ค่ำคืน ณ หัวหิน ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตื่นเช้าขึ้นมาพร้อมๆ อากาศที่มีวี่แววสดใส เมฆมัวๆ ยังลอยอยู่จางๆ ผลักตัวเองลุกขึ้นด้วยความยากเย็นเพราะมันยังอยากจะนอนต่อให้เต็มอิ่มกว่าเดิม แต่ก็จำเป็นต้องลุกไปล้างหน้าล้างตาเพราะเวลาของอาหารเช้านั้นคงไม่รอเรา
เวลาอาหารเช้าของที่พักของเรา Riad Hua Hin คือ 08.00-10.00 น. เพราะฉะนั้น จะมัวอ้อยอิ่งไม่ได้ แต่กระนั้น ก็ยังมีเวลาพอจะอาบน้ำอาบท่าแล้วค่อยลงมาทานอาหารเช้าข้างล่าง พื้นที่ริมสระด้านหนึ่งเป็นโต๊ะอาหาร ชุดอาจไม่ใหญ่นัก แต่เราก็เลือกมาทั้ง ขนมปังกับแยม น้ำส้ม ฮ็อตดอก เบคอน ไข่ดาว เสริมทัพด้วยข้าวต้มไก่ ไม่นานอาหารก็ลงท้องไปหมดแล้ว จึงได้เวลาขึ้นไปอ้อยอิ่งถ่ายรูปกันเล็กน้อย เห็นชาวบ้านชาวช่องเขาขนของออกไปเช็คเอาต์กันหมดแล้ว ก็คงจะเหลือเพียงห้องเรานี่ล่ะ ที่ยังไม่ไปถึงไหนกันสักที
วันสุดท้ายของการท่องเที่ยวหัวหินแล้วสินะ ภารกิจที่เหลือคงไม่มีอะไรมากไปกว่าออกไปหาดินแดนที่ยังไม่เคยได้ไป…ก็เพียงเท่านั้น
Sunday, 20 October 2013
10.30 น. ได้เวลาเช็คเอาต์ (จริงๆ เล่าผิดไปนิดหนึ่ง หลังทานข้าวเราลงไปเดินริมชายหาดกันเล็กน้อย แต่นั่นเล่าไปแล้วเมื่อตอนก่อนหน้า…ซะงั้น) ถนนกำลังเปียกพอดีๆ เพราะฝนโปรยปรายลงมาพอประมาณก่อนจะซาไป วันนี้ วี่แววอากาศเริ่มจะเปิดโล่งมากกว่าวันวาน ขับรถหันหน้าขึ้นเหนือ กลับไปทางเก่า เข้าตัวเมืองหัวหิน
ค้นหาอยู่สักพักก็เจอจนได้ “ร้านแม่เก็บ” ร้านขายของฝากที่ค่อนข้างมีชื่อ ขายทั้งขนมที่เป็นของแห้งและขนมสดที่เก็บไว้ได้ 1 – 7 วัน (แล้วแต่ชนิด) ร้านอยู่หน้าปากซอยหัวหินราว 80 กว่าๆ ซอยเดียวกับโรงแรมใหม่ G Hua Hin Resort & Mall ร้านไม่ใหญ่มาก แต่มีผู้คนมาจับจ่ายกันมากพอดู
11.44 น. ด้วยความที่เพิ่งทานกันมาไม่นาน และมันก็ยังไม่ถึงเที่ยงวัน ท้องยังไม่ร้องว่าหิว เลยได้แค่ตัดสินใจแวะเข้าไปตามถนนแนบเคหาสน์ที่พอจะคุ้นๆ อยู่บ้าง ในที่สุดก็จอดข้างทางเพื่อเดินหาสักร้านลองลิ้มความอร่อยแบบรองท้องๆ ดู เดินไปเพียงไม่ถึงร้อยเมตรก็เจอเข้ากับร้านดัง คนยังไม่เยอะเท่าไหร่เลยแวะเข้าไปดู
ร้าน บ้านถั่วเย็น Icy Beans
ร้านที่แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ครึ่งหนึ่งเป็นโต๊ะทานอาหาร อีกครึ่งก็เป็นโต๊ะทานของหวาน เราอยู่ครึ่งหลัง เลือกอาหารจากเมนูมาได้ก็เรียกพนักงานเดินมารับออร์เดอร์
สังเกตได้ว่าคนมากันเพียบร้านแล้ว ช่วงเวลานั้นก็เที่ยงวันพอดิบพอดี สังเกตได้ว่า บางโต๊ะที่มาทีหลังเขาได้ของทานไปก่อน จึงพยายามที่จะเรียกพนักงานเพื่อแจ้งว่ายังไม่ได้อะไรเลย ในที่สุด ก็ได้รับประทานของที่สั่งไว้จนได้
ที่นี่ทั้งเมนูที่เป็นเบเกอรี่ อย่าง แมงโก้เลิฟเวอร์, ไอซ์คัสตาร์ด, ไอซ์ออเรนจ์เค้ก, ไอซ์ทิรามิสุ เป็นต้น และทั้งเมนูที่เป็นน้ำถั่วเย็น-น้ำปั่นต่างๆ รวมทั้งเมนูไอศกรีม เราเลือกสั่งชาไทยเย็น กับ ไอซ์เรียวกุฉะ (ไอศกรีมชาเขียวเข้มข้น โรยหน้าด้วยถั่วแดง) ซึ่งก็อร่อยทีเดียว
เช็คบิลแล้วก็ขับออกมาทางเดิมเป๊ะๆ
เกี่ยวกับร้าน บ้านถั่วเย็น
เวลา : เวลา 09.00 – 23.00 น. หมายเลขโทรศัพท์ : 032 512 693
ที่อยู่ : เลขที่ 10 ถ.แนบเคหาสน์ อำเภอหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ 77110
ตำแหน่ง : ถ้าขับเข้าซอยหัวหิน 51 ถึงแยกเลี้ยวขวา 20 เมตร ร้านจะอยู่ขวามือ แต่เราเลือกจะขับเข้าไปทางซอยหัวหิน 55 (ถนนชมสิน) ถึงแยกก็เลยต้องเลี้ยวซ้ายเข้าถนนแนบเคหาสน์ ขับไปไม่ใกล้ไม่ไกล ประมาณซอยแนบเคหาสน์ 6 ร้านอยู่ซ้ายมือ ตรงข้ามกับเดอะเฮนหัวหิน
Santorini Park ชะอำ
12.25 น. ได้เวลาออกเดินทางกันต่อ มุ่งหน้าไปทางกรุงเทพฯ แต่เราจะแวะสถานที่ที่หนึ่งกันก่อน ยังไม่เคยมากับเขาสักที Santorini Park สวนสนุกแห่งใหม่ที่ล่าสุดเปิดสวนน้ำ Santorini Water Fantasy ด้วย แต่ผมเลือกจะไปเที่ยวในส่วน Santorini Park ก่อน อย่างน้อยก็ควรจะเคยมาสัมผัสสักครั้งหนึ่ง
มันคือแหล่งช้อปปิ้งและท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ประกอบไปด้วย 5 โซนด้วยกัน ผสมผสานทั้งสวนสนุกที่มีเครื่องเล่นอย่างชิงช้าสวรรค์เป็นตัวชูโรง เข้ากับบรรยากาศของสถานที่ช้อปปิ้งในรูปแบบต่างๆ ด้วยสถาปัตยกรรมในแบบซานโตรินี เน้นออกแบบอาคารสีขาวสะอาดตา ขอบมนๆ มีประตูหน้าต่างสีสดใส มีร้านค้าจากแบรนด์ดังๆ มากมาย สลับไปกับมุมถ่ายรูปน่ารักๆ ที่คนไทยชอบไปถ่ายมาอวดเพื่อนๆ กันอยู่บ่อยๆ
จ่ายค่าบัตรคนละ 50 บาทก็ได้เวลาผ่านประตูเข้าไปแล้ว
สถาปัตยกรรมแบบนี้มันเหมาะมากจริงๆ กับวันที่ฟ้ากระจ่างและแดดจัดเต็ม แต่ความที่ผู้คนมาเยือนกันเยอะมาก ทำให้อาจจะถ่ายรูปให้ได้บรรยากาศดีๆ นั้นออกจากยากอยู่สักหน่อย กับมุมถ่ายรูปสวยๆ ก็มักมีผู้คนใช้งานอยู่ก่อนแล้ว อาจจะต้องรอคิวกันนิดนึง บางจุดมีบันไดสวยๆ ให้ถ่ายรูป บางจุดก็สามารถขึ้นไปชั้นสองเพื่อให้อีกมุมหนึ่ง มีม้าหมุนแทรกตัวอยู่ข้างในด้วยนะเออ
ดูเขาพยายามจะใส่งานออกแบบและไอเดียลงไปในทุกจุด ไม่เว้นแม้กระทั่งห้องน้ำที่สามารถใช้เป็นมุมถ่ายรูปได้ด้วย
ปิดท้ายกันด้วยการเข้าไปช้อปปิ้งเสื้อยืดในร้านของ GTH แล้วเข้าไปทานไอศกรีมกันในร้านสวยๆ อย่าง Meet ‘N Greece – Coffee Library แล้วจึงได้เวลาขับกลับออกมามุ่งหน้ากลับคืนสู่อ้อมอกของบางกอก
…ก่อนที่จะเย็นย่ำไปกว่านี้
เกี่ยวกับ Santorini Park ชะอำ
เวลา : เปิดทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-21.00น. ส่วนวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 20.00 น. ค่าบัตรผ่านประตูท่านละ 50 บาท
ที่อยู่ : 555 หมู่ที่ 3 ตำบลเขาใหญ่ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี 76120
เว็บไซต์ : http://www.santoriniparkchaam.com/
ตำแหน่ง : อยู่ริมถนนเพชรเกษม ถ้ามาจากหัวหินจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ ถ้ามาจากกรุงเทพฯ จะอยู่ฝั่งขวา เลยจาก Premium Outlet และสะพานกลับรถไปไม่ไกลนัก อยู่ติดๆ กับเมย์มินท์
การเดินทางขาไปนั้นดูไม่ยากเย็นอะไรนัก หากแต่ขากลับนั้นห่างกันลิบลับ ด้วยจำนวนรถราที่ค่อยเพิ่มจำนวนขึ้นทุกที จนในที่สุด รถก็เริ่มเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างเชื่องช้า เวลาที่ใช้ในการเดินทางกลับนั้นยาวนานขึ้น ความใจเย็นและอดทนจะพาเรากลับสู่บ้านอย่างปลอดภัย
19.30 น. ทางสะดวกมากขึ้น เคลื่อนได้เร็วขึ้น ในที่สุดก็ถึงจุดหมาย เป็นอันว่าจบทริปครั้งนี้เป็นที่เรียบร้อย….
[ ตอนแรก The Venezia หัวหิน ] [ ตอนสอง Riad รีสอร์ทแมวๆ, ลาแม ร้านอาหารทะเลวิวสวย ]