รีวิว Kubo and The Two Strings คูโบ้ และพิณมหัศจรรย์ | งามและดี

ในวันที่โลกชอบใจกับแอนิเมชั่นสไตล์ที่ใช้คอมพิวเตอร์ทำแบบล้วนๆ เคลื่อนไหวอย่างเนียนๆ ตามใจ ก็ยังมีคนบางกลุ่มที่ยังเลือกทำในสิ่งที่รักแถมยังพัฒนาให้มันยิ่งเมพขึ้นทุกวันๆ แม้ว่าโดยรวมแล้ว ตลาดของแอนิเมชั่นสไตล์นี้ยังไม่ขยายไปไหนสักเท่าไหร่เลยก็ตาม ผมกำลังพูดถึง สต็อปโมชั่น ครับ

ด้วยการทำงานที่ต้องใช้ความละเอียด ใจเย็น และใส่ใจ ทำให้ต้นทุนและเวลาของการทำภาพยนตร์แอนิเมชั่นประเภทนี้ค่อนข้างสูง คนที่ทำจึงน่าชื่นชมอย่างมาก โดยเฉพาะทีมงานของสตูดิโอ Laika ที่สร้างชิ้นงานดีๆ มากมายมาประดับวงการ เช่น ‘Coraline’, ‘ParaNorman’ และ ‘The Boxtrolls’ อย่างวันนี้ก็เป็นเรื่องนี้ ‘Kubo and The Two Strings’ ที่ผมเพิ่งจะได้ชมจบลงไป แล้วก็ได้เวลามาเล่ามาเหลาให้อ่านกันแล้วล่ะ

เริ่มกันเลยมะ

เรื่องย่อหนัง ‘Kubo and The Two Strings’

นี่คือเรื่องราวการผจญภัยของคูโบ้ (พากย์โดย Art Parkinson จาก ‘Game of Thrones’ และ ‘Dracula Untold’) เขาเป็นเด็กชายผู้เฉลียวฉลาดและมีจิตใจงดงาม ใช้ชีวิตเรียบง่ายกับแม่อยู่ในถ้ำใกล้ๆ กับเมืองริมทะเล ดำเนินชีวิตอยู่กับการแสดงเล่าเรื่องจากพิณและกระดาษ

แต่ชีวิตของคูโบ้ก็เหมือนจะมีสิ่งน่าเคลือบแคลงมาโดยตลอด เขาเกิดมาเป็นเด็กที่มีเพียงตาข้างเดียว มีพลังเวทย์ในการสร้างกระดาษให้มีชีวิตได้ตามปรารถนา และนับวันจะมีทวีความเก่งกล้ามากขึ้นเรื่อยๆ เขามีแม่ที่ร่างกายอ่อนแอ

เรื่องราวที่เขารับรู้มาเล่าขานเหมือนว่าจะยังไม่จบดี

แต่ชีวิตอันเงียบสงบของเขากำลังหดหายไป เมื่อวันหนึ่ง มีสองวิญญาณอาฆาตคอยตามรังควาน

ชีวิตที่เปลี่ยนแปลง ผลักให้คูโบ้ต้องออกผจญโลกกว้าง ร่วมเดินทางไปกับลิง (พากย์โดย Charlize Theron) และด้วง (พากย์โดย Matthew McConaughey ) เพื่อค้นหาสิ่งของ 3 ชิ้น นั่นคือ ดาบ เสื้อเกราะและหมวกนักรบ พร้อมกันนี้ คูโบ้ก็ต้องไขปริศนาที่เกี่ยวกับของพ่อของเขาไปด้วย

เขาจะต้องไปต่อกรกับเหล่าทวยเทพและอสุรกาย ไม่ว่าจะเป็น มูนคิง (พากย์โดย Ralph Fiennes) ผู้เต็มไปด้วยความอาฆาต และคู่แฝดปีศาจ (พากย์โดย Rooney Mara) เดินทางข้ามไปสู่บทลงเอยที่คาดไม่ถึง

รีวิวหนังแอนิเมชัน ‘คูโบ้ และพิณมหัศจรรย์’

การสร้างแอนิเมชั่นในแบบสต็อปโมชั่นนั่นค่อยๆ พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ตามเทคโนโลยีของมนุษย์ที่พัฒนาขึ้น จากวันที่ปั้นดินน้ำมันและค่อยๆ ขยับที่ละนิด แค่นั้นก็ต้องใช้ความอดทนอุตสาหะมากแล้ว

มาวันนี้ พวกเขาสามารถจะปรินต์สามมิติสร้างชิ้นงานตัวละครได้เป็นนับพันชิ้น สร้างตัวละครขนาดใหญ่ในขนาดและสัดส่วนเท่าที่ต้องการ พร้อมกับการนำเทคนิคดิจิตอลมาช่วยให้ภาพดูสวยงามเหมาะเจาะยิ่งขึ้น

การเคลื่อนไหวของตัวละครดูเนียนตามากขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะทีเดียว ยิ่งเมื่อได้เห็นเบี้องหลังการทำงานยิ่งอึ้งและทึ่งในความพยายามและความสามารถของพวกเขา เพราะไม่ใช่แค่หนังที่ถ่ายทำด้วยการถ่ายภาพทีละช็อตของตัวละครที่ค่อยๆ ขยับทีละเฟรม แต่มันมีฉากแอ็คชั่นที่หวือหวาน่าตื่นเต้นไม่ต่างกับหนังที่ใช้คนแสดงจริงๆ

เมื่อมองไปถึงเรื่องราวในหนัง ก็รู้สึกทึ่งที่ ‘คูโบ้ และพิณมหัศจรรย์’ มีความเป็นญี่ปุ่นอยู่สูงมาก ทั้งเรื่องราวและบรรยากาศ แต่ทีมงานสร้างกลับเป็นฝรั่งทั้งหมด มีนักพากย์บางส่วนที่เป็นคนญี่ปุ่น แสดงว่าน่าจะทำการบ้านกันมาดีมากๆ

ตัวละครที่ต้องออกตามหาของสามอย่างดูคล้ายๆ เกมสมัยก่อน เด็กผู้ชายที่ออกผจญภัยบนโลกที่มีแต่ความชั่วร้ายคอยรังควาน แต่ก็ยังดีที่มีเพื่อนร่วมทางอย่างด้วงและลิงคอยช่วยเหลือ หนังแฝงปรัชญาในแบบตะวันออก และเดินเรื่องอย่างแยบยลพอประมาณ ค่อยๆ เปิดเผยบางสิ่งออกมาให้เราเซอร์ไพรส์ มีช่วงฉากแอ็คชั่นที่สนุกตื่นเต้นราวกับดูหนังแอ็คชั่นคนแสดงอยู่

เริ่มต้นเรื่องอาจจะดูว่าพื้นๆ แต่เมื่อเรื่องราวดำเนินไปจะค่อยๆ พบว่ามันพีคขึ้นเรื่อยๆ พิณมหัศจรรย์ของหนุ่มน้อยคูโบ้นั้นแสนมหัศจรรย์ของจริง เพราะคูโบ้สามารถจะดีดพิณเพื่อควบคุมกระดาษทั้งหลายให้ก่อร่างกลายเป็นทุกสิ่งที่ต้องการ

และคุณต้องไปดูด้วยตาตัวเองเพื่อจะได้รู้ว่าทำไมหนังมันถึงได้ชื่อ ‘คูโบ้ และพิณมหัศจรรย์’

ชื่อภาพยนตร์: Kubo and The Two Strings / คูโบ้ และพิณมหัศจรรย์
ผู้กำกับภาพยนตร์: Travis Knight
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Marc Haimes (screenplay), Chris Butler (screenplay)
นักแสดงนำ(พากย์เสียง): Charlize Theron, Art Parkinson, Matthew McConaughey, Ralph Fiennes, George Takei
แนว/ประเภท: Animation, Adventure, Family, Fantasy
ความยาว: 101 นาที
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/ , USA/PG
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 8 กันยายน 2559 (Sneak Preview 1-7 กันยายน 2559)
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย/สตูดิโอ: Laika Entertainment