ปลายปี 2559 นี่รู้สึกได้เลยว่าหนังเข้าไทยมาให้ตามดูเยอะมากมาย เรียกได้ว่ามีหนังดูเกือบทุกวัน เหมือนกับอัดอั้นมาตลอดทั้งปี หลั่งไหลมาให้ดูกันในช่วงนี้นี่เอง วันอาทิตย์ก็ไม่เว้นครับ ออกจากบ้านมาดูหนังแอนิเมชั่นอีกสักเรื่อง ‘Sing’ ชื่อหนังสั้นมาก สั้นมากจริงๆ
หนังเรื่องนี้มีชื่อไทยจำง่ายๆ ว่า “ร้องจริง เสียงจริง” เรื่องราวที่เกี่ยวกับการยื้อยุดไม่ให้โรงละครเก่าต้องล้มหายตายจาก จนโคอาล่าเจ้าของโรงละครต้องจัดการประกวดร้องเพลง เพื่อหวังฟื้นฟูให้กิจการกลับมาสดใสอีกครั้ง ผลงานชิ้นใหม่จากสตูดิโอ Illumination Entertainment เจ้าของเดียวกับที่สร้างเหล่า ‘Minions’ จนโด่งดัง
แถมหนังยังเข้าชิง 2 รางวัลลูกโลกทองคำอีกด้วยนะ
เรื่องย่อหนัง ‘Sing’
ในเมืองที่ไม่มีมนุษย์ มีแต่สิงสาราสัตว์ที่อาศัยอยู่ร่วมกันและทำอะไรได้อย่างกับมนุษย์ มีโรงละครแห่งหนึ่งที่อยู่มาเนิ่นนานตั้งแต่วันที่เจ้าโคอาล่า บัสเตอร์ มูน (Matthew McConaughey จาก ‘Dallas Buyers Club’) ยังเป็นเด็กน้อย แต่ในวันนี้ โรงละครมูน เธียร์เตอร์ กำลังอยู่ในช่วงตกต่ำเพราะละครที่สร้างมาแต่ละเรื่องไม่เคยทำเงินเลย จนมูนคิดว่าต้องทำอะไรใหม่ๆ เพื่อยื้อยุดฉุดมูน เธียร์เตอร์ที่พ่อของเขาสร้างไว้ให้กลับมาเฟื่องฟูอีกครา
แต่ไอเดียก็ออกมาเป็นการประกวดร้องเพลง
และด้วยความที่ลูกจ้างของเขามีแต่ยายกิ้งก่าชราตัวหนึ่ง จึงทำให้เงินรางวัลจาก $1,000 กลายเป็น $100,000 และส่งผลให้มีสัตว์ต่างๆ มากมายมารอเข้าแถวออดิชั่นอย่างยาวเป็นกิโล
แล้วเหล่านักร้องสมัครเล่นเสียงดีก็ได้มีเวทีโชว์เสียงของตัวเอง แต่ละตัวต่างมีคาแรคเตอร์ของตัวเองทั้งดีและชั่ว ไม่ว่าจะเป็น ไมค์ (Seth MacFarlane) หนูขาวตัวเล็กที่มีทั้งลีลาเป่าแซกและเสียงร้องนุ่มหู ทว่านิสัยร้ายเก่งทางต้มตุ๋น, มีนา (Tori Kelly) ช้างสาวเสียงดีขี้อาย กลัว และโคตรไม่มั่นใจ, โรสิตา (Reese Witherspoon) หมูแม่บ้านที่ต้องเลี้ยงลูกถึง 25 ตัวแต่ข้างในรักในการร้องเพลง, จอห์นนี่ (Taron Egerton) กอริลลาหนุ่มที่มีครอบครัวเป็นแก๊งโจรผู้ไม่เคยอยากจะเป็นโจรเลยสักนิด
และแอช (Scarlett Johansson) เธอเป็นเม่นพังค์ร็อกที่ได้รับโอกาสให้โชว์เดี่ยวเพราะเธอมีของมากกว่าจะอยู่ใต้ร่มเงาคนอื่น
รีวิวหนัง ‘ร้องจริง เสียงจริง’
คงจะเห็นว่าแอนิเมชั่นเรื่องนี้เต็มไปด้วยดารานักแสดงที่คุ้นชื่อมากมาย แต่พวกเขาได้ได้ออกมาให้เราเห็นหน้าหรอก มีให้รู้สึกได้แต่เสียงเท่านั้น เรื่องราวก็ดูเหมือนมีกลิ่น The Voice นิดๆ แต่สำหรับคนที่รักเสียงเพลง ยังไงมันก็ยังชวนให้อยากดูได้อยู่
ดูได้เพลิน ประสาหนังครอบครัว
ช่วงเริ่มต้นของ ‘ร้องจริง เสียงจริง’ เหมือนจะเป็นช่วงเวลาแนะนำตัว แนะนำให้รู้จักกับ บัสเตอร์ มูน เจ้าของโรงละครที่ตกต่ำผู้มองโลกในแง่ดีและหวังว่ารักษามันไว้ ก่อนจะพาเราไปรู้จักกับตัวละครหลักต่างๆ ทีละตัว
ยอมรับว่า เสียงหัวเราะของคนรอบข้างทำให้ผมหวั่นว่านี่ผมจะเป็นคนส่วนน้อยหรือไรที่แทบจะไม่ขำไปกับมุกของหนังแอนิเมชั่นเรื่องนี้ สำหรับผมมันเป็นหนังที่ดูได้เพลินๆ
ไม่มีอะไรชวนมีอารมณ์ร่วมได้มากเท่าที่ควร
หนังเชิญชวนให้รู้จักกับเรื่องราวเบื้องหลังของพวกเขา ได้เห็นถึงวิถีชีวิตที่แตกต่างกันของแต่ละตัวละคร มองดูเหมือนจะเล่าถึงเรื่องราวหลายอย่างจนเกินจะโฟกัสอะไรสักอย่างให้มากพอ ขณะที่มุกตลกที่ใส่เข้ามานั่น ก็มักจะออกไปในทางแป้กมากกว่าจะฮา จะมีบ้างบางช็อตที่มีความน่ารักแทรกๆ เข้ามาเป็นพักๆ
ถ้าจะมองไปถึงเพลงที่หยิบจับใส่เข้ามาในหนังถึง 85 เพลงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มันมากมายก็จริง นับกันไม่หวาดไหว ทว่าก็เหมือนตัดใส่เข้ามาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ไม่ทันจะได้อินก็ผ่านไปเสียแล้ว
ช่วงท้ายตีตื้น เวทีมินิคอนเสิร์ตดีดีนี่เอง…
แต่ก็ใช่ว่า ‘ร้องจริง เสียงจริง’ จะไม่มีอะไรที่น่าสนใจ เพราะในช่วงครึ่งค่อนไปทางท้ายของหนัง จะเป็นช่วงเวลาที่หนังตีตื้นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด กับฉากการแสดงโชว์ของตัวละครแต่ละตัวที่ผ่านออดิชั่นมาบ้าง หรือได้รับโอกาสได้บ้าง มันเป็นช่วงที่ดูดีที่สุดในหนังจริงๆ
เพราะการทำโชว์ของเขาดูน่าสนใจดี แต่ละโชว์จะมีอีกฉากหนึ่งประกบไปด้วยเสมอ และจะมีผลที่ตามมาแทรกไว้ด้วยเสมอ
สิ่งที่ปูเอาไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องได้ถูกนำกลับมาใช้อีกครั้งในช่วงเวลานี้
ถ้าถามว่าอินสุดกับเรื่องราวของตัวละครตัวไหน คำตอบมันกลับกลายเป็นเรื่องราวดรามาในครอบครัวกอริลล่าเสียอย่างนั้น จอห์นนี่เป็นลูกที่ไม่ได้อย่างที่พ่อหมายมั่นปั้นมือ พ่ออยากจะให้ลูกเติบโตขึ้นมาในฐานะลูกของหัวหน้าแก๊ง แต่ทว่าลูกกลับรักในการร้องเพลง และมักจะหนีมาออดิชั่นและซ้อมอยู่บ่อยๆ จนภารกิจมิจฉาชีพของแก๊งพลอยมีอันเสียหายไปด้วย แต่ยังไง “พ่อก็คือพ่อ” …อยู่ดี
ช็อตนี้ทำเอาผมน้ำตาซึมได้เลย
หนังโชว์ความครีเอตในการคิดมุกหนังได้ดี โดยเฉพาะการจัดการของแม่หมูระหว่างที่ตัวเองออกมาซ้อมร้อง แต่แค่มันดูไม่เข้ากับบุคลิกของตัวละครและมันดูไม่สามารถไปใช้อธิบายต่อได้ ความครีเอตที่น่าสนใจที่สุดกลับเป็นการเอาปลาหมึกมาสร้างสรรค์เป็นเวที นั่นแหละ น่ารักมากที่สุดแล้ว
โดยรวมมันเป็นหนังที่ดูได้เพลินๆ กับครอบครัว ไม่เป็นพิษเป็นภัย แถมยังได้พลังของการทำตามฝัน การเลือกทางเดินที่รักและทำมันให้ดีที่สุด
ไม่ปล่อยทิ้งมันไว้กลางทาง
ชื่อภาพยนตร์: Sing / ร้องจริง เสียงจริง
ผู้กำกับภาพยนตร์: Christophe Lourdelet, Garth Jennings
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Garth Jennings
นักแสดงนำ: Matthew McConaughey, Reese Witherspoon, Seth MacFarlane, Scarlett Johansson, Taron Egerton, Jennifer Hudson, John C. Reilly
แนว/ประเภท: Animation, Comedy, Drama
ความยาว: 108 นาที
อัตราส่วนภาพ: 1.85 : 1
เรท: ไทย/ท, USA/PG
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 22 ธันวาคม 2559 (Sneak Preview 19-21 ธันวาคม 2559 )
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย/สตูดิโอ: Hammer & Tongs, Illumination Entertainment, Universal Pictures
ร้องจริง เสียงจริง
Sing - 7.4
7.4
Sing
ดูเป็นหนังแอนิเมชั่นที่ไม่ชวนให้ขำไปกับมุกต่างสักเท่าไหร่ ขณะที่รอบข้างดูจะสนุกกับหนังได้อยู่ ช่วงหลังของหนังมีเพลงเพราะอยู่เพียบ เรียกว่าตีตื้นขึ้นมาได้หน่อย มีบางช็อตที่เป็นดราม่าที่สร้างแรงกระเพื่อมในใจได้ดี เป็นแอนิเมชั่นที่ดูได้เพลินๆ