ท่องแดนสิงคโปร์ ตอนที่ 2 : Universal Studios Singapore

ค่ำคืนแรกผ่านพ้นไปโดยที่ไม่แน่ใจตัวเองว่า ได้หลับหรือเปล่า ทำให้เช้าวันต่อมาค่อนข้างกลัวนิดหน่อยว่าร่างกายจะไหวกับภารกิจวันนี้หรือเปล่า เพราะวันนี้ต้องใช้ร่างกายอย่างสมบุกสมบันพอควร ภารกิจของพวกเราวันนี้ทุ่มให้กับการเที่ยวใน Universal Studios Singapore แบบเต็มๆ วัน

Friday, 12 October 2012

ตื่นเช้ามารวมตัวกันทานข้าวเช้า ทั้งสองที่พักต่างก็มีอาหารเช้าให้กับผู้เข้าพักเช่นกัน แต่ผมก็เลือกที่จะเนียนไปทานอีกที่เสียอย่างนั้น อาหารเช้าแบบง่ายๆ อย่างซีเรียลกับนม ขนมปังปิ้งทาแยมหรือเนยถั่ว และกาแฟ ทานกันพออิ่มแล้วก็ได้เวลาออกเดิน…

จากที่พักบนถนน Dickson Road สามารถเดินตามถนนผ่าน 5 แยกวัดใจผ่านไปถึงจุดที่ตัดกับ Serangoon Road เดินข้ามถนนและตรงต่อไป ทะลุย่านคนแขกที่มีร้านอาหารและกิจการต่างๆ จนไปเจอถนนเส้นเล็ก Kerbau Road สุดถนนก็จะเจอกับสถานีรถไฟฟ้า Little India (NE7) เลยครับ

วันนี้ เราจะไปยังห้าง Vivo City ก่อนเพื่อนั่งรถไฟฟ้าแบบโมโนเรลไปยังเกาะเซนโตซา (Sentosa) ครับ

เริ่มต้นที่สถานี Little India (NE7) เราไปตามสายสีม่วงมุ่งหน้าสู่สถานี Harbourfront (NE1/CC29) อันเป็นสถานีปลายทาง ออกจากรถไฟฟ้า ก็เดินเข้าห้าง Vivo City เดินไปตามป้ายที่จะบอกเราถึงจุดเริ่มต้นของโมโนเรลที่ชื่อ Sentosa Express ทุกที่ที่เราเดินทางมา เราใช้เพียงบัตร Ez-Link ใบเดียวเท่านั้น

Universal Studios Singapore

โมโนเรล Sentosa Express จะเดินทางผ่านเพียง 4 สถานี คือ Sentosa Station, Waterfront Station, Imbiah Station และ Beach Station วนไปวนมาอยู่แค่รอบเกาะ แต่ถ้าจะแวะ Universal Studios Singapore ก็นั่งไปสถานีเดียว ลงที่ Waterfront Station เท่านั้นเอง

ใช้บัตรที่เพื่อนซื้อไว้ล่วงหน้า ปรินต์มาเป็นแผ่นๆ เดินผ่านเข้าประตูไปได้เลย ผ่านโซน Hollywood ไป เดินวนไปทางขวาก่อน เริ่มต้นกันที่ Sci-Fi City กันก่อนเลย การมาเที่ยววันศุกร์และมาถึงตั้งแต่ช่วง 10 หรือ 11 โมงเช้าเป็นเรื่องที่ดีอย่างหนึ่ง คือ ผู้คนยังไม่เยอะ ไม่ต้องคอยคิวเล่นเครื่องเล่นนาน บางเครื่องเดินเข้าไปก็เกือบจะเล่นได้เลยด้วยซ้ำ

Transformers

เดินวกไปวนมาอยู่พักใหญ่ก็ได้หยิบแว่น 3 มิติ เข้าไปนั่งในรถคันย่อมๆ ที่สามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า-ถอยหลัง-หมุน-ขยับสั่นตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ มันสมมุติให้เราเป็นหุ่นหนึ่งตัวในทีมที่จะได้เจอกับฝ่ายศัตรูตัวใหญ่ๆ ที่คุ้นเคย สนุกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ดู Transformers มาทุกภาค จะสนุกที่สุด

Battlestar Galactica

เครื่องเล่นท้าประลองความกลัวด้วยรถไฟเหาะตีลังกาความเร็วสูง ฝากสัมภาระไว้ในล็อกเกอร์ทันสมัยก่อนเดินตัวปลิวขึ้นไปเล่น มีสองสาย รางสีแดง Human รถไฟเหาะแบบเท้าติดพื้น และแบบรางสีน้ำเงิน Cylon รถไฟเหาะแบบห้อยขา เราเริ่มกันที่รางสีแดงก่อน ด้วยความสูงเท่าตึก 14 ชั้น เสียวมากเวลาขาลง เล่นเอาหลายคนเริ่มเข็ดที่จะเล่นรางน้ำเงินต่อ เลยพักไว้ก่อน

Ancient Egypt

เดินเท้าเข้าสู่ปราสาท เจอกับทางวกวนจนมึนหัว ก่อนจะได้พบกับรถไฟเหาะที่จะพาเราท่องไปในทางอันมืดเกือบจะมิด พร้อมด้วยเอฟเฟ็กต์ต่างๆ โดยเฉพาะไฟที่ทำหน้าร้อนผ่าว เสียงประกอบอันน่ากลัว ความเสียวเพิ่มมากกว่า Galactica อีกหน่อยตรงที่เราดิ่งไปโดยไม่ค่อยจะเห็นอะไรนี่แหละ สุดท้าย ทุกคนโล่งอก ในที่สุดเราก็รอดกลับออกมาได้

Treasure Hunters

นั่งรถรุ่นคุณปู่สำรวจเส้นทางมหาสมบัติ อันนี้ชิลๆ มาก เอฟเฟ็กต์ของเครื่องเล่นนี้ดูเด็กๆ ไปเลยเมื่อเทียบกับที่ผ่านๆ มา

The Lost World

เราต่างก็คงเคยผ่านการชม Jurassic Park กันมาอย่างน้อยก็สักภาค ที่นี่จะพาเราไปพบกับไดโนเสาร์หลายๆ ชนิดที่พบในหนังของสปิลเบิร์กเรื่องนั้น เครื่องเล่น Jurassic Park Rapids Adventure เป็นลักษณะล่องแก่ง มีเรือทรงกลมที่นั่งได้ 9 คน ไหลไปตามสายน้ำรอบด้านเป็นฉากในหนัง มีเสื้อกันฝนไปด้วยก็อาจจะช่วยให้เปียกน้อยลงได้บ้าง อีกเครื่องเล่น Canopy Flyer รถไฟเหาะแบบห้อยขา 4 คน เสียวพอประมาณ แต่คนนั่งหันหลังน่าจะเสียวกว่านะ

Discovery Food Court

พักเที่ยงกันด้วยการหาอะไรทานภายในยูนิเวอร์ซัลสตูดิโอนี่แหละ แม้ว่าอาหารจะค่อนข้างแพงอยู่สักหน่อยแลกกับค่าใช้จ่าย S$22.80 ที่แบ่งเป็น GFC 2pcs Chicken พร้อม Fried bun + Coleslaw (S$7.50), Crispy Chicken Combo พร้อม Criss Crust Fried แสนอร่อย (S$8.70) และ Coke 2 แก้ว (S$6.60) แต่ก็นับว่าอิ่ม อร่อยและคุ้มทีเดียว

พออิ่มก็ได้เวลากลับไปเล่นต่่อ

Far Far Away

ภายในปราสาทอันสวยงาม ที่นี่จะมีโรงภาพยนตร์ 4 มิติที่จะฉายหนังสั้นตอนพิเศษของ Shrek เริ่มด้วยอารัมภบทที่หน้าโรงก่อนจะเข้าไปนั่งจับจองที่กัน ใส่แว่น 3 มิติ เก้าอี้สั่นขยับได้ พร้อมเอฟเฟกต์ลมและน้ำ เพลิดเพลินหรรษากันไป

Madagascar

ภาพยนตร์แอนิเมชั่นน่ารักๆ ของเพื่อนซี้สี่ขาจากสวนสัตว์ที่กลายมาเป็นเครื่องเล่นสไตล์ชิลๆ เรือลำจ้อยที่ลอยล่องอยู่บนกระแสเข้าไปในถ้ำ ไปเจอกับตัวละครในทุกๆ ภาค เพลินๆ ครับด่านนี้

Lights Camera Action

Hosted by Steven Spielburg : สถานที่ดูเล็กไปถนัดตาเมื่อเทียบกับเครื่องเล่นอื่นๆ แต่นั่นเป็นแค่เพียงอารัมภบทก่อนนำเข้าสู่ภายใน ฉากจำลองของการถ่ายทำหนังแอ็กชั่นที่ใกล้เคียงของจริง ทั้งแสง สี เสียง ไฟ น้ำ ทำออกมาได้ตื่นเต้นตื่นตามากๆ ครับ

มีจุดหนึ่งที่เราทิ้งเอาไว้ยังไม่ได้เข้าไปนั่งชมเพราะไม่ทันเวลา นั่นคือ Waterworld ซึ่งจะเปิดการแสดงเป็นเวลา เราจึงกลับไป Battlestar Galactica อีกครั้ง น่าเสียดายที่พอกลับมาจะเล่นรางสีน้ำเงิน Cylon อีกที เหลือเพียงผมกับเพื่อนที่จะขึ้นไปเล่น ได้นั่งแล้วเชียวแต่เกิดเหตุขัดข้องเลยต้องกลับลงมาโดยยังไม่ได้เล่นเสียยังงั้น เพราะต้องไปดู…

Waterworld

การแสดงที่จะมีเป็นรอบๆ คือ 12.00, 14.00, 16.30 เราทันได้ชมรอบสุดท้ายพอดี กับฉากที่จำลองมาจากหนังชื่อเดียวกัน เก้าอี้แบบอัถจรรย์ที่แบ่งสีไว้ให้รู้ว่า ตรงนี้จะเปียกมาก-ฟ้า เปียกน้อย-เขียว ไม่เปียก-น้ำตาล เริ่มต้นด้วยการเล่นมุขกับผู้ชมก่อนจะเริ่มต้นฉากแอ็คชั่น สนุกสนานกับการมองเห็นผู้ชมเบื้องล่างโดนนักแสดงแกล้งนี่แหละ

เรายังเหลือ Crane Dance ที่จะแสดงในช่วง 3 ทุ่ม จึงใช้เวลาที่เหลือไปกับการเดินไปเดินมาใน Mari Time Xperiental Museum พิพิธภัณฑ์ที่นำเสนอประวัติศาสตร์การค้าขายที่เคยเป็นมาในอดีตของสิงคโปร์ มีทั้งแบบตั้งตัวอย่างสินค้าประกอบคำอธิบาย และรูปแบบ interactive ให้ผู้เข้าชมมีส่วนร่วม พร้อมทั้งยังมีส่วนแสดงแอนิเมชั่นขนาดสั้นให้ชมกันแบบสบายสุดๆ บน Bean Bag บางคนใช้เป็นที่นอนหลับพักเหนื่อยกันเลยเชียว

มื้อเย็นของเรา นั่ง Sentosa Express ไปยัง Imbiah Station เดินเล่นที่ Imbiah Lookout แต่ก็ไม่มีอะไรให้เราดูมากนักเพราะตั้งใจหาที่กินมากกว่า สุดท้ายเราก็ลงมาตรงที่เจ้าสิงโตเมอร์ไลออนตัวใหญ่ตั้งอยู่ กินง่ายๆ ที่ KFC ก่อนจะนั่ง Sentosa Express กลับไปสถานี Waterfront Staion อีกครั้ง

ปิดท้ายการท่องเที่ยวใน USS ด้วยการชม…

Crane Dance

เครนสองตัวที่เป็นนกกระเรียนมาเกี้ยวพาราสีให้เราชมประกอบแสง สี เสียงเพลง และม่านน้ำ ตั้งอยู่ริมน้ำ การแสดงเพียง 10 นาทีแต่เราไปนั่งรออยู่นานมาก จะสลบไสลกันหมดแล้ว เพราะเหนื่อยอ่อนจากการเดินและเล่นเครื่องเล่นมาทั้งวัน

เราปิดท้ายค่ำคืนนั้นด้วยการกลับมาสถานี Little India และทานก๋วยเตี๋ยวหมี่ซั่วร้านเดิม Yan Kee Noodle House บนถนน Jalan Besar ก่อนกลับเข้าที่พัก อาบน้ำแล้วก็นอนหลับ

คืนที่สองหลับได้แล้ว คงเพราะความเหนื่อยล้าที่ไปสนุกกับ USS มาทั้งวันนั่นแล