หากคุณมีเวลาเพียง 8 นาทีที่จะย้อนกลับไป เพื่อตามหามือวางระเบิดในอดีตให้ได้ ภารกิจที่หนักหนาสาหัสชิ้นนี้ คุณจะรับทำมั้ย แน่นอน คุณจะไม่เป็นอะไร เมื่อครบ 8 นาที คุณจะกลับมายังร่างเดิม สิ่งที่เป็นเป้าหมายของภารกิจมีเพียงหาตัวคนร้ายให้ได้เท่านั้น
…แต่คุณต้องแฝงไปในร่างของคนอื่น
นายแพทเดินทางสู่โรงภาพยนตร์ Paragon Cinplex อีกครั้ง โรง Siam Pavalai รอเราอยู่ ที่นั่งแถวเดิมที่เคยนั่งประจำ วันนี้ ภาพของหนังบนจอชัดแจ๋ว สีสวยมากจริงๆ ‘Source Code’ รอบค่ำ ได้เวลาของความบันเทิงที่ทำเป็นประจำอีกแล้วสินะ
รีวิวหนัง ‘Source Code’
หนังที่ว่าด้วยการย้อนเวลาสำหรับฮอลลีวู้ดนั้น อาจจะมีมาหลายเรื่องแล้ว บางเรื่อง อาจเป็นความสามารถพิเศษในการเห็นอดีต แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ มันเป็นหนังที่นำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ผูกเรื่อง บอกว่ามีเทคโนโลยี ที่ทำให้เราสามารถย้อนเวลากลับไปในอดีตได้อย่างมาก 8 นาที
โคลเตอร์ สตีเว่นส์ (Jake Gyllenhaal) นายทหารผู้ตื่นขึ้นมาบนรถไฟขบวนที่กำลังวิ่งเข้าสู่กรุงชิคาโกในเช้าของวันหนึ่ง ในร่างที่มันไม่ใช่ของเขา พร้อมกับภารกิจที่ต้องค้นหาเจ้าของระเบิดที่ซุกซ่อนไว้ที่ใดที่หนึ่งในรถไฟขบวนนั้น ซึ่งในอีกไม่กี่นาทีมันจะระเบิดขึ้น และกลายเป็นอาชญากรรมร้ายแรง และต่อเนื่อง
ทางการต้องการหยุดอาชญากรรมขั้นที่ร้ายแรงกว่านั้น จึงใช้เครื่องมือที่เรียกว่า “ซอร์สโค้ด” เพื่อเชื่อมโยงระหว่างโคลเตอร์กับร่างของครูหนุ่มผู้โดยสารรถไฟคนหนึ่งเข้าด้วยกัน
หนังมีลีลาที่เล่าวนซ้ำสำหรับภารกิจแต่ละครั้ง แต่ทุกครั้ง มันไม่เคยเหมือนเดิม โคลเตอร์กลับไปบนรถไฟขบวนนั้นแต่ละครั้ง ด้วยเป้าหมายเดิม แต่ในใจเขายังมีอีกหลายจุดมุ่งหมายที่เขาเองเลือกจะกระทำ ด้วยเวลาที่จำกัดเพียง 8 นาที ทำให้มันเร้าคนดูพอสมควรที่จะเฝ้าดูว่า เขาจะทำอะไรได้บ้างในการย้อนกลับไปครั้งนั้น และเขาจะได้อะไรที่เป็นเบาะแสมากกว่าเดิมหรือไม่ ครั้งถัดๆ มา เขาจะทำอะไรที่ต่างไปจากเดิมบ้าง และทุกๆ ครั้ง ปริศนาต่างๆ ก็จะถูกไขกระจ่างในหัวของคุณมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนคนเขียนพยายามทำเรื่องที่อธิบายยากๆ ให้เข้าใจง่ายๆ ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ให้คนดูเข้าใจเรื่องได้ทัน
…เป็นการเขียนบทที่แยบยลดีจริงๆ
และแน่นอน หากคุณดูตัวอย่าง ก็จะพบว่า เขาได้พบกับนางเอก คริสตินา วอร์เรน (Michelle Monaghan) เธอรู้จักครูหนุ่มที่เขาไปแฝงกายอยู่ ความสวยและความดีของเธอ ทำให้เขาคิดจะทำอีกภารกิจหนึ่งขึ้นมาโดยพลัน
การเดินทางย้อนกลับไปแต่ละครั้งของเขา จึงไม่ได้เป็นเพียงการค้นหามือระเบิด แต่ยังพ่วงภารกิจของหัวใจเข้าไปด้วย ถ้าเขาไม่ได้คิดเพียงแค่จะสืบหามือระเบิด แต่ยังคิดจะช่วยผู้หญิงที่เขาปักใจชอบด้วยล่ะ มันจะเป็นยังไง นี่จึงเป็นทั้งหนัง Sci-fi/Thriller และยังเป็นหนัง Romance อีกด้วย
ซึ่งแน่นอน การที่หนังหยิบเรื่องของการย้อนเวลามากล่าวถึง ย่อมต้องเป็นปัญหาบ้างกับคนดูบางคน สุดท้าย หนังเลือกจะจบได้อย่างที่ไม่ยากเกินคาดเดามากนัก แต่ก็สร้างปัญหาสำหรับคนดูที่มักสับสนเรื่องของทฤษฎีการย้อนเวลาอยู่บ้าง
เพียงแต่การจบแบบนี้ ยังมีปัญหาบางอย่างที่ค้างคาใจผมอยู่สักข้อสองข้อ ..ก็เท่านั้น
ชื่อภาพยนตร์: Source Code / แฝงร่างขวางนรก
ผู้กำกับภาพยนตร์: Duncan Jones
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Ben Ripley
นักแสดงนำ: Jake Gyllenhaal, Michelle Monaghan, Vera Farmiga, Jeffrey Wright, Michael Arden
แนว/ประเภท: Sci-fi/Thriller, Romance
ความยาว: 93 นาที
เรท: USA/ PG-13, ไทย/น15+
ผู้ผลิต/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Vendome Pictures, Vendôme Production
ปี: 2554
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 6 เมษายน 2554
มีเรื่องคาใจอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่กล้าถาม กลัวสปอยคนที่มาอ่านทีหลัง :D
ไปดูมาแล้วเหมือนกันค่ะ แต่ว่าแอบรู้สึกผิดหวังนิดหน่อย แบบว่าชื่อเรื่อง “Source Code” มันดูเป็นอะไรที่ดึงดูดใจมากๆ อาจจะเป็นเพราะว่าปกติก็ต้องนั่งดู Source Code อยู่แล้วทุกวันก็เลยคิดว่าหนังจะออกมาท่าไหน แต่พอดูแล้วก็เลยผิดหวังหน่อยๆ อะคะ ว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิด
สำหรับผม เรื่องนี้มันเป็นเรื่องแรกที่เป็นแนวๆ ย้อนเวลา สำหรับผม…ทำให้ตอนดูหนังตัวอย่างแล้ว ตื่นเต้นเป็นที่สุดครับ ^~^
แล้วหลังจากได้ดูจริงๆ เกิดอาการ เบื่อฉากเดิมๆ ที่ มีอยู่ไม่มากฉากนัก
แต่โดยรวมๆแล้ว ผมว่าสนุกทีเดียวหละ! เป็นหนังตามกระแสได้ ผมว่า หนังสมัยนี้ ชอบมาแนว สร้าง ทฤษฎี ของตัวเองขึ้นมา แบบ การ Kick ใน inception หรือ การกลับมาจากการตายใน source code…
ชอบนะ….หลังจากที่ดูจบ
ก็มีปัญหาคาใจที่อยากหาคำตอบได้..
คือ..โลกคู่ขนาน..มีจริงรึเปล่านะ?
ถ้ามี…คงจะดีไม่น้อยเลยอ่ะ.. :)
ถ้ามี…ก็ดีสิเน๊อะ…ว๊าวววว….อิ_อิ
ชอบ.อยากให้ชีวิตจริงมีโลก..คู่ขนานบ้างจัง~
:D