืองตัวเอง คนย้ายบ้านไปอยู่ที่ใหม่ เมืองและกิจการต้องกลายเป็นพื้นที่ร้างไป ทุกที่เหล่านั้นล้วนมีความทรงจำ ซึ่งหนึ่งก็ได้ใส่มุมนี้เอาไว้ด้วย
‘Suzume no Tojimari’ เป็นแอนิเมชันที่เล่าถึงการเติบโตของหนุ่มสาวผ่านความเจ็บปวด ไม่ว่าจะกับครอบครัวหรือคนรัก ผสมผสานกับเหตุการณ์อันเลวร้ายที่เกี่ยวเนื่องกับปีศาจและประตู แถมหนังยังวางนัยยะของชีวิตและความทรงจำ ที่แทรกซึมอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง
เหมือนหนังตั้งใจจะบอกให้ทุกคนเอาอย่างซุซุเมะ ไม่ว่าชีวิตจะโซซัดโซเซขนาดไหน เผชิญหน้ากับอุปสรรคยากลำบากเพียงใด แต่จงมุ่งมั่น ไม่ย่อท้อ ทำต่อในสิ่งที่เชื่อว่าดีและถูกต้อง สักวัน มันจะต้องสำเร็จเห็นผลอย่างแน่นอน
ในหนังเรื่องนี้ มีตัวละครที่สร้างภาพจำอยู่ 2-3 สิ่ง หนึ่งในนั้นคงเป็น เก้าอี้ 3 ขา สีเหลือง ที่เดินได้วิ่งได้ตัวนั้นนั่นแหละ อีกหนึ่ง คือ เจ้าแมวน้อยตาโต มันแทบจะปรากฏอยู่ในทุกซีนและมีส่วนเกี่ยวพันกับการดำเนินไปของเรื่องราว แต่ไม่อาจบอกเล่าอะไรได้ (เดี๋ยวมันจะเป็นการสปอยล์)
เช่นเดียวกับ หนังของ อ.ชินไค ทุกเรื่องที่ผ่านมา สิ่งที่ยังคงโดดเด่นเสมอ คือ งานภาพที่สวยและสะกดใจ ไม่ว่ามันจะเป็นการวาดมือหรือใช้เทคนิคคอมพิวเตอร์ เป็นองค์ประกอบที่เห็นได้แจ่มชัดและเตะตาสุดๆ เหมือนที่เคยมา นอกเหนือจากนั้น มันก็ยังคงเต็มไปด้วยเพลงประกอบมากมาย ไม่ใช่แค่ 2 เพลงโปรโมตสุดไพเราะที่ปล่อยออกมาให้ฟังกัน แถมบางเพลงนี่ สาวกจิบลิน่าจะร้องอ๋อกันทุกคน แต่บางเพลงก็อาจต้องใช้ความเป็นแฟนพันธุ์แท้เพลงเก่าญี่ปุ่นหน่อยถึงจะตื่นตาไปกับมันได้
นอกเหนือจากมุกเล็กมุกน้อยที่ทำให้เราหัวเราะคิกคัก ความน่ารักของเจ้าเหมียวตาโตสีขาวที่พายิ้มตาม เรื่องราวภารกิจของสองคาแรกเตอร์หลักที่เราต่างเอาใจช่วยให้สำเร็จ หรือแม้กระทั่งเรื่องภาพสวย เพลงเพราะ แต่มันก็ยังไม่พอ หนังยังพาเราน้ำตาไหลสะเทือนใจกับเรื่องการเติบโตของตัวละครอีก
ปิดท้ายด้วยเพลงเพราะๆ ที่ชวนให้นั่งดูอยู่จนตัวอักษรสุดท้าย
รายละเอียดเกี่ยวกับหนังแอนิเมชัน
ชื่อภาพยนตร์ | Suzume / การผนึกประตูของซุซุเมะ / すずめの戸締まり / Suzume no Tojimari |
กำกับ | Makoto Shinkai |
เขียนบท | Makoto Shinkai |
พากย์ญี่ปุ่น | Nanoka Hara, Hokuto Matsumura, Eri Fukatsu, Kôshirô Matsumoto, Shota Sometani, Kana Hanazawa, Ryunosuke Kamiki |
พากย์ไทย | มิวสิค แพรวา สุธรรมพงษ์, ภาคภูมิ วันทอง, นิรมล กิจภิญโญชัย, ประภัฒน์ สินธพวรกุล, นพวรรณ เหมะบุตร |
แนว/ประเภท | แอนิเมชัน, แอ็คชัน, ผจญภัย, แฟนตาซี |
เรท | |
ความยาว | 122 นาที |
ปี | 2022 |
สัญชาติ | ญี่ปุ่น |
เข้าฉายในไทย | 13 เมษายน 2023 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | Aniplex, CoMix Wave Films, East Japan Marketing & Communications Inc., Kadokawa, Toho, Encore Films, ภาพยนตร์ วอเนอร์ บราเดอร์ส ฟาร์อีส อินคอโปเรชั่น |
คะแนนรีวิวหนัง การผนึกประตูของซุซุเมะ
พล็อตและบท - 8.6
การพากย์ - 8.6
การดำเนินเรื่อง - 8.6
เพลงและดนตรีประกอบ - 8.6
งานภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 9.5
8.8
Suzume no Tojimari
นอกเหนือจากมุกเล็กมุกน้อยที่ทำให้เราหัวเราะคิกคัก ความน่ารักของเจ้าเหมียวตาโตสีขาวที่พายิ้มตาม เรื่องราวภารกิจของสองคาแรกเตอร์หลักที่เราต่างเอาใจช่วยให้สำเร็จ นอกนั้นก็เป็นภาพสวย เพลงเพราะ เท่านั้นไม่พอ หนังยังพาเราน้ำตาไหลสะเทือนใจกับเรื่องการเติบโตของตัวละครอีก ปิดท้ายด้วยเพลงเพราะๆ ที่ชวนให้นั่งดูอยู่จนตัวอักษรสุดท้าย