เมื่อไม่กี่วันมานี้ ผมบังเอิญไปเจอข่าวแอนิเมชั่นเรื่องหนึ่งเข้า ข่าวเล่าว่า มันกำลังถูกนำมาฉายในบ้านเรา มันถูกนำมาทำใหม่จากแอนิเมชั่นต้นฉบับที่ฉายทางทีวี บางคนเรียก Remake บางคนเรียก Rebuild ผมเองที่เคยแต่ได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยรู้เรื่องราวสักกระผีก เหมือนถูกเรียกร้องให้สนใจ ด้วยเพราะไม่ได้เสพแอนิเมชั่น (โดยเฉพาะอะนิเมะ) มาได้สักพักใหญ่ๆ ช่วงนี้ ไม่มีอะไรน่าดูเท่าไหร่ เลยขอปลีกวิเวกคนเดียวไปตีตั๋วดูหนังเรื่องนี้สักหน่อย ลิโด้ 3 คือเป้าหมาย
เดินดุ่ยๆ ไปหน้าโรง จ่ายเงินซื้อตั๋วแล้วเดินเข้าโรงเลย นานๆ ครั้งที่ชีวิตการดูหนังของผมจะเป็นแบบนี้ ‘Evangelion 1.0’ คือชื่อของอะนิเมะเรื่องนั้น
อ่านเรื่องราวคร่าวก่อนเข้าโรงไปบ้างแล้ว แต่ก็ถือว่ายังไม่เข้าหัวนัก ยังไงก็ต้องไปซึมซับเอาในโรงอยู่ดี ข้อมูลบอกมาว่า มันมีทั้งหมด 4 ภาค Evangelion 1.0, Evangelion 2.0, Evangelion 3.0 และภาคสุดท้าย ไม่แน่ใจว่าจะชื่อ Evangelion Finale หรือเปล่า ข้อมูลยังบอกอีกว่า เป็นการนำภาพจากเวอร์ชั่นฉายทางทีวีมาปรับแต่งสีเสียใหม่ เติมบางช็อตเข้าไป แถมอาจมีการปรับปรุงพล็อตเรื่องบางส่วนด้วย
ย้อนกลับไปเมื่อวันวาน ในปี พ.ศ. 2538 อะนิเมะที่ฉายทางทีวีเรื่องหนึ่งถือกำเนิดขึ้น และสร้างปรากฏการณ์ได้รับความนิยมไปทั่วเกาะญี่ปุ่น กลายเป็นทั้งต้นแบบ และอิทธิพลต่องานอะนิเมะที่ออกมาจากหลังจากนั้น เกิดแฟรนไชส์สินค้าเกิดขึ้นมากมายภายใต้ชื่อๆ นี้ การประสบความสำเร็จทั้งทางด้านการค้า และความนิยมนี้ยังคงสืบเนื่องมาจากถึงเวลาที่เรานั่งอ่านเจสปายกันอยู่นี้ น่าเสียดายที่ตอนนั้น ผมอยู่ไกลปืนเที่ยงไปหน่อย ไม่ได้มีโอกาสรู้จักมันจนวันที่มันหวนคืนกลับมาสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ ไม่ต้องบอกก็พอรู้กัน ว่ามันคือ Evangelion หรือในชื่อดั้งเดิมของมันคือ ‘Neon Genesis Evangelion’ นั่นไงครับ
ถ้าใครเคยชมอะนิเมะเรื่องนี้ไม่ว่าจะภาคที่เป็นการ์ตูนทีวี หรือในแบบภาพยนตร์ ก็คงจะพอรู้ว่า มันมีเนื้อหาที่ค่อนข้างเกี่ยวพันไปในทางศาสนา ทราบมาว่าเป็นจูเดโอ-คริสเตียน ในฐานะที่เป็นชาวพุทธ ย่อมจะไม่เข้าใจที่มาที่ไปในคัมภีร์ของพวกเขามากนัก แต่ในฐานะคนชอบดูอะนิเมะ ต้องเรียกว่าน่าทึ่งที่ในสมัยนั้น ญี่ปุ่นเขาสร้างอะนิเมะให้โดดเด่นและมีโครงสร้างเรื่องที่ซับซ้อน และดำเนินเรื่องได้สุดมันกันแล้ว
เอ้า มาอ่านเรื่องย่อกันก่อน
เรื่องย่อหนังแอนิเมชัน ‘Evangelion 1.0’
หลังจากเกิดหายนะของโลกที่เรียกว่า เซคันก์อิมแพกต์ ประเทศญี่ปุ่นก็เหลือเพียงเมือง โตเกียว-3 เท่านั้น และเมืองนี้ก็กำลังถูกสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์โจมตี สิ่งมีชีวิตนี้ถูกเรียกว่า เทวทูต หรือ แองเจิล มันกำลังพยายามกำจัดเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้หมดสิ้น
หลังจากไม่เคยพบหน้าพ่อมานานกว่า 8 ปี จู่ๆ ชินจิ อิคาริ (เมงุมิ โองาตะ) ก็ได้รับโทรศัพท์จากเขา ชินจิได้รับคำสั่งด่วนให้เร่งเดินทางไปที่สำนักงานใหญ่เนิร์ฟ ซึ่งเป็นองค์กรที่รับมือกับเทวทูต โดยใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ยักษ์ที่เรียกว่า อีวา
หน้าที่ของชินจิก็คือเป็นผู้บังคับอีวาหมายเลข 01 โดยต้องร่วมงานกับผู้ได้รับเลือกให้ขับอีวา 00 เรย์ อายานามิ (เมงุมิ ฮายาชิบาระ)
รีวิวหนังแอนิเมชัน ‘Evangelion 1.0’
ภาคแรกของ Evangelion ภาค rebuild คือ ‘Evangelion 1.0 You Are (Not) Alone’ หรือ ‘กำเนิดใหม่วันพิพากษา’ เริ่มต้นเรื่องราวที่ภาพของจังหวัดคานางาวะ แถบแม่น้ำเนบุ แม่น้ำสีแดงฉานกับซากบ้านเมืองที่ปรักหักพัง กองกำลังทหารที่ประจำกำลังและพร้อมรับเต็มที่ อิคาริ ชินจิ เด็กนักเรียนชั้น ม.ต้น ปี 2 ยืนอยู่ที่ตู้โทรศัพท์ที่ไม่สามารถติดต่อใครได้ เพราะรัฐบาลประกาศสภาวะฉุกเฉิน ชินจิ หยิบรูปถ่ายของหญิงสาวคนหนึ่งขึ้นมาดู คงเป็นคนนี้แหละที่เขากำลังจะโทรไปหา แต่จู่ๆ กองบินฝูงใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า พร้อมๆ กับการมาของเทวทูตตนที่ 4 การระดมยิงเปิดฉากขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ไม่พบว่าจะทำความเสียหายให้กับเป้าหมายแต่อย่างใด ด้วยเทวทูตนั้นเกราะที่แน่นหนา อาวุธทางทหารธรรมดาไม่สามารถทำอะไรได้
จู่ๆ รถเก๋งสีฟ้าคันหรูก็โฉบมารับชินจิ คนขับคือสาวที่อยู่ในภาพถ่ายใบนั้นนั่นเอง เธอคือ คาสึรางิ มิซาโตะ รองผู้บัญชาการเสนาธิการ หัวหน้ากองแผนการรบของหน่วยปฎิบัติการลับเนิร์ฟ (NERV) ที่ขึ้นตรงต่อสหประชาชาติ เธอพาเขาไปยังที่นั่น ที่ที่ อิคาริ เก็นโด คุณพ่อของเขาเป็นผู้บัญชาการอยู่ การเรียกตัวไปครั้งนี้ทำให้ลูกชายได้พบหน้าผู้เป็นพ่อเสียที หลังจากไม่ได้เห็นหน้ากันมาเป็นเวลานานกว่า 3 ปี
เมื่อทางรัฐบาลตัดสินใจโอนหน้าที่ในการกำจัดเทวทูตตนนี้ให้เนิร์ฟรับหน้าที่จัดการ เป็นช่วงเวลาที่อิคาริมาถึงเมืองใต้ดินชั้นที่ลึกที่สุดของชินโตเกียวที่ 3 อิคาริได้รับรู้เหตุที่เขาถูกพ่อของตัวเองเรียกมา นั่นก็คือการที่จะให้เขาเป็นผู้ขับ Eva หมายเลข 01 อาวุธรบพลานุภาพสูงเพื่อต่อสู้และกำจัดเทวทูตตนนั้นนั่นเอง แม้จะไม่ยอมรับกับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ แต่เมื่อได้เห็นสภาพของ อายานามิ เรย์ นักบินผู้ขับ Eva หมายเลข 00 ที่ยังบาดเจ็บหนักที่ถูกผู้เป็นพ่อเรียกให้มาทำหน้าที่แทน จากสภาพเรย์ที่ไม่น่าจะไหว เขาจึงเลือกไม่หนีและตัดสินใจขับมันเอง
การขับอีวาคือการเข้าไปอยู่ในแคปซูลที่ภายในเป็นห้องบังคับการเคลื่อนไหว LCL สารเหลวสีแดงจะถูกปล่อยมาในแคปซูลจนเต็ม ทำหน้าที่นำออกซิเจนเข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง การบังคับอีวาเป็นเหมือนการเชื่อมโยงระหว่างผู้ขับกับตัวมัน มีพลังมหาศาลและเกราะป้องกันตนเอง แต่ก็มีโอกาสที่จะคุ้มคลั่งได้ การคุ้มคลั่งอาจทำให้ไม่สามารถควบคุมอะไรได้อีกต่อไป แต่ก็เปิดให้ใช้พลังที่เกินกว่าปกติได้เช่นกัน
แน่นอนว่า ภารกิจขับอีวาครั้งแรกของชินจิสำเร็จลุล่วง แต่กว่าจะบรรลุภารกิจก็ต้องผ่านการคลุ้มคลั่งเสียก่อน
ร่ายยาวเกินไป ผมว่า ท่าจะไม่จบ เอาเป็นว่า พล็อตเล่นกับเทคโนโลยีของโลกในอนาคต แต่เอาปมด้านจิตใจของพ่อกับลูกมาผสม ไม่พอ ยังเอาสัตว์ประหลาดที่ไม่ค่อยเก็ทกับที่มาที่ไปเข้ามาเป็นตัวร้ายอีก แถมมีหลายตัว ค่อยๆ เรียงหน้าเข้ามา ฝ่ายมนุษย์คือฝ่ายที่ต้องฆ่ามันเพื่อรักษาเมืองเอาไว้
ตัวละครอีกตัวที่ดูท่าจะมีแฟนอยู่เยอะทีเดียว คือ เรย์ ที่ท่าทางจะผูกให้มาเป็นคู่กับชินจิโดยเฉพาะ
เรื่องราวที่ค่อยเพิ่มรายละเอียดเข้ามาเรื่อยๆ ทำให้เราได้รู้ว่า โลกที่เป็นอยู่ในตอนนี้ เต็มไปด้วยแม่น้ำและทะเลสีแดงที่เป็นผลมาจากการทำลายตัวเองของเทวทูต โลกที่เหลือมนุษย์เพียงครึ่งหนึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า “เซคันด์อิมแพ็ค” หลังจากนั้นมาญี่ปุ่นต้องต้อนรับการมาของเทวทูตที่ทะยอยเรียงหน้าเข้ามาเช็คบิลมนุษย์ทีละตนๆ ส่วนมนุษย์ก็สร้างเมืองป้อมปราการขึ้นมาสำหรับรับการโจมตีของเทวทูตเป็นการเฉพาะ ซึ่งถูกเรียกว่า “ชินโตเกียวที่ 3”
แม้ว่าทั้งเรื่องจะค่อนข้างดูเคร่งเครียด หารอยยิ้มได้ยากเย็นเต็มที แต่ฉากที่ชินจิต้องมาอาศัยร่วมกับมิซาโตะก็พอจะสอดแทรกความผ่อนคลายเข้ามาได้บ้าง “อ่างอาบน้ำคือเครื่องซักล้างชีวิตนะจ๊ะ” คำพูดที่จำได้ขึ้นใจในช่วงเวลาที่สองคนนี้อยู่ด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม ก็ถือว่าเป็นอะนิเมะที่เต็มไปด้วยจินตนาการ นี่คือลักษณะเฉพาะของมัน แถมเป็นจินตนาการในอนาคต แสดงถึงความกังวลต่อชีวิตในอนาคตของนักทำอะนิเมะ แม้จะมีช่วงผ่อนคลายบ้าง แต่ก็มาเป็นช่วงสั้นๆ เท่านั้นแหละ
ภาคผนวก
นอกจากหลายคนจะได้ชมในเวอร์ชั่น 1.0 แล้ว ยังมีการออก ‘Evangelion 1.01’ เวอร์ชั่นดีวีดี 2 แผ่นที่รวบรวมเอาภาพเบื้องหลังก่อนจะมาเป็นภาพยนตร์คุณภาพให้แฟนตัวจริงได้เก็บสะสม และ ‘Evangelion 1.11’ เวอร์ชั่นที่เป็นดีวีดีและบลูเรย์ตามออกมา เป็นเวอร์ชั่นที่มีการปรับปรุงภาพบางส่วนให้คมชัดและไม่มืด แถมยังเพิ่มแอนิเมชั่นเข้าไปอีก 3 นาที เรียกได้ว่า ถ้าเป็นแฟนตัวจริงนี่ต้องเสียเงินซื้อกันหลายรอบจนกรอบกันไปข้างหนึ่งแน่นอน
‘Evangelion 1.0 You Are (Not) Alone’ เข้าฉายในญี่ปุ่นไปเมื่อปี 2550 ในบ้านเราก็มีการนำเข้ามาฉายเหมือนกันนะ เมื่อเดือนสิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา ล่าสุด ภาคที่สอง ‘Evangelion 2.0 You Can (Not) Advance’ ก็ได้รับการนำเข้ามาฉายแล้วเช่นกัน
ไม่เคยดูแหะ แต่น่าดูคับ
เหอๆ นึกว่าจะไม่มีคนคอมเมนต์เสียแล้วนะเนี่ย
ผมก็อยากไปดูมากๆเลยๆนะครับ
รู้สึกว่าจะลาโรงไปซะแล้วละครับ เดินโฉบๆ ไปดูรู้สึกว่าจะไม่มีชื่อบนป้ายเสียแล้ว
รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้จะไม่เข้าโรงนิครับ หรือว่าผมไม่ขึ้นรถไฟเนี่ย อยากดูอย่างแรงเลยครับ
เข้าไปนานแล้วละครับ ไม่งั้นผมจะไปดูโรงได้ไงกันเล่า เหอๆ
ผมเคยดูแล้วครับ มันโคตรๆๆๆๆๆๆๆๆพอถึง30นาทีสุดท้ายเป็นช่วงที่กระพริบตาไม่ได้เลยครับ มันมีทั้งหมด4ภาค แต่ได้ข่าวว่า EVANGELION 2.0 จะมาในไม่ช้านี้ ขอให้เพื่อนติดตามนะคร๊าบ……..
อิจฉาคนได้ดูในโรงจริงๆ
ขนาดผมดูกับtv14นิ้วที่บ้านยังรู้สึกอึ้งไปเลย *0*
ส่วนภาค Rebuild of Evangelion มีืัชื่อดังนี้
1.Rebuild of Evangelion 1.0 : You are ( not ) Alone
2.Rebuild of Evangelion 2.0 : You can ( not ) Advance
3.Rebuild of Evangelion 3.0 : Q ( quickening )
4.Rebuild of Evangelion 4.0 : ( ยังไม่มีชื่อที่แน่นอน )
นี้เป็นตัวอย่างของ ภาคเก่า งิ ฉายทาง TV เมื่อ 14 – 15 ปีที่แล้ว
เคยดู ซีรี่จนจบ ตอนจบงง มากๆ เลย พอมาเห็นภาคโรง อยากดู