เมื่อพูดถึงผู้กำกับ โฮโซดะ มาโมรุ/Hosoda Mamoru คนนี้เคยมีผลงานของตัวเองได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยมมาแล้ว จากเรื่อง Mirai ย่อมทำให้เกิดความคิดอยากจะติดตามงานชิ้นอื่นๆ ของเขาด้วย และวันนี้ ก็ถึงเวลาที่จะได้พบกับ ‘Belle เจ้าหญิงแห่งเสียงเพลง’ ภาพยนตร์แอนิเมชันผลงานจากผู้กำกับ โฮโซดะ มาโมรุ/Hosoda Mamoru แล้ว เมื่อเขานำเข้ามาฉาย เราก็ต้องไม่พลาดแน่นอน
นอกเหนือจาก ‘Mirai’ ก็ยังมีทั้ง ‘The Girl Who Leapt Through Time’, ‘The Boy and the Beast’, ‘Wolf Children’ และ ‘Summer Wars’ งานดีตลอดมาแบบนี้ มีหรือจะพลาดอีกหนึ่งชิ้นงานที่เข้ามาฉายในไทย
ยังไงก็ต้องขอไปดูก่อนละน้าาา!
เรื่องย่อแอนิเมชัน Belle
มันคือเรื่องราวของเด็กสาวจากชนบทคนหนึ่งที่กลายเป็นเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลงในโลกเสมือนจริง สึสึ (พากย์เสียงโดย Kaho Nakamura) เธอคือเด็กสาวบ้านนอกคนนั้น คนที่มีเรื่องราวฝังใจกับการจากไปของผู้เป็นแม่ ทำให้เธอดูเป็นคนที่ค่อนข้างเงียบขรึมและไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง เมื่อแม่จากไป เธอจึงอยู่บ้านกันสองคนกับพ่อ สองคนแทบจะไม่เคยพูดคุยกันเลย เมื่อมาอยู่ในโรงเรียนก็ขลุกอยู่กับเพื่อนสนิทอย่างฮิโระจัง (พากย์เสียงโดย Rira Ikuta) ขณะเดียวกันภายในเธอก็ดูจะปรารถนาอยากจะเป็นคนที่งดงาม มีความสามารถ และเป็นที่สนใจเฉกเช่นเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง รุกะจัง (พากย์เสียงโดย Tina Tamashiro) ดูบ้าง
แท้จริงแล้ว เธอทำมันได้แล้ว แต่เฉพาะในโลกเสมือน
เธอได้ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมในโลกเสมือนจริงที่ชื่อ “U” ที่นั่น ทุกสิ่งที่คิดฝันจะสามารถเป็นไปได้ สึสึได้ตัวตนใหม่ในนั้นเป็น ‘เบล’ สาวสวยมีกระบนใบหน้าผู้มีเสียงร้องก้องกังวานขับขานเพลงที่มีท่วงทำนองแปลกใหม่จับใจผู้คน เธอโด่งดังได้ในพริบตา แต่ทว่า ไม่นานก็พบว่ามี ‘ริว’ ปีศาจผู้โหดเหี้ยมและพละกำลังมหาศาลเกิดขึ้น
ทำให้เธอสนใจและต้องการตามหาตัวตนปริศนาของเขาให้พบ
รีวิวแอนิเมชัน เจ้าหญิงแห่งเสียงเพลง
ผลงานของ โฮโซดะ มาโมรุ เรื่องแล้วเรื่องเล่าที่เข้ามาฉายในเมืองไทย ล้วนได้รับเสียงชื่นชมกลับไปเสมอ ผู้คนที่ชื่นชอบผลงานของเขา ต่างติดตามและหวังจะได้ชื่นชมงานชิ้นใหม่เสมอมา ไม่ว่าในไทย จะมีแฟนของเขามากน้อยเท่าไหร่ แต่ทุกผลงานที่ผ่านสายตา ไม่เคยทำให้ผิดหวังได้เลยแม้สักครา
วันนี้ งานชิ้นใหม่ในปี 2021 ที่คนไทยได้ดูในปี 2022 เตรียมเข้าฉายในวันที่ 20 มกราคมนี้แล้ว และคงเป็นโชคดีที่นายแพทได้ดูแล้วมาเล่าต่อให้ทุกคนได้รับรู้กัน
เพลงเพราะ ภาพสวย ตามแบบฉบับของ อ.โฮโซดะ มาโมรุ
เพียงวินาทีแรกของหนัง ก็เปิดให้เราได้พบกับโลกเสมือนที่ชื่อ ‘U’ ดูภาพอันชวนตื่นตะลึง งานภาพสามมิติที่ลดทอนรายละเอียดให้เหมือนภาพการ์ตูนที่ถ่ายทอดจินตนาการอันบรรเจิดให้เราได้พบ เมื่อกลับมาอยู่ในโลกจริง ต้นไม้ ใบหน้า ท้องฟ้า และการจัดวางที่สมบูรณ์แบบ งานภาพที่สวยสดคือสิ่งแรกที่ทุกคนเอ่ยปากชม สิ่งต่อมา คือ เพลงประกอบและเสียงร้องของเบลที่ไพเราะและก้องกังวาน
แต่หนังของโฮโซดะ มาโมรุ ก็ไม่ได้มีอยู่แค่นั้น เรื่องราวที่เขาหยิบมาเล่าเสมอคือเรื่องของครอบครัว แต่ก็ยังมีปมอื่นๆ ที่ถูกจัดวางอย่างเหมาะสมกลมกลืน ตัวเอกอย่างสึสึ คือหญิงสาวที่สูญเสียแม่ไปตั้งแต่ครั้งยังเด็ก เธอเจ็บปวดที่เห็นแม่ช่วยเหลือคนอื่นแต่ทอดทิ้งลูกสาวของตน ทำให้กลายเป็นคนเก็บตัว แต่โลกเสมือนได้ดึงตัวตนที่เก็บซ่อนไว้ให้ออกมาโลดแล่นอีกครั้ง
สึสึจะต้องพบเจอเหตุการณ์บางอย่างที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเธอในตอนท้าย
นี่มัน Beauty & The Beast แห่งเมตาเวิร์ส!
เจ้าหญิงเบลผู้งดงามกับเจ้าชายอสูรนั้น เราคงเคยพบพานมาบ้างแล้ว ไม่ในรูปแบบการ์ตูนก็เป็นหนังคนแสดง แต่ครั้งนี้ เหมือนโฮโซดะจะหยิบมันมาขีดเขียนนิยามมันใหม่ด้วยโลกเสมือนจริง เจ้าหญิงคนนี้มีชื่อว่า ‘เบล’ เหมือนกัน แต่เธอคืออีกหนึ่งตัวตนที่ถูกปิดบังไว้ของสึสึ หญิงสาวบ้านนอกเฉิ่มๆ คนนึง ตัวจริงของเธอนั้นไม่สามารถจะร้องเพลงออกมาให้ใครฟังได้ แต่ในนั้น เธอคือเจ้าหญิงแห่งเสียงเพลง ผู้ขับขานเพลงไพเราะและโด่งดังในเพียงชั่วพริบตา
ส่วนอสูรผู้มีหน้าตาชั่วร้าย คราวนี้กลายเป็น ‘ริว’ ผู้ที่ยังไม่มีใครล่วงรู้ตัวตนที่แท้จริง รู้เพียงตัวตนของเขาถูกเชื่อว่าสั่นคลอนความเป็นระเบียบใน ‘U’ และก็ดูจะแค่เพียง ‘เบล’ เท่านั้นที่เชื่อในความดีที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้าตาที่น่าเกลียดน่ากลัวของ ‘ริว’
ใช่แล้วนี่มัน ‘Beauty & The Beast’ ชัดๆ
Belle คือแอนิเมชันที่วิพากษ์สังคมโลกเสมือน
การดำรงอยู่ของ ‘U’ ทำให้เกิดตัวตนที่ทับซ้อน ตัวตนหนึ่ง ผู้คนรับรู้กันทั่วไป อีกตัวตน เคยถูกปิดบังไว้แต่ก่อกำเนิดใหม่จากสิ่งที่ซ่อนเร้นด้วยอุปกรณ์อันแสนพิเศษ ทั้งสองสิ่งจึงเป็นตัวตนของคนๆ เดียวกัน แต่บางสิ่งของตัวตนจริงที่ยังไม่อาจข้ามได้ กำลังถูกตัวตนเสมือนค่อยๆ เร่งให้เกิดความเปลี่ยนแปลง
ภายในเรื่องเดียว ผู้กำกับหยิบเอาประเด็นอันหลากหลายใส่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการยอมรับในตัวตนเป็นอยู่ การรับรู้/เข้าใจในตัวตนของคนอื่น การสะท้อนถึงความสัมพันธ์ของผู้คนในยุคไซเบอร์ที่มักวิจารณ์ตัดสินกันง่ายดายจากสิ่งที่มองเห็น แม้โลกเสมือนจะทำให้คนเปิดเผยในอีกตัวตนออกมา แต่ขณะเดียวกัน ก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเยียวยาบาดแผลในอดีตได้เช่นกัน
บางครั้งความเลวร้ายที่ซุกซ่อนไว้กลับไปปรากฏในโลกเสมือน บางคนกล้าทำร้ายผู้อื่นเพราะไม่มีใครล่วงรู้ตัวตนที่แท้จริง แต่บางคนก็หวังจะระบายความเจ็บปวดในโลกที่ได้รับในโลกแห่งความจริงเท่านั้น พวกเขาอาจเพียงรอคอยใครสักคนที่เข้าใจอย่างแท้จริง ช่วยเยียวยาต่อความหลังที่ฝังใจ หรือให้หายจากความจริงที่เจ็บปวด
หนังบอกเล่าแง่มุมของโลกทั้งสองใบนี้ไว้ได้อย่างลึกซึ้ง
สำหรับใครที่รอคอยจะได้พบกับผลงานชิ้นใหม่ของ Hosoda Mamoru คงไม่ต้องรอกันอีกต่อไปแล้ว แม้จะทิ้งช่วงให้รอคอยกันเป็นปีๆ แต่ฝีมือของผู้ชายคนนี้ไม่เคยตก คล้ายเขาจะบ่มมันจนสุกงอมเพียงพอ จึงจะส่งออกมาให้เชยชม ครั้งนี้ก็ยังคงเป็นอีกครั้งที่หนังทำให้เราต้องนั่งดูโคลสเครดิตจนจบ
เพราะเพลงอันไพเราะ ต่อด้วยสกอร์เจ๋งๆ กับภาพประกอบงามๆ ของมันนั่นเอง…
รายละเอียดเกี่ยวกับแอนิเมชัน
ชื่อภาพยนตร์ | Belle / Belle: The Dragon and the Freckled Princess / เจ้าหญิงแห่งเสียงเพลง |
ผู้กำกับ | Hosoda Mamoru |
ผู้เขียนบท | โฮโซดะ มาโมรุ/Hosoda Mamoru |
นักแสดง | Kaho Nakamura, Ryô Narita, Shôta Sometani, Tina Tamashiro |
แนว/ประเภท | Animation, Adventure, Drama, Fantasy, Music, Musical, Sci-Fi |
เรท | PG |
ความยาว | 121 นาที |
ปี | 2021 |
วันเข้าฉายในไทย | 20 มกราคม 2022 |
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย | Studio Chizu, BookWalker, Dentsu, Kadokawa, M Pictures |
เจ้าหญิงแห่งเสียงเพลง
พล็อตและบท - 8
การดำเนินเรื่อง - 7.9
งานด้านภาพ - 9
เพลงและดนตรีประกอบ - 8.5
การพากย์ - 8
8.3
Belle
ความงดงามของงานภาพ และความไพเราะของเสียงเพลง ปรากฏอยู่อย่างเต็มเปี่ยมในแอนิเมชันเรื่องนี้ Belle เจ้าหญิงแห่งเสียงเพลง หนังที่หยิบเอาเทพนิยาย Beauty & The Beast มาขีดเขียนใหม่โดยใช้โลกเสมือน เรื่องราวของการเยียวยาจิตใจ เรียนรู้ตัวตนจากโลกเสมือนและโลกจริง อีกหนึ่งผลงานที่น่าชื่นชมของโฮโซดะ มาโมรุ