รีวิวอะนิเมะซีรีส์ Kaiju No. 8 | สู้กับไคจู แต่พระเอกก็เป็นไคจู ลุ้นมันมาก!

ไคจู คือสัตว์ประหลาดยักษ์ในความคิดของคนญี่ปุ่น พวกเขาคงคิดค้นขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์ที่ชอบทะเลาะกันเอง ได้กลับมาสมัครสมานสามัคคีเพื่อต่อสู้และสังหาร สำหรับอะนิเมะเรื่องนี้ เล่าเรื่องของกองกำลังป้องกันตนเองที่พัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาเพื่อให้รับมือกับเหล่าไคจูที่เข้ามาจู่โจมมนุษย์ไม่หยุดหย่อน โดยให้พระเอกมีความขี้แพ้แต่ไม่ย่อท้อ ก้าวขึ้นเป็นส่วนหนึ่งได้แต่เขาต้องกลายเป็นไคจูซะเอง ใช่แล้ว! นายแพทกำลังพูดถึง ‘Kaiju No. 8 หรือชื่อไทย ‘ไคจูหมายเลขแปด’ ยังไงล่ะ

ความเห็นส่วนตัวของนายแพท

อะนิเมะฉายทางทีวีแต่เราได้ดูทางเน็ตฟลิกซ์เรื่องนี้ มีทั้งหมด 12 ตอนในซีซันแรก เล่าถึงไคจูที่ทะยอยบุกโลกไม่หยุดหย่อน และมนุษย์ก็เก่งพอตัวในการหาทางรับมือ เดินเรื่องได้สนุกเลย โดยเฉพาะฉากการต่อสู้ที่พาลุ้นว่า กองกำลังป้องกันตนเอง หน่วยที่สาม จะทำสำเร็จหรือไม่ และพวกเขาจะรอดชีวิตพ้นความตายไปหรือเปล่า เรื่องราวของพระเอกที่อายุเริ่มมากแต่ก็ยังพยายามจะก้าวไปยืนเคียงหญิงสาวหัวหน้าหน่วยให้ได้ เป็นแรงบันดาลใจชั้นดีให้คนดูที่รู้สึกว่าตนไร้ตัวตนให้มุ่งมั่นไม่ย่อท้อและมองหาความโดดเด่นในตนเอง

เรื่องเล่าที่มีทั้งฉากแอ็คชันสุดเร้าใจ เรื่องความลับที่ตัวเอกต้องปิดไว้ กับเรื่องเซอร์ไพรส์ที่มาแบบไม่คาดคิด

เรื่องย่อซีรีส์ ‘Kaiju No. 8’

ในวันเก่า ฮิบิโนะ คาฟก้า (พากย์เสียงโดย Masaya Fukunishi) และ อาชิโระ มินะ (พากย์เสียงโดย Asami Seto) เติบโตมาด้วยกัน แต่ต่างก็ใฝ่ฝันจะได้เป็นเจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันตนเอง แต่ในปัจจุบัน มินะ ในวัย 27 ปี ได้ก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าหน่วยที่สาม มีชื่อเสียงในด้านความเก่งกาจด้วยฝีมือและพลังต่อสู้อันสุดยอด ขณะที่คาฟก้าในวัย 32 ปี ยังคงพยายามสมัครและสอบให้ผ่าน แต่ก็ยังไม่เคยทำสำเร็จ ตอนนี้ เขายังคงเป็นพนักงานเก็บแยกชิ้นส่วนในบริษัท มอนสเตอร์ สวีปเปอร์ ปีนี้ คงเป็นครั้งสุดท้ายของเขาแล้ว

เขาได้พบกับ อิจิกาวะ เรโน่ (พากย์เสียงโดย Wataru Kato) หนุ่มรุ่นน้องที่เพิ่งเข้ามาเป็นเด็กใหม่ในทีม ซึ่งในที่สุด เขาและเรโน่ก็สมัครเข้าเป็นเจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันด้วยกัน

และนั่นก็ทำให้พวกเขาได้เจอกับ ชิโนะมิยะ คิโครุ (พากย์เสียงโดย Fairouz Ai) ลูกสาวของท่านผู้บัญชาการที่มีทั้งฝีมือและพลัง เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ และได้กลิ่นไคจูในร่างคาฟก้า แล้วเหตุการณ์จะเป็นยังไงต่อล่ะนี่

รีวิวแอนิเมชันซีรีส์ ‘ไคจูหมายเลข 8’

ในโลกของแอนิเมชันซีรีส์เรื่องนี้ เล่าถึงญี่ปุ่นที่มีไคจูมาเยี่ยมเยือนและทำความเสียหายอย่างยาวนาน และหน้าที่ในการกำจัดเหล่าไคจูทั้งหลายก็ตกเป็นของกองกำลังป้องกันตนเอง และมินะก็เป็นหัวหน้าหน่วยที่สาม ซึ่งเป็นหน่วยที่คาฟก้าตั้งใจจะเข้าร่วมให้ได้ เพื่อจะไปอยู่เคียงข้างมินะที่เขาชอบมานาน

โอกาสสุดท้ายของชายผู้ต้องการจะเป็นกองกำลังป้องกันตนเอง

อันที่จริง มินะเป็นคนที่มีแววจะได้เป็นผู้บัญชาการคนต่อไป เธอคือหญิงสาวที่มากับเสือเบงกอลเผือก ขณะที่พระเอกของเรายังเป็นแค่หน่วยเก็บกวาดซากไคจู ทั้งยังเป็นไอ้ขี้แพ้ที่น่าสมเพช แต่ก็ไม่หยุดหวังที่จะเป็นกองกำลังป้อนกันตนเองในสักวัน

ก่อนที่จะได้พบกับ หนุ่มผมขาวรุ่นน้องอย่าง อิจิกาวะ เรโน่ ที่เพิ่งมาฝึกงาน ได้เผชิญหน้ากับไคจู ที่มีทั้งตัวหลักตัวรองคอยสลับหน้ากันมาทำร้ายมนุษย์ แต่แล้ว จู่ๆ เขาก็เกิดรวมร่างกับไคจูตัวเล็กตัวหนึ่งเข้า จนทำให้เขากลายเป็นไคจูที่มีพลังล้นเหลือ ใครก็ต่างพากันกลัว แต่ความที่เขาสามารถควบคุมการแปลงร่างกลับไปกลับมาได้ เขาจึงใช้มันเพื่อฆ่าไคจูตัวอื่นๆ ในที่สุด เขาก็กลายเป็นไคจูหมายเลขแปด แถมยังเป็นเป้าหมายของกองกำลังป้องกันตนเองซะอีก

เอาจริงๆ เรื่องนี้มีตัวละครเยอะมากทีเดียว ในกระบวนตัวละครเพศหญิง ก็จะมี ชิโนมิยะ คิโครุ ลูกสาวของผู้บัญชาการที่สวมไพรเวทสูท มีพลังเหลือเชื่อ เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ แถมยังจมูกดีได้กลิ่นไคจูอีกต่างหาก เป็นคนที่ต้องการความสมบูรณ์แบบ แต่ก็ไม่ได้รับความอบอุ่นจากพ่อเท่าที่ควรจะเป็น เธอรู้สึกว่าพ่อเข้มงวด แต่ก็หวังจะทำให้ทำให้พ่อภูมิใจ

คนไร้ฝัน ที่มีหญิงสาวเป็นแรงบันดาลใจ

ในซีซันแรกนี้มี โซชิโร่ โฮชินะ (พากย์เสียงโดย Kengo Kawanishi) หนุ่มที่เป็นรองหัวหน้าหน่วยที่สาม มีพลังรองลงมาจากมินะซึ่งแน่นอนว่าเก่งกว่าคาฟก้าอย่างมาก เช่นเดียวกับเพื่อนรุ่นน้องอย่าง อิจิคาวะ เรโน่ ที่ก้าวหน้าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ทั้งสองคนจึงเป็นตัวกระตุ้นชั้นดีที่ทำให้คาฟก้าต้องเร่งพัฒนาตัวเอง

คาฟก้าเหมือนเป็นตัวแทนของคนที่อยู่อย่างไร้ความฝัน มีเพียงมินะเท่านั้นที่เป็นแรงบันดาลใจ เขาค่อยๆ เติบโตอย่างไม่ย่อท้อแม้จะถูกดูแคลนอยู่บ้างก็ตาม เริ่มต้นด้วยการเป็นนักเรียนเตรียมทหาร เขากลายเป็นดาวตลกของรองหัวหน้าหน่วย และกลายเป็นลุงของเพื่อนร่วมรุ่น แต่ก็ต้องเก็บความลับเรื่องที่เขาเป็นไคจูหมายเลข 8 เอาไว้กับตัว เพราะมันจะกลายเป็นโทษร้ายแรงมาก ประมาณว่าอาจถูกจับเอาไปทดลองหรือฆ่าทิ้งกันเลยทีเดียว

แม้จะได้เพื่อนใหม่เป็นเจ้าหน้าที่หลายคนที่เข้ามาพร้อมกัน แต่ต้องเริ่มด้วยการเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกหัด ใช้จุดเด่นของตัวเองให้เป็นประโยชน์ เพราะความที่เคยผ่าและวิเคราะห์จุดอ่อนของซากไคจูมาก่อน จึงรู้จักอวัยวะภายในเป็นอย่างดี เขาจึงคอยบอกเพื่อนร่วมหน่วยให้รู้จุดอ่อนของไคจูแต่ละตัว กลายเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้ภารกิจลุล่วง จนได้เลื่อนขั้นขึ้นมาเทียบเท่ากับคนอื่น

ยังไม่มีการเฉลยว่า ไคจูพวกนี้ออกมาจากไหน ออกมาได้อย่างไร มีแต่การตั้งรับของเหล่ามนุษย์ กับเมืองที่เสียหายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันก็เริ่มเฉลยเรื่องลับที่ปิดบังมาตลอด

จุดเด่น จุดน่าสนใจของทีวีอะนิเมะเรื่องนี้

เรื่องราวในนั้น มันให้กำลังใจคนทุกคนที่บากบั่นมายาวนานแต่ไม่เคยสำเร็จ ให้ยังคงสู้ต่อ เมื่อมองเห็นว่าคาฟก้าที่อายุเริ่มจะเกินวัยแต่ก็ยังมุ่งมั่นจะเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยที่สามให้ได้ อีกทั้งยังบอกให้เรามองดูจุดเด่นในตัว ที่อาจจะไม่โดดเด่นแต่เป็นกองหนุนสำคัญที่ทีมจะขาดไม่ได้ อันจะทำให้เราไม่ตกขบวน สามารถไปต่อและได้ใจเพื่อนร่วมทีม

เราได้เห็นความครีเอตสร้างไคจูในรูปแบบต่างๆ ที่ไม่เคยจะขึ้นมาแบบเดี่ยวๆ มีไคจูหลัก ไคจูรอง แถมตายไม่ง่าย มีร่างสองร่างสามที่น่าหวาดหวั่นยิ่งกว่าร่างแรก ในมุมมองส่วนตัว มันเหมือนกับการเอาไอเดียของเอวานเกเลียนมาต่อเติม ไคจูที่โผล่ขึ้นมาไม่หยุดยั้ง แต่แทนจะให้คนไปอยู่ในร่างของหุ่นยักษ์ที่คลุ้มคลั่งได้ทุกเมื่อ ก็เปลี่ยนเป็นกองกำลังป้องกันตนเองที่มีชุดสูทเพิ่มพละกำลัง แถมแต่ละคนก็แข็งแกร่งขึ้นได้ไม่เท่ากัน แต่ยิ่งฝึกยิ่งมีประสบการณ์ก็จะยิ่งเก่งและแกร่งขึ้น รวมทั้ง ยังเป็นการทำงานต้องร่วมมือร่วมใจกันทำงานเป็นทีมอีกด้วย

ที่เหลือมันก็เล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างของคนสองคนที่รู้จักกันมาแต่เด็ก คำสัญญาที่ให้กันมาแต่เด็กว่าจะเติบโตไปเป็นนักฆ่าไคจูเคียงข้างกัน แต่โตมาคนหนึ่งไปรออยู่แล้ว แต่อีกคนยังลำบากในการไล่ตาม อีกส่วนหนึ่ง มันก็เล่าถึงมิตรภาพระหว่างคนในทีม ที่แม้จะต้องแข่งขันแต่ก็พึ่งพาและช่วยเหลือซึ่งกัน สะท้อนความจริงในโลกจริง ว่าเราคงไม่อาจเก่งได้ถ้าอยู่คนเดียว การมีคู่แข่งจะทำให้เรามีแรงฮึดเพื่อที่จะเก่งขึ้น ขณะเดียวกัน คู่แข่งก็คือเพื่อนที่พร้อมช่วยเหลือกันเสมอ

ฉากการต่อสู้ในทีวีอะนิเมะเรื่องนี้ จัดว่าทำได้สนุกดีเอามากๆ ลุ้นระทึกกันเลยว่า หน่วยที่สามจะทำสำเร็จหรือไม่ แม้บางช่วงบางตอน จะพูดกันมาก จนเรื่องมาช้าขัดใจไปบ้างก็ตาม ขณะที่ความลับที่ถูกปิดบังไว้และพร้อมถูกเฉลยได้ตลอดเวลา ก็เป็นกลไกหนึ่งที่ทำให้เรื่องมันน่าดู รวมไปถึงเซอร์ไพรส์ที่คนดูไม่ทันคาดคิดด้วย

เป็นการเปิดตัวที่ต้องบอกว่าดีเกินคาดมากทีเดียว

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์