บทความนี้ คงเป็นบทที่รวมร้านอาหารแสนอร่อยเราสองคนได้ไปแวะเวียนและลิ้มรสมา รวบทุกร้านในสองวันที่ไปเยือนเมืองกาญจน์เข้าอยู่ในบทเดียว อาจจะไม่ได้ดีเด่นเพียงพอจะเป็นไกด์นำกินสำหรับใครๆ ได้
การเดินทางไปเยือน จ.กาญจนบุรี ครั้งนี้เป็นเพียงทริปสั้นๆ ที่เลือกเอาที่ใกล้ๆ ที่ยังไม่เคยไป สามารถขับรถไปเยือนได้ง่าย ก็แปลกดีนะที่ใครๆ เขาก็เคยไปจังหวัดนี้กัน แต่เรายังไม่เคย ก็อาศัยว่าคนข้างๆ เขาเคยมาหลายหนช่วยแนะนำร้านอาหารให้ได้บ้าง อีกส่วนหนึ่งก็คือการเสิร์ชหาด้วยเจ้าพ่อกูเกิลนี่แหละ
เริ่มจากวันแรกที่ตั้งใจจะไปเยือนสะพานข้ามแม่น้ำแควเสียหน่อย จึงเลือกร้านอาหารแถวๆ นั้นซึ่งกลายเป็นที่จอดรถภายในตัว
คีรีธารา
คีรีธารา เป็นร้านอาหารขนาดค่อนข้างใหญ่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควไม่ห่างจากสะพานข้ามแม่น้ำแควมากนัก สามารถนั่งดูแม่น้ำและสะพานได้อย่างชัดเจน มีพื้นที่กว้างขวาง โต๊ะนั่งมีทั้งห้องแอร์และโอเพนแอร์ โดยเฉพาะโอเพนแอร์นี่มีหลายระดับใกล้ไกลแม่น้ำต่างกันไป แถมยังมีบริเวณแพด้านล่างอีกด้วย มาบ่ายๆ อย่างนี้ เลือกที่นั่งโอเพ่นแอร์ที่มองเห็นสะพานข้ามแม่น้ำแควด้วยก็แล้วกัน อาจจะร้อนบ้างนิดหน่อย แดดจะเปลี่ยนที่ตลอดเวลา แต่ว่าเราเอาบรรยากาศไงครับ
ด้วยเพราะเรามากันเพียง 2 คน จะสั่งจัดเต็มก็คงจะทานกันไม่หมด จึงสั่งกันพอเบาๆ เอาพออิ่มๆ ก็แล้วกัน เริ่มกันที่เมนูแรกกันเลย ต้มยำปลากะพง — รสชาติแซ่บสมกับที่เกิดมาเป็นต้มยำ เนื้อปลากะพงสด ทำให้ออกมาอร่อยมากๆ ครับ
ส่วนอีกเมนู คือ ทอดมันกุ้ง เมนูที่สั่งบ่อยจนเป็นเมนูที่คุ้นชินลิ้นไปหมดแล้ว หน้าตาเหมือนทอดมันกุ้งทั่วไปที่เคยลิ้ม รสชาติก็ถือว่าได้มาตรฐานที่เคยลอง
บรรยากาศดี อาหารอร่อย ดูจะเป็นจุดขายของร้านคีรีธารา แม้ว่าจะราคาสูงพอสมควรแต่เมื่อแลกกับมุมมองที่อยู่ใกล้กับสะพานมากที่สุดร้านหนึ่งก็ถือว่าไม่เลวเลยถ้าจะมาลองสักครั้งนึง
อบอุ่นเฮ้าส์
ร้านขนาดกลางๆ ตกแต่งอย่างอบอุ่นสไตล์วินเทจหน่อย บ้านไม้โต๊ะเก้าอี้สีขาวๆ มีต้นไม้สีเขียว ประดับด้วยตุ๊กตาหมี ขายทั้งอาหารคาวที่มีเมนูให้เลือกไม่มากนัก กับเมนูของหวาน ที่มีทั้งขนม เบเกอรี่ กาแฟและน้ำหวานต่างๆ
เราไปแวะเวียนในวันเสาร์บ่ายคล้อยด้วยความหวังที่จะลิ้มรสของหวานหลังทานของคาวมาแล้วจากคีรีธารา อีกเหตุหนึ่งคือ รอเวลาให้เมฆและฝนจางไปก่อน จึงสั่งมาเพียง น้ำแอปเปิลโซดา ชาเขียวปั่น และฮันนี่โทสต์ (Honey Toast)
แอปเปิลโซดา รสชาติเข้าทีแต่ต้องคนให้มันหวานทั่วทั้งแก้วเสียก่อน ขณะที่ชาเขียวปั่น กลมกล่อมใช้ได้ แต่ฮันนี่โทสต์สิ ทำไมมันจึงหมดเร็วเยี่ยงนี้
ในวันต่อมา อาหารเช้าของเราก็ยังฝากท้องไว้ที่ร้านนี้เช่นกัน ข้าวกะเพราทะเลจานเด็ดจานนั้นยังคงติดใจไม่หาย อร่อยจริงๆ
การจะหา ร้านอบอุ่นเฮ้าส์ นั้น หาไม่ยากเพราะมันอยู่ในเขตตัวเมืองกาญจนบุรี ถ้ามาจากกรุงเทพฯ บนถนนแสงชูโต จะอยู่ทางด้านซ้ายมือ เลยจาก Tesco Lotus มาไม่ไกล อยู่ฝั่งเดียวกับ Tesco Lotus และอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสถานีบริการน้ำมันปีโตรนาส ใกล้ๆ กับร้าน Gusto อะไรสักอย่าง นั่นแหละๆ
ครัวผักหวานบ้าน 1 ไร่นฤบดินทร์
นี่คืออีกร้านหนึ่งที่เราได้กินสั่งอาหารทานในวันที่สองของการท่องกาญจน์ แน่นอนว่า เรามีเวลาไม่มาก แต่ภารกิจหาอาหารทานก็ยังสำคัญ หลังตระเวนเที่ยวในอำเภอไทรโยคแล้วก็ต้องแวะร้านนี้ ร้านอาหารที่ “ผักหวาน” กลายเป็นส่วนผสมสำคัญของร้าน มีทั้งที่นั่งแยกมีมุ้งกางไว้ดูเป็นส่วนตัว และมีส่วนโอเพนแอร์ปกติที่ฉีดละอองให้ลูกค้าไม่ร้อนด้วย
และเมนูแรกก็กลายเป็น “ผัดผักหวานน้ำมันหอย” นั่นเอง บอกได้อย่างเดียว “อร่อยอะ”
ในเมื่อมีกันอยู่แค่สองคนและก็ไม่ใช่พวกกินจุอะไรนักหนา อีกเมนูนึงจึงสำคัญ เราเลือกจากที่ลองเช็คอินใน Foursquare เลยสั่ง “ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน” ซึ่งต้องบอกว่า “อร่อยมาก” ขนาดข้าวสวยยังอร่อย แต่พออาหารเมนูที่สามใกล้จะมา “น้ำพริกกะปิ+ผักลวก+ปลาทู” เลยต้องขอเปลี่ยนเป็นใส่กล่องแทน
ที่ ร้านครัวผักหวานบ้าน 1 ไร่นฤบดินทร์ นี้เขามีกาแฟสดขายด้วยนะ แยกเป็นบ้านต่างหากไปเลย ไม่ได้เขียนแนะนำเพราะเราไม่ได้ไปลองดื่มกาแฟก็เท่านั้นเอง
การเดินทางมาร้านผักหวานบ้านนั้นดูเหมือนจะไม่ยาก อาจจะบอกจุดลำบาก แต่เจอง่ายมากๆ อยู่ริมถนนแสงชูโต (สาย 323) ระหว่างทางไปไทรโยค เลยแยกแก่งเสี้ยนไปไม่ไกล ถ้ามาจากเมืองก็อยู่ด้านขวา แต่ถ้ากลับมาจากไทรโยคก็จะอยู่ด้านซ้าย มีที่จอดรถไว้บริการมากพอสมควร
—————————
นี่ก็คงจะควรค่าแก่เวลาแล้ว ขอจบบทความพากินในกาญจน์แต่เพียงเท่านี้ก่อน บทหน้ามาว่ากันใหม่เรื่องเที่ยวกันต่อนะครับ
[กาญจนบุรี (1) | สะพานข้ามแม่น้ำแคว] [กาญจนบุรี (3) | ถ้ำกระแซ น้ำตกไทรโยคน้อย ต้นจามจุรียักษ์ วัดถ้ำเสือ]
เมืองกาญน่าเที่ยวมาก ที่พักก็สวยงาม