รีวิวหนัง Despicable Me 4 | กรู ประสาน มินเนี่ยน ล้อเลียนซูเปอร์ฮีโร่ 

มีกรูก็ต้องมีเหล่ามินเนี่ยน หัวหน้าตัวร้ายที่ตอนนี้กลายเป็นหัวหน้าครอบครัว ต้องดูแลความปลอดภัยของทั้งลูกทั้งเมีย แต่ภารกิจก็ยังมาไม่หยุดหย่อน เพราะดันไปสร้างความแค้นให้กับคู่ปรับตัวร้าย เลยต้องช่วยปกป้องครอบครัวให้สำเร็จ โดยอาศัยความช่วยเหลือจากสมุนตัวเหลือง นี่มันภาคที่สี่แล้วสินะ ‘Despicable Me 4’ หรือชื่อไทย ‘มิสเตอร์แสบ ร้ายเกินพิกัด 4 ‘

ความเห็นส่วนตัวของนายแพท

แอนิเมชันคุณพ่อวายร้ายกับภารกิจครอบครัวอันแสนวุ่นวาย ที่ยังพาเราเฮฮาคิกคักไปกับเหล่ามินเนี่ยนต่างๆ ได้เช่นเคย คราวนี้ กรูเจอคู่ปรับที่นับว่าร้ายเข้มข้นพอสมน้ำสมเนื้อกันได้หน่อย หนังที่ไม่เน้นความแปลกใหม่ แค่ใส่เฉพาะอะไรที่คนต้องการดู เรื่องราวของครอบครัวที่กรูต้องช่วยปกป้อง ขณะที่สมุนตัวสีเหลืองก็สร้างความป่วนชวนฮากลิ้งไปเรื่อย ทุกอย่างไม่ได้ดูยากเย็น แต่ดูเน้นเสียงหัวเราะเป็นพิเศษ

นอกจากจะฮาเจ้า 3 สมุนตัวหลักแล้ว ภาคนี้ก็ยังจัดฉากล้อเลียนหนังซูเปอร์ฮีโร่และหนังดังต่างๆ อย่างสนุกมืออีก จัดว่าเป็นหนังที่เล่าเรื่องครอบครัวและพาฮากันได้ทั้งครอบครัวจริงๆ

เรื่องย่อหนังแอนิเมชัน ‘Despicable Me 4’

กรู (พากย์เสียงโดย สตีฟ คาเรลล์ จากหนัง ‘Asteroid City’) ในตอนนี้ เขากำลังใช้ชีวิตครอบครัวอย่างมีความสุขกับ ลูซี่ มาร์โก อีดิธ และแอ็กเนส เขาเพิ่งมีกรูจูเนียร์ สมาชิกใหม่เป็นเจ้าลูกชายตัวน้อยวัยเตาะแตะ แต่เพราะงานเลี้ยงรุ่นนั่นแหละที่ทำให้ชีวิตของเขาและครอบครัวต้องวุ่นวาย ทั้งหมดต้องเข้าร่วมโครงการคุ้มครองพยานอย่างไม่เต็มใจ หน่วยต่อต้านวายร้ายพาพวกเขามาหลบซ่อนตัวอยู่ในเซฟเฮ้าส์ย่านชานเมือง

หลังจากกรู ในฐานะเจ้าหน้าที่หน่วยต่อต้านวายร้าย จับตัวแม็กซิม เลอมาล (พากย์เสียงโดยวิล เฟอร์เรล จากหนัง ‘May December รัก ร่าน ร้าย’) คู่ปรับวัยเด็กของเขาได้ แต่แม็กซิมก็หลบหนีออกจากคุกได้สำเร็จ แม็กซิมและ วาเลนตินา (พากย์เสียงโดย โซเฟีย เวอร์การา) ก็ตั้งเป้าสะสางความแค้นต่อกรูในทันที

ครอบครัวกรูที่ย้ายมาอยู่ชั่วคราวที่เมืองเมย์ฟลาวเวอร์ก็ปลอมตัวเป็นครอบครัวคันนิ่งแฮม เปลี่ยนชื่อใหม่ เจอกับเพื่อนบ้านใหม่ แต่กลับต้องเจอกับป็อปปี้ (พากย์เสียงโดย โจอี้ คิง จากหนัง ‘Bullet Train’) ลูกสาววัยว้าวุ่นของเพื่อนข้างบ้านผู้ใฝ่ฝันจะเป็นวายร้าย ที่ล่วงรู้ตัวตนจริงของกรูจึงใช้มันแบล็กเมลกรู บีบให้กรูต้องไปปล้นโรงเรียนเก่า ทุกสิ่งรุมเร้าจนกรูเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย แล้วเขาจะผ่านพ้นศึกรอบด้านนี้ไปได้ยังไงต้องมาดูกันละ

รีวิวหนังแอนิเมชัน ‘มิสเตอร์แสบ ร้ายเกินพิกัด 4 ‘

ผ่านมาถึงภาคที่สี่แล้วนะ กับครอบครัวสุดอลหม่านและสุดหรรษาของวายร้าย กรู ที่มาสมาชิกใหม่มาเพิ่ม กรู จูเนียร์ ที่แม้จะยังเป็นทารกแต่ก็มีมุกให้คนดูได้ขำกลิ้งกัน ครั้งนี้ พวกเขามีเรื่องมีราวอันเกิดจากวันเลี้ยงรุ่น เพราะกรูได้กลับไปเจอกับคู่ปรับเก่าสมัยเรียนอย่าง แม็กซิม เลอมาล ความไม่ชอบขี้หน้าพาสร้างเรื่อง เพราะดันไปจับกุมตัวแม็กซิมไปขัง ความเสียหน้า พาให้แม็กซิมเคียดแค้น และก็ทำให้กรูต้องพาทั้งครัวไปซ่อนตัวในเซฟเฮ้าส์

แต่ก็อีกนั่นแหละ ยัยป็อปปี้เด็กข้างบ้านดันรู้จักตัวตนจริงของทั้งครอบครัว แถมยังแบล็คเมลจนกรูต้องจำใจช่วยป็อปปี้ปล้นบางสิ่งมาจากโรงเรียนเก่า แลกกับการช่วยปกปิดตัวตนจริงเอาไว้ จนเกิดเหตุตามมาหลายสิ่ง

อันที่จริง ก็เรียกได้ว่า บทของหนังเรื่องนี้ ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน มีแง่มุมที่น่าสนใจ หรือมีอะไรแปลกใหม่ รวมๆ แล้ว มันคือ การที่เล่าเรื่องของชายหนุ่มที่มีลูกเมีย แต่ดันไปเจอศัตรูตัวฉกาจผู้มุ่งหมายชำระแค้น กลายเป็นภารกิจที่กรูต้องแก้ไขให้ผ่านพ้นเพื่อปกป้องครอบครัวให้อยู่รอดปลอดภัย โดยมีเหล่าสิ่งมีชีวิตเซลเดียวอย่าง มินเนี่ยน มาเป็นตัวชูรส ให้คนได้ขำกลิ้งอารมณ์ดีตั้งแต่ต้นยันจบ

นอกเหนือจากที่วายร้ายในภาคนี้จะอัพเวลเก่งกาจขึ้นจนอีกฝ่ายรับมือได้ยากเแล้ว ภาคนี้ กรูจะมาพร้อมกับเหล่าสมุนตัวเหลืองคู่ใจด้วย ‘มิสเตอร์แสบ ร้ายเกินพิกัด’ จัดเต็มด้วยก๊วนมินเนี่ยนกลุ่มใหม่ ที่ได้รับการบูสต์ให้กลายเป็นมินเนี่ยนซูเปอร์ฮีโร่ เดฟ, ทิม, เมล, กัส และเจอร์รี เมกะมินเนียน 5 ตัวที่ต่างก็มีพลังพิเศษเป็นของตนเอง ไม่ว่าจะเป็น พละกำลังเหนือมนุษย์ ยืดหดตัว หรือดวงตาเลเซอร์ ทำให้ภาคนี้มีกลิ่นของการล้อเลียนหนังซูเปอร์ฮีโร่ ที่ก็เล่นเอาฮาไปหลายดอก

เรื่องงานภาพนั้นไม่ได้แตกต่างจากภาคก่อนหน้า ยังคงมาตามมาตรฐานเดิมที่ดีอยู่แล้ว แต่แอนิเมชันภาคนี้ พยายามเต็มที่ในการใส่ลูกเล่นเพื่อบ่งบอกความครีเอตและไอเดียที่ผุดออกมาไม่หยุดหย่อน ขนาดที่ดนตรีประกอบก็ยังชวนนึกถึงไปถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้ จนบางทีก็คิดว่า นี่มันหนังสายลับ หรือว่าหนังคนเหล็ก ส่วนเพลงประกอบทั้งเพลงเก่าเพลงใหม่ ก็จัดเอาที่คุ้นหูมาใส่ทั้งสิ้น

ความยียวนกวนประสาทของแอนิเมชันภาคต่อยังคงนำเป็นที่หนึ่ง ทำให้รู้สึกว่า ดูหนังซีรีส์นี้ไม่ต้องคาดหวังความซับซ้อนหรือแทรกใส่แง่มุมอะไรทั้งนั้น เดินเข้าโรงหนังมาเพื่อเสพสิ่งเบาสมองอย่างเดียวก็ถือว่าคุ้มค่ามากพอแล้ว

มันยังคงเป็นแอนิเมชันที่พากันเข้ามาดูกันได้ทั้งครอบครัว เพราะมันเป็นเรื่องครอบครัว แถมมันยังเป็นเวลาพักผ่อน เมื่อทุกคนต่างส่งเสียงหัวเราะไปพร้อมกัน เป็นหนังที่เหมาะให้ครอบครัวยกโขยงทั้งบ้านกันไปดูในโรงจริงๆ เลย นี่ดูเพลินไปจนจบเครดิต แม้มันจะไม่มีฉากแถมก็ตาม

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง