มีแอนิเมชันเรื่องหนึ่งที่นายแพทพลาดไม่ได้เข้าไปดูในโรงภาพยนตร์ และก็ติดอยู่ในใจเรื่อยมาว่าจะหาเปิดดูสักครั้ง แต่จนแล้วจนรอดก็ผ่านมาจนจะได้ชมแอนิเมชันเรื่องใหม่จาก Mamoru Hosoda อยู่ ถึงเพิ่งจะได้มาเปิดดู ผมกำลังหมายถึงเรื่องนี้ครับ ‘Mirai’ ชื่อไทย ‘มิไร มหัศจรรย์วันสองวัย’ ที่ตอนนี้มีฉายออนไลน์ให้ชมกันฟรีๆ ทาง Vipa.me นั่นไงล่ะครับ
เรื่องราวของครอบครัว องค์ประกอบเล็กๆ ของสังคม ที่มีพ่อ แม่ ลูก ความรักที่อบอวลอยู่ในบ้านหลังนั้น แต่ขณะเดียวกัน ความเปลี่ยนแปลงก็มักเกิดขึ้นเมื่อมีสมาชิกใหม่เข้ามาในบ้าน อาจเป็นบางคนที่รู้สึกว่าตนถูกแย่งความรักที่เคยได้รับไป เช่นเดียวกับเด็กน้อยในเรื่องนี้ แอนิเมชันที่เล่าเรื่องด้วยลีลาของแฟนตาซีได้จับจิตจับใจผู้ที่ได้ชม
ผ่านเวลามาเนิ่นนาน ในที่สุดก็ได้ดูเนอะ!
เรื่องย่อหนังแอนิเมชัน Mirai
คุนจัง (พากย์เสียงโดย Moka Kamishiraishi) คือเด็กชายวัย 4 ขวบที่เคยเป็นลูกคนเดียวของบ้าน แต่ในวันนี้ น้องสาวที่ยังเป็นเด็กทารกคือสมาชิกใหม่ที่กำลังย้ายมาเข้ามา มิไรจัง [หรือจะเรียกว่า มิราอิ ก็ได้ไม่ผิดนะ] (พากย์เสียงโดย Haru Kuroki) คือชื่อของน้องสาวของคุน การมาของเธอยังความเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงให้กับชีวิตของเขาอย่างมาก พ่อเป็นสถาปนิกฟรีแลนซ์ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองกลายมาเป็นพ่อบ้านและฝึกหัดเลี้ยงเด็ก ขณะที่แม่ก็เอาแต่อุ้มและดูแลเอาใจใส่มิไร ไม่เคยฟังเสียงเรียกร้องของคุนแม้แต่น้อย
ความด้อยค่าความสำคัญลงไป ทำให้คุนรู้สึกว่าตนถูกแย่งความรักและความสนใจ จากความดีใจที่ได้น้องสาวกลับกลายเป็นความอิจฉา แต่ทว่า วันหนึ่ง…
คุนก็ได้พบเหตุการณ์มหัศจรรย์ เมื่อสวนกลางบ้านที่มีต้องโอ๊คยืนต้นอยู่นั้น แปรสภาพไปกลายเป็นผืนป่าที่อยู่ในโดมยักษ์ ได้พบกับมิไร น้องสาวของเขาที่มาจากโลกอนาคต ไม่เท่านั้น เขายังได้พบทั้งยุกโกะ หมาน้อยที่กลายร่างเป็นคน พบคุณแม่ตอนยังเป็นเด็ก พบคุณทวดสมัยยังเป็นหนุ่ม
เหตุมหัศจรรย์ครั้งนี้จะสอนให้เขาได้รู้อะไรหลายอย่าง และเปลี่ยนแปลงให้เขากลายเป็นพี่ชายในแบบที่ควรเป็น
รีวิวหนังแอนิเมชัน มิไร มหัศจรรย์วันสองวัย
อีกหนึ่งงานดีๆ จากกผู้กำกับชาวญี่ปุ่น มาโมรุ โฮโซดะ หลังเคยให้สัมภาษณ์ถึงรูปแบบการเล่าในแอนิเมชันเรื่องต่างๆ ของเขา ที่จะมุ่งเน้นในสิ่งที่แตกต่างกันแต่ในเรื่องนี้ เขาหยิบเอากลิ่นไอมาจากเรื่องอื่นๆ เช่น หยิบความเป็นหนังเล่าเรื่องวัยรุ่นมาจาก ‘The Girl Who Leapt Through Time’ หยิบความเป็นหนังที่เล่าเรื่องครอบครัวมาจาก ‘Summer Wars’ หยิบความเป็นหนังที่เล่าเรื่องแม่มาจาก ‘Wolf Children’ และหยิบความเป็นหนังที่เล่าเรื่องพ่อมาจาก ‘The Boy and the Beast’ ทำให้เรื่องนี้อาจเป็นหนังแอนิเมชันที่โดนใจผู้คนมากที่สุด
หนังที่ใช้พล็อตเรื่องแนวแฟนตาซีมารับใช้เรื่องราวการเติมโตของเด็กชายคนหนึ่งที่เพิ่งจะมีน้องสาว
ความรักของพ่อแม่ที่ถูกน้องแย่งไป
อาจเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากที่สุดเรื่องหนึ่ง ของเด็กที่ยังไม่ประสีประสาอะไรมากนัก คุนจังรู้สึกดีใจเมื่อแรกที่มิไรน้องสาวเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้าน แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขาก็กลับพบว่า พ่อแม่ใช้เวลาในการดูแลน้องสาวมากมายเหลือเกิน ความรักความเอาใจใส่ที่เคยมีให้ตัวเองกลับหายไปหมด แม้เขาจะทำตัวเรียกร้องความสนใจสักเท่าใด ก็หาได้มันกลับคืนมาไม่
สุดท้าย ความรักจึงแปรเปลี่ยนเป็นความเกลียดชัง
หลายคนก็อาจรู้สึกแบบนั้น มีตัวเองมีน้อง เพราะความที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ของทารก ทำให้ต้องการการดูแลจากพ่อแม่มากเป็นพิเศษ และด้วยความเป็นเด็กก็เลยเข้าใจเพียงว่า ความรักที่เคยได้ถูกแย่งชิงไป และหนังใช้วิธีการแบบเหนือจริงมาช่วยอธิบายให้เด็กน้อยเข้าใจ
หนังค่อนข้างอธิบายให้เด็กชายคุนเข้าใจได้อย่างแยบยล เมื่อลานกลางบ้านที่มีต้นโอ๊คตั้งอยู่นั้นแปรเปลี่ยนเป็นพื้นที่อัศจรรย์ คุนจังได้พบคนในครอบครัวที่ไม่น่าจะพบได้ และคนพวกนั้นทำให้เขาได้มองเห็นในมุมมองของคนอื่น ทำให้ได้ล่วงรู้ในความเจ็บปวดแห่งการเติบโตของคนอื่นๆ ได้รู้ว่าแต่ละคนต่างก็เติบโตผ่านประสบการณ์ที่แตกต่างกัน
และมันได้ให้คำตอบที่สำคัญกับเขา
คนเราจะตั้งใจทำอะไรมากขึ้น เมื่อมองเห็นเป้าหมายที่ชัดเจน
หลายครั้ง คนเราอาจไม่เข้าใจว่า ทำไมถึงต้องยุ่งยากและพยายามทำอะไรสักอย่างด้วย อยู่เฉยๆ ไม่ต้องลำบาก ไม่ต้องเจ็บ ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ได้เหรอ? ทำให้เขาไม่รู้สึกว่าต้องพยายามอะไร บวกกับความกลัว ความไม่กล้า ทำให้เขาไม่ยอมลุกขึ้นเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาตัวเอง
แต่หนังเรื่องนี้ ลองพาให้คุนจังออกไปเจอผลลัพธ์ของการทุ่มเทบางสิ่งด้วยตัวเอง ทำให้เขาหันกลับมาทุ่มเทจนสำเร็จ โดยไม่ต้องมีใครมาออกคำสั่ง เร่งเร้า หรือคะยั้นคะยอเลย ถึงได้บอกไงครับว่า หนังใช้วิธีการอันแยบยล พาตัวละครไปเห็นผลลัพธ์ของความพยายาม ทำให้เขารู้มุ่งมั่นแล้วจะได้อะไร และทำมันได้ด้วยตัวเอง
แต่ในโลกแห่งความจริง แม้ใครหลายคนจะมองเห็นผลลัพธ์จากผู้อื่นแล้ว แต่ก็ใช่จะผลักดันให้พยายามเหมือนกันแฮะ
ทุกคนล้วนเคยผ่านความเจ็บปวด
ในช่วงท้าย เรื่องราวจะผ่านไปถึงชุมทางรถไฟ เป็นการเล่าที่น่าสนใจเพราะตัวละครคุนจังเองชื่นชอบของเล่นที่เป็นรถไฟเหลือเกิน เมื่อเขาต้องหลงทางอยู่ในสถานีที่ใหญ่มาก เขาได้พบกับรถไฟชนิดต่างๆ จึงสุดจะตื่นเต้นดีใจ แต่การหนีออกจากบ้านของเขาเป็นเหตุให้ต้องหลงทาง ขณะเดียวกัน มันก็ทำให้เขาได้พบเห็นเหตุหลายอย่างในอดีต
คุนจังจึงได้รับรู้ว่า ก่อนทุกคนจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ แต่ละคนเคยผ่านเหตุการณ์ในช่วงวัยเด็กที่สร้างความเจ็บปวดมาด้วยกันทั้งนั้น แม้แต่คนที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็ยังไม่วายเจอเรื่องราวที่สร้างรอยร้าวขึ้นในใจ แถมยังมีบางเรื่องราวที่เคยถูกพูดถึงไปก่อนหน้า แล้วหนังกลับมาเล่าเหตุนั้นอีกครั้ง ช่วงนี้เป็นช่วงที่เรียกน้ำตาให้ไหลออกมาอย่างไม่อาจกลั้น
อดีตเป็นร่องรอยทางที่เป็นต้นเหตุของปัจจุบัน และปัจจุบันก็เป็นตัวตั้งต้นที่ส่งผลถึงอนาคต ทำให้ดีในวันนี้ อนาคตย่อมจะดีกว่า แต่ในชีวิตจริง เราไม่มีคนในอนาคตมาบอกเล่าให้เราฟัง เราไม่อาจนั่งไทม์แมชชีนไปเห็นตัวเองในอนาคตหรือมองเห็นชีวิตของคนในครอบครัวเราได้หรอก เรามีแต่ทำวันนี้ให้ดีที่สุด…เท่านั้น
กลับบ้านเถอะนะ อย่าหลงทางอีกล่ะ!
รายละเอียดเกี่ยวกับแอนิเมชัน
ชื่อภาพยนตร์ | Mirai / มิไร มหัศจรรย์วันสองวัย |
ผู้กำกับ | Mamoru Hosoda |
ผู้เขียนบท | Mamoru Hosoda |
นักแสดง (พากย์) | Haru Kuroki, Kaede Hondo, Moka Kamishiraishi, Gen Hoshino, Yoshiko Miyazaki, Kumiko Asô |
แนว/ประเภท | Drama, Adventure, Animatinon |
เรท | PG |
ความยาว | 98 นาที |
ปี | 2018 |
ประเทศ | ญี่ปุ่น |
วันเข้าฉายในไทย | 23 สิงหาคม 2018 |
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย | Studio Chizu, Kadokawa, M Pictures, Vipa |
มิไร มหัศจรรย์วันสองวัย
พล็อตและบท - 8.8
การดำเนินเรื่อง - 9.4
การพากย์ - 8.6
งานภาพ - 9.2
เพลงและดนตรีประกอบ - 8.4
8.9
Mirai
แอนิเมชันที่น่าประทับใจยิ่งจากผลงานของ โฮโซดะ มาโมรุ เล่าเรื่องราวแนวครอบครัวของเด็กน้อยคุนจังที่เพิ่งได้น้องสาวคนใหม่ และรู้สึกเหมือนถูกแย่งความรักของพ่อแม่ไป แต่ได้เข้าไปสู่โลกอัศจรรย์ในสวนกลางบ้าน พบกับมิไรน้องสาวที่มาจากโลกอนาคต ภาพสวยสุดว้าว เรื่องราวที่ชวนอิน อดีต-ปัจจุบัน-อนาคตที่เกาะเกี่ยวไม่มีวันหลุด ไม่ว่าใครก็อินได้เพราะทุกคนล้วนผ่านวัยเด็ก ผ่านความเจ็บปวด และต่างมีครอบครัวของตนเอง