ไม่รู้เหมือนกันว่าเราต้องดูหนังที่ว่าด้วยเรื่องราวของหุ่นไม้ที่อยากเป็นคนนี้ไปอีกกี่เวอร์ชัน แต่ถ้ายังไม่เบื่อจะรับชมมันไปเสียก่อน ก็คงจะได้ดูกันอีกหลายหนเป็นแน่ แต่ละคนต่างก็สร้าง พิน็อกคิโอ หุ่นไม้จมูกยาวกันออกไปในแนวทางของตน เช่นเดียวกับเวอร์ชันนี้ ‘Guillermo del Toro’s Pinocchio’ ชื่อก็บอกชัดแล้วล่ะครับว่าเป็นผลงานที่กลั่นมาจากความคิดของ กีเยร์โม เดล โตโร
ชายร่างท้วมหนวดเครายาวรุงรังคนนี้ สร้างสรรค์ผลงานที่น่าจดจำมาอย่างมากมาย ทั้งผลงานที่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่สนใจและงานฟอร์มยักษ์ที่เอ่ยชื่อทุกคนต้องร้องอ๋อ ขอยกตัวอย่างกันสักนิด อย่าง ‘Pan’s Labyrinth’, ‘Pacific Rim’, ‘Crimson Peak’, ‘The Shape of Water’ และ ‘Nightmare Alley’ รวมถึงตู้หลอนผลงานก่อนหน้าล่าสุด ‘Cabinet of Curiosities’ ด้วย
ครั้งนี้เขาเลือกงานนิทานสุดคลาสิกมาสร้างสรรค์ใหม่ในสไตล์สต็อปโมชัน
เรื่องย่อหนัง ‘พิน็อกคิโอ หุ่นน้อยผจญภัย โดยกีเยร์โม เดล โตโร’
ยกเอาคำโปรยที่อยู่ในแอปของเน็ตฟลิกซ์มาวางไว้ตรงนี้ “นิทานสต็อปโมชั่นแนวมิวสิคัลที่มีฉากหลังเป็นประเทศอิตาลีในยุคสงคราม มีเพลงบัลลาดนุ่มนวลอย่าง ‘Ciao Papa’ ซึ่งนับเป็นผลงานแรกในฐานะนักแต่งเพลงของผู้สร้าง กีเยร์โม เดล โตโร” นัยว่าแทบไม่ต้องเล่าขยายอะไรเพิ่มเติมแล้วล่ะมั้ง เพราะเรื่องราวมันเป็นยังไงก็คงจะรู้กันหมดแล้ว แต่ถ้าใครยังไม่รู้ ผมจะลองเล่าให้อ่านกันตรงนี้
แรกเริ่มเลย มีช่างไม้นักประดิษฐ์อยู่คนหนึ่ง เขาคือ เจ็พเพตโต (David Bradley จากหนัง ‘The World’s End’ และซีรีส์ ‘Game of Thrones’) ที่มีลูกชายอย่าง คาร์โล ที่เขารักมากแต่ต้องสูญเสียไปทั้งที่เขาเพิ่งรู้จักกับโลกนี้ได้เพียง 10 ปี ในระหว่างความเศร้าโศกนั้น เขาก็สร้างหุ่นไม้ตัวหนึ่งขึ้นมา หวังให้มันเป็นตัวแทนของลูกชายที่เสียไป ปาฏิหาริย์ของนางฟ้าพาให้หุ่นมีชีวิตพร้อมด้วยชื่อ พิน็อกคิโอ (Gregory Mann จากซีรีส์ ‘Victoria’) เด็กชายที่ร่างกายยังเป็นไม้สน ผู้ที่เพิ่งเริ่มชีวิตเสมือนมนุษย์และมีจิ้งหรีดสีน้ำเงิน คริกเก็ต (Ewan McGregor จากหนัง ‘Doctor Sleep’ และซีรีส์ ‘Obi-Wan Kenobi’) คอยชี้แนะแนวทาง
และเพราะความอ่อนต่อโลกนี่แหละที่ชักพาเขาไปพบกับ เคาน์โวลเป (Christoph Waltz) เจ้าของคณะละครเร่ ทั้งช่วงเวลานั้น เขาอยู่ในอิตาลีที่กำลังอยู่ในช่วงสงคราม ทำให้หุ่นไม้ที่อยากกลายเป็นคนต้องเรียนรู้ชีวิตที่คาบเกี่ยวกับการทหารด้วย และนี่คือ การผจญภัยอีกครั้งของหุ่นไม้ที่ทุกคนรู้จักดี… พิน็อกคิโอ
รีวิวหนัง ‘พิน็อกคิโอ หุ่นน้อยผจญภัย โดยกีเยร์โม เดล โตโร’
เป็นหนึ่งความรู้สึกระหว่างที่ได้ดูก็คือ นี่แหละ ไอเดียของการสร้างพิน็อกคิโอที่ควรเป็น มันควรสร้างออกมาในลักษณะแอนิเมชัน เพราะมันทั้งมีความเป็นนิทาน ทั้งเป็นเรื่องราวที่มีความเป็นเด็ก ทั้งยังใส่เรื่องราวเชิงแฟนตาซีเข้าไปได้โดยไม่รู้สึกโดดหรือแปลกแยกอะไร แถมเวอร์ชันนี้ก็ค่อนข้างจะหนักกว่าการเป็นหนังสำหรับเด็กอยู่นิดนึง
เวอร์ชันนี้จะให้พื้นที่กับลูกชายตัวจริงของช่างไม้อย่างคาร์โลมากหน่อย เพื่อให้ได้เห็นถึงความผูกพันที่มีระหว่างพ่อกับลูก ก่อนจะพาผู้ชมมาพบกับหุ่นไม้พิน็อกคิโอตัวเอกของเรื่อง หนังค่อนข้างเดินเรื่องเร็วและไม่ค่อยจะหยุดพักสักเท่าไหร่ พร้อมกับการใส่คาแรกเตอร์ที่ออกแบบมาให้แปลกแตกต่าง
สิ่งที่ยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลงคือกิมมิกของการพูดโกหกของหุ่นไม้ที่จมูกของเขาจะยืดยาวขึ้น และเขาต้องใช้มันให้เป็นประโยชน์ สิ่งที่ชื่นชอบ อย่างแรกก็คงเป็นงานภาพที่ทำมาได้อย่างละเอียดละออ ออกแบบหุ่นไม้พิน็อกคิโอออกมาได้ดูเป็นเดลโตโร เช่นเดียวกับเหล่านางฟ้าทั้งหลาย อีกส่วนก็คือ อ้างอิงนิยายที่ Carlo Collodi เขียนเอาไว้ ใส่ความดาร์กลงไปพอประมาณ วางพื้นหลังเป็นอิตาลีสมัยสงคราม พาดพึงไปถึง เบนิโต มุสโสลินี ผู้นำฟาสซิสต์ของอิตาลี ภาพของเผด็จการที่ถูกฉายชัดอยู่ในเรื่องราว รวมทั้งการเอาพิน็อกคิโอไปร่วมอยู่ในภารกิจทหาร นอกเหนือจากการถูกควบคุมแม้ไม่มีเชือกผูกโยงในคาร์นิวัล
พิน็อกคิโอในเวอร์ชันนี้ดูจะมีอิสระทางความคิดมากกว่าเวอร์ชันก่อน จนถูกทหารมองว่า ‘ไร้วินัย’ เสียด้วยซ้ำ หุ่นไม้ที่อยากเป็นมนุษย์ยังคงต้องผจญภัย เรียนรู้การใช้ชีวิตและเลือกด้วยตนเองเช่นเดิม แต่หนังก็ทำให้เราต้องน้ำตาซึมไปกับความสูญเสีย จนพอจะเรียกได้ว่าหนังทำได้ดีกว่าที่คาดไว้พอสมควร
ทีมงานนักพากย์ในเวอร์ชันนี้ก็ไม่ธรรมดา มีแต่คนดังๆ ทั้งนั้นที่มาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น Tilda Swinton, Cate Blanchett, Christopher Waltz , Ewan McGregor และอีกหลายต่อหลายคน และแม้เขาจะบอกว่ามันเป็นหนังหมวดมิวสิคัล แต่เอาเข้าจริง ก็ไม่ได้มาแบบมิวสิคัลจ๋า มีประกอบอยู่ในบางส่วนของเรื่อง และอาจจะหายไปเลยก็มี มันจึงมีความดูง่ายสำหรับคนทุกคน
น่าประทับใจไม่น้อยเลย ไม่ลองดูกันหน่อยเหรอครับ
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | Guillermo del Toro’s Pinocchio / พิน็อกคิโอ หุ่นน้อยผจญภัย โดยกีเยร์โม เดล โตโร |
กำกับ | Guillermo del Toro, Mark Gustafson |
เขียนบท | Guillermo del Toro, Patrick McHale |
แสดงนำ | Ewan McGregor, David Bradley, Gregory Mann, Ron Perlman, Cate Blanchett, Finn Wolfhard, Christoph Waltz |
แนว/ประเภท | แอนิเมชัน, ดราม่า, ครอบครัว, แฟนตาซี, มิวสิคัล |
เรท | PG |
ความยาว | 117 นาที |
ปี | 2008 |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา, เม็กซิโก, ฝรั่งเศส |
เข้าฉายในไทย | 9 ธันวาคม 2022 [ทาง Netflix] |
ผลิต/จัดจำหน่าย | Netflix Animation, The Jim Henson Company, Pathé, ShadowMachine |
พิน็อกคิโอ หุ่นน้อยผจญภัย โดยกีเยร์โม เดล โตโร
พล็อตและบท - 8.3
การพากย์ - 7.4
การดำเนินเรื่อง - 8.2
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.6
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 8.3
8
Guillermo del Toro’s Pinocchio
คราวนี้ พิน็อกคิโอ มาในรูปแบบแอนิเมชันแบบสต็อปโมชั่น สิ่งที่ยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลงคือกิมมิกของการพูดโกหกของหุ่นไม้ที่จมูกของเขาจะยืดยาวขึ้น งานภาพที่ทำมาได้อย่างละเอียดละออ อ้างอิงนิยายที่ Carlo Collodi เขียนเอาไว้ วางพื้นหลังเป็นอิตาลีสมัยสงคราม ภาพของเผด็จการที่ถูกฉายชัดอยู่ในเรื่องราว รวมทั้งการเอาพิน็อกคิโอไปร่วมอยู่ในภารกิจทหาร นอกเหนือจากการถูกควบคุมแม้ไม่มีเชือกผูกโยงในคาร์นิวัล